สวัสดีครับเพื่อนๆ ทุกคน กลับมาพบกันอีกครั้ง คราวนี้ผมจะพาไปดำดิ่งสู่ห้วงแห่งความทรงจำกับเกม Action สุดมันส์ในตำนานที่หลายคนอาจจะหลงลืมไปแล้ว นั่นก็คือ Chaos Legion เกมแอคชั่นผจญภัยสไตล์ Hack and Slash ผลงานจากค่าย Capcom ที่วางจำหายในปี 2003 บนเครื่อง PlayStation 2 และ PC จำได้ว่าตอนนั้นผมยังเป็นเด็กประถมตัวเล็กๆ อยู่เลย วันหนึ่งเดินผ่านร้านเช่าเกมแถวบ้าน สายตาก็ไปสะดุดกับปกเกมนี้เข้าอย่างจัง ด้วยความที่เป็นคนชอบอะไรเท่ๆ พอเห็นตัวเอกผมแดงถือดาบเท่ๆ บวกกับฉากหลังที่ดูลึกลับน่าค้นหาแบบนี้ ใครจะอดใจไหวล่ะครับ รีบควักเงินค่าขนมไปเช่ามาเล่นทันที! (ฮ่าๆ) พอได้ลองเล่นเท่านั้นแหละ... ติดหนึบ! เล่นมันส์จนลืมเวลากลับบ้าน โดนแม่ดุไปหลายรอบเลย เอาล่ะ เกริ่นมาพอสมควรแล้ว เราไปดูกันดีกว่าว่าทำไม Chaos Legion ถึงเป็นเกมที่ผม (และเชื่อว่าใครอีกหลายคน) ยังคงจดจำมาจนถึงทุกวันนี้ บทนำ: โลกแห่ง Chaos Legion และระบบ Legion สุดล้ำ Chaos Legion พาเราเข้าสู่โลกแฟนตาซี мрачный ที่เต็มไปด้วยเวทมนตร์ ปีศาจ และสงคราม ตัวเกมเล่าเรื่องราวของ Sieg Wahrheit อัศวินแห่ง聖โอเดอร์ (Holy Order) ผู้มีหน้าที่กำจัด Victor Delacroix อดีตเพื่อนรักที่ทรยศและปลดปล่อยปีศาจออกมาสร้างความวุ่นวาย สิ่งที่ทำให้ Chaos Legion โดดเด่นและแตกต่างจากเกมแอคชั่นอื่นๆ ในยุคนั้นก็คือระบบ "Legion" ที่ทำให้เราสามารถอัญเชิญปีศาจออกมาช่วยต่อสู้ได้หลากหลายรูปแบบ ซึ่ง Legion แต่ละตัวก็จะมีรูปร่างหน้าตา ความสามารถ และรูปแบบการโจมตีที่แตกต่างกันออกไป ยกตัวอย่างเช่น "Sword Legion" : ปีศาจร่างยักษ์ถือดาบใหญ่ โจมตีระยะประชิดได้อย่างรุนแรง เหมาะกับการต่อสู้กับศัตรูจำนวนน้อยๆ ที่มีพลังป้องกันสูง "Shield Legion" : ปีศาจถือโล่ขนาดใหญ่ เน้นป้องกันการโจมตีของศัตรู เหมาะกับการใช้ในสถานการณ์ที่โดนศัตรูรุมโจมตี "Bomb Legion" : ปีศาจตัวเล็กๆ ที่สามารถยิงระเบิดโจมตีศัตรูเป็นกลุ่ม เหมาะกับการใช้กำจัดศัตรูจำนวนมาก การเลือกใช้ Legion ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ถือเป็นหัวใจสำคัญของเกมนี้เลยล่ะครับ ยิ่งเล่นไปเรื่อยๆ เราก็จะยิ่งปลดล็อก Legion ตัวใหม่ๆ ที่มีความสามารถแตกต่างกันไป เช่น "Claw Legion" ที่โจมตีด้วยกรงเล็บอันแหลมคม หรือ "Magic Legion" ที่สามารถร่ายเวทมนตร์โจมตีระยะไกลได้ ซึ่งระบบนี้ทำให้การต่อสู้มีความหลากหลายและไม่น่าเบื่อ เราสามารถปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ได้ตลอดเวลาตามสถานการณ์ที่ต้องเผชิญ เนื้อเรื่อง: มิตรภาพ ความแค้น และการทรยศ พล็อตเรื่องของ Chaos Legion อาจจะไม่ได้ซับซ้อนอะไรมาก แต่ก็มีเสน่ห์ดึงดูดในแบบของมัน การดำเนินเรื่องผ่านคัทซีนที่สวยงาม (สำหรับยุคนั้น) ทำให้เราอินไปกับชะตากรรมของ Sieg และ Victor รวมถึงตัวละครอื่นๆ ที่มีบทบาทสำคัญในเรื่อง เช่น Siela Riviere หญิงสาวลึกลับที่ Sieg ต้องปกป้อง และ Arcia Rinslet อัศวินหญิงผู้แข็งแกร่ง ประเด็นหลักของเรื่องคือการต่อสู้ระหว่าง Sieg กับ Victor ที่เคยเป็นเพื่อนรักกันมาก่อน แต่กลับต้องมาห้ำหั่นกันเองเพราะอุดมการณ์ที่แตกต่างกัน Sieg ต้องการปกป้องโลกจากปีศาจ ในขณะที่ Victor ต้องการใช้พลังของปีศาจเพื่อปลุก "Azrail" เทพแห่งการทำลายล้าง เพื่อที่จะทำลายโลกใบนี้แล้วสร้างโลกใบใหม่ขึ้นมา ความสัมพันธ์ของตัวละครทั้งสอง รวมถึงปมปริศนาเบื้องหลังแรงจูงใจของ Victor ทำให้เนื้อเรื่องมีความน่าติดตามตลอดทั้งเกม แม้การดำเนินเรื่องช่วงท้ายๆ จะรวบรัดไปสักหน่อย และตอนจบก็ค่อนข้างห้วนๆ แต่ก็ทำให้เราได้ข้อคิดเกี่ยวกับมิตรภาพ ความแค้น และการให้อภัย กราฟิกและเสียง: ความงดงามแบบโกธิก ในยุคที่ PlayStation 2 กำลังรุ่งเรือง Chaos Legion ถือว่าเป็นเกมที่มีกราฟิกสวยงามมากเกมหนึ่งเลยทีเดียว ดีไซน์ตัวละคร ฉาก และเอฟเฟกต์ต่างๆ ทำออกมาได้อย่างอลังการ โดยเฉพาะการออกแบบ Legion แต่ละตัวที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เช่น Sword Legion ที่ดูน่าเกรงขาม Shield Legion ที่ดูแข็งแกร่ง หรือ Bomb Legion ที่ดูจิ๋วแต่แจ๋ว บรรยากาศในเกมก็โดดเด่นไม่แพ้กัน ด้วยโทนสีหม่นๆ สไตล์โกธิก ผสมผสานกับดนตรีประกอบสุดอลังการ ยิ่งช่วยเสริมอารมณ์ความดาร์กแฟนตาซีให้กับเกมนี้ได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะเพลงประกอบฉากต่อสู้ อย่างเพลง "Holy War" ที่ดนตรีหนักแน่น เร้าใจ ทำให้รู้สึกฮึกเหิมเวลาต่อสู้กับศัตรู เกมเพลย์: แอคชั่นสุดมันส์ เล่นเพลินจนหยุดไม่อยู่ Chaos Legion เป็นเกมแนว Hack and Slash ที่เน้นการต่อสู้แบบรวดเร็วและดุเดือด เราสามารถควบคุม Sieg ใช้ดาบฟาดฟันศัตรู พร้อมกับสั่งการ Legion ให้ใช้สกิลโจมตีรูปแบบต่างๆ ตัวเกมมีระบบ "Lock-on" ที่ช่วยให้เราเล็งเป้าหมายได้ง่ายขึ้น ทำให้การต่อสู้มีความลื่นไหล นอกจากนี้ยังมีท่าโจมตีพิเศษ เช่น ท่าพุ่งโจมตี ท่าฟันหมุนตัว และระบบอัพเกรดค่าสเตตัส เช่น พลังโจมตี พลังป้องกัน และค่า HP ที่ช่วยเพิ่มความสามารถให้กับ Sieg และ Legion จุดเด่นอีกอย่างของเกมเพลย์คือความท้าทาย ศัตรูในเกมมีความหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น ปีศาจตัวเล็กๆ อัศวิน มังกร และบอส ซึ่งแต่ละตัวก็มีรูปแบบการโจมตีที่แตกต่างกัน ทำให้เราต้องคอยหลบหลีกและใช้กลยุทธ์ในการต่อสู้ ยิ่งเล่นไปในระดับความยากสูงๆ ศัตรูก็ยิ่งโจมตีอย่างรุนแรง และมีจำนวนมากขึ้น ทำให้ต้องใช้ฝีมือและความอดทนมากขึ้น เรียกได้ว่า "ตายแล้วตายอีก แต่ก็ยังสนุก" ความทรงจำวัยเด็ก: เกมในดวงใจที่ไม่มีวันลืม Chaos Legion เป็นมากกว่าเกมสำหรับผม มันคือความทรงจำในวัยเด็กที่ยังคงตราตรึงอยู่ในใจ จำได้ว่าตอนนั้นผมชอบเล่นเกมนี้กับเพื่อนๆ มาก เราจะผลัดกันเล่น ผลัดกันบ่นเวลาตาย (ฮ่าๆ) และชอบเถียงกันว่า Legion ตัวไหนเก่งที่สุด ผมชอบ "Sword Legion" เพราะโจมตีแรง สะใจ ส่วนเพื่อนผมชอบ "Magic Legion" เพราะโจมตีระยะไกลได้ แล้วเราก็จะแข่งกันว่าใครจะเก็บ "Soul" ได้มากกว่ากัน เพื่อเอาไปอัพเกรด Legion ให้เก่งขึ้น แม้เวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน แต่ทุกครั้งที่นึกถึง Chaos Legion ผมก็ยังรู้สึกสนุก และคิดถึงช่วงเวลาดีๆ ที่ได้เล่นเกมนี้กับเพื่อนๆ เสมอ มันเป็นความทรงจำที่ผมไม่มีวันลืม และเชื่อว่าใครหลายคนที่เคยเล่นเกมนี้ก็คงรู้สึกไม่ต่างกัน จุดเด่นและจุดด้อย: ความสมบูรณ์แบบที่ยังไม่สมบูรณ์ Chaos Legion มีจุดเด่นหลายอย่างที่ทำให้เกมนี้ยังคงเป็นที่จดจำมาจนถึงทุกวันนี้ ไม่ว่าจะเป็น ระบบ Legion ที่เป็นเอกลักษณ์ ทำให้การต่อสู้มีความหลากหลายและไม่น่าเบื่อ กราฟิกและเสียงที่สวยงาม สร้างบรรยากาศแฟนตาซี мрачный ได้อย่างลงตัว เกมเพลย์ที่รวดเร็ว ดุเดือด และท้าทาย ทำให้ผู้เล่นรู้สึกสนุก ตื่นเต้น และอยากเอาชนะ เนื้อเรื่องที่น่าติดตาม แม้จะไม่ได้ซับซ้อนมาก แต่ก็มีเสน่ห์ดึงดูดในแบบของมัน อย่างไรก็ตาม Chaos Legion ก็มีจุดด้อยอยู่บ้าง เช่น มุมกล้องที่ค่อนข้างมีปัญหา โดยเฉพาะในพื้นที่แคบๆ ทำให้มองเห็นศัตรูได้ยาก ความยากของเกมที่ค่อนข้างสูง โดยเฉพาะในช่วงแรกๆ อาจทำให้ผู้เล่นมือใหม่รู้สึกท้อได้ เนื้อเรื่องช่วงท้ายๆ ที่รวบรัดและจบห้วนๆ ทำให้รู้สึกขาดๆ เกินๆ ไปหน่อย สรุป: เกมแอคชั่นในตำนานที่ควรค่าแก่การหวนคืน แม้จะมีข้อบกพร่องอยู่บ้าง แต่โดยรวมแล้ว Chaos Legion ก็เป็นเกมแอคชั่นคุณภาพที่ควรค่าแก่การเล่น ระบบ Legion ที่เป็นเอกลักษณ์ กราฟิกและเสียงที่สวยงาม เกมเพลย์ที่สนุก และเนื้อเรื่องที่น่าติดตาม ทำให้เกมนี้ยังคงเป็นที่จดจำของใครหลายคนมาจนถึงทุกวันนี้ สำหรับใครที่ยังไม่เคยเล่น หรืออยากหวนคืนสู่ความทรงจำในอดีต ผมขอแนะนำให้ลองหา Chaos Legion มาเล่นดูครับ รับรองว่าคุณจะไม่ผิดหวัง และอาจจะติดใจจนวางไม่ลงเหมือนผมก็ได้ (ฮ่าๆ) สุดท้ายนี้ ผมอยากจะขอบคุณ Chaos Legion ที่มอบประสบการณ์ดีๆ และความทรงจำในวัยเด็กที่ไม่มีวันลืมให้กับผม และหวังว่าเกมนี้จะยังคงอยู่ในใจของใครหลายคนต่อไปอีกนานเท่านาน เครดิตภาพ ทางผู้เขียนได้ซื้อเกมนี้มาเล่นเองถ่ายรูปลงเอง เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !