วิธีการ/ขั้นตอนการทำรายงานหรือโครงงานวิชาการ ซึ่งหลัก ๆ แล้วก็ไม่แตกต่างกันมากนัก สำหรับระดับมัธยมและระดับสายวิชาชีพ ส่วนระดับปริญญาตรี หัวข้อก็จะคล้าย ๆ กัน แต่ จะมีความลึกข้องเนื้อหามากกว่า ซึงโดยทั่วไป การทำรายงานจะประกอบไปด้วย บทนำ ทฤษฎีที่เกี่ยวข้อง วิธีการและเครื่องมือ ผลและวิจารณ์ผล และสรุปผลการทดลอง ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้1. บทนำ คือ บทที่กล่าวถึงที่มาและความสำคัญของงานวิจัยนั้น ๆ จะต้องผ่านการศึกษาค้นคว้าไม่ว่าจะเป็นงานวิจัยหรือการทดลองของคนอื่น หรือการลงพื้นที่เก็บข้อมูล เพื่อให้เห็นภาพรวมของปัญหา ปัญหาที่แท้จริงคืออะไร จากข้อมูลเราจะใช้วิธีไหนในการแก้ปัญหา พบช่องว่างใดบ้างที่เราจะสามารถพัฒนาได้ นั่นคือความสำคัญที่เราต้องทำงานวิจัยนี้หรือทำโครงงานเรื่องนี้ ท้ายบทนำก็ให้ระบุวัตถุประสงค์และขอบเขตให้ชัดเจน เพื่อกำหนดขอบเขตงานวิจัย จะได้ไม่ฟุ้งมากเกินไป เช่น วัตถุประสงค์เพื่อแก้ไขปัญหาการใช้สารเคมีในนาข้าว ขอบเขตคือ ในพื้นที่บ้านโคกยาว แปลงขาคีม จำนวน 20 ไร่2. ทฤษฎีที่เกี่ยวข้อง คือ บทนี้จะเป็นการศึกษาทฤษฎีทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับเรื่องที่จะทำ เพื่อให้เห็นภาพรวมว่าสิ่งที่เราจะทำมีข้อมูลเป็นยังไง มีระบบไหนบ้างที่ใกล้เคียงระบบเรา มีข้อดีข้อเสียอย่างไร ค่านั้นค่านี้หาอย่างไร สูตรคำนวณเป็นแบบไหน เช่น ถ้าทำเรื่องการปลูกข้าวอินทรีย์ ก็ต้องไปหาข้อมูล เกี่ยวกับปุ๋ยอินทรีย์ ธาตุอาหารที่ข้าวต้องการ ปริมาณปุ๋ยอินทรีย์ที่ต้องใช้ในนาข้าว เรื่องพันธุ์ข้าวที่เหมาะกับดิน ลักษณะดินประเภทต่าง ๆ ซึ่งทุกอย่างเกี่ยวข้องกับเรื่องที่เราจะทำ เมื่อเราหาข้อมูลพวกนี้มากขึ้น เราก็จะมีความรู้ในเรื่องที่เราทำมากขึ้นเช่นกัน 3. วิธีการและเครื่องมือ คือ เราจะใช้วิธีไหนในการทำโครงงาน มีหลักการทำอย่างไร ใช้เครื่องมืออะไรทำบ้าง ยกตัวอย่าง โครงงานเรื่อง การเก็บข้อมูลการเติบโตของต้นข้าว ในส่วนนี้เราก็ต้องค้นคว้าวิธีการเก็บข้อมูลการเจริญเติบโตของพืช ซึ่งต้องเป็นวิธีที่มีมาตรฐาน เช่น การสุ่มเลือกต้นข้าวสุ่มอย่างไร วัดขนาดแบบไหน ใช้เครื่องมืออะไรวัด ต้องวัดเวลาไหน ความถี่ในการวัดมีอะไรบ้าง ซึ่งโดยภาพรวมคือ ทำให้เห็นว่าเราใช้วิธีการไหนในการทำงาน ใช้เครื่องมืออะไร เพื่อให้คนรุ่นน้องมาอ่านแล้วสามารถทำตามได้นั่นเอง 4. ผลและวิจารณ์ผล คือ การนำเสนอผลการทดลอง ไม่ว่าจะเป็นในแบบตาราง ข้อความ กราฟ ภาพ เป็นต้น เป็นการรายงานผลในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อให้เห็นว่าได้ผลมาแบบไหน จากนั้นก็วิจารณ์ผล ว่าผลที่ได้เป็นยังไง สอดคล้องกับงานวิจัยคนอื่นหรือไม่ ตีความได้ว่าอย่างไร เช่น อธิบายกราฟการเจริญเติบโตของต้นข้าว ก็สามารถวิจารณ์ได้ว่า เมื่อข้าวมีอายุ 1-2 เดือน ต้นข้าวมีความสูงเพิ่มขึ้นเป็นเส้นตรง หรือมีการเจริญเติบโตด้านความสูงสัมพันธ์กับเวลาเป็นเส้นตรง แต่เมื่อเวลาประมาณเดือนที่ 3 ต้นข้าวมีความสูงน้อยลงเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า ซึ่งสอดคล้องกับงานวิจัยของ สะอาดและคณะ (2565) เนื่องจากต้นข้าวเป็นโครงสร้างการเติบโตของลำต้นและใบเป็นการออกดอกและผล เลยทำให้หยุดการเติบโตด้านความสูง เป็นต้น5. สรุปผล คือ เป็นการลงความเห็นการค้นพบที่สำคัญที่ได้จากโครงงาน ควรสั้นกระชับ และไม่ซ้ำซ้อนกับเนื้อหาในส่วนก่อนหน้า เช่น ถ้าจะสรุปโครงงานเรื่อง การปลูกข้าวอินทรีย์ จะสามารถสรุปได้ว่า การปลูกข้าวอินทรีย์จำเป็นต้องใช้ปุ๋ยอินทรีย์ในปริมาณที่มากกว่าปุ๋ยเคมี จึงจะทำให้ได้ผลผลิตข้าวที่เท่ากัน แต่ในเรื่องต้นทุนถือว่าใกล้เคียงกัน ดังนั้นทุกครัวเรือนสามารถปลูกข้าวอินทรีย์ได้โดยไม่กระทบต่อผลผลิตที่ได้ ในส่วนนี้สามารถเพิ่มเติมข้อเสนอแนะได้ เช่น การใช้ปุ๋ยอินทรีย์ที่ดีความใช้เวลาไหน ทำปุ๋ยจากอะไรจะได้ผลดีกว่ากันก็จบไปแล้วสำหรับขั้นตอนและวิธีการทำรายงานหรือโครงงานวิจัยทั้ง 5 บทหลัก หวังว่าจะเป็นข้อมูลในการทำโครงงานของน้อง ๆ มัธยม สายวิชาชีพ และระดับปริญญาตรีได้นะครับ ซึ่งวิธีการเหล่านี้ผมใช้ในการเรียน การทำรายงานในระดับปริญญาตรี ปริญญาโท ซึ่งสามารถใช้ได้ดีและเข้าใจหลักการทำรายงานทางวิชาการมาก และทำให้ผมได้เรียนจบในระดับปริญญาตรีมาได้ เลยอยากจะมาแชร์แนวทางหรือแนวคิดเกี่ยวกับวิธีการทำรายงานหรือโครงงานวิชาการเพื่อเป็นความรู้ให้กับน้อง ๆ ในรุ่นถัดไป เครดิตภาพภาพปก ภาพโดย 200 Degrees จาก Pixabay ภาพที่ 1 ภาพโดย Mohamed Hassan จาก Pixabay ภาพที่ 2 ภาพโดย Gerd Altmann จาก Pixabay ภาพที่ 3 ภาพโดย free stock photos from www.picjumbo.com จาก Pixabay ภาพที่ 4 ภาพโดย Dmitriy จาก Pixabay 7-11 Community ห้องลับเมาท์มอยของกินของใช้ในเซเว่น อะไรดีอะไรใหม่ ต้องรู้ ต้องคุย ต้องแชร์