สวรรค์บ้านนาผมเป็นคนบ้าน ๆ ธรรมดา แต่งตัวบางครั้งก็ธรรมดาเช่นกางเกงกีฬาเก่า ๆ เสื้อยืดเก่า ๆ มันเป็นเรื่องปกติที่คนบ้านนอกมักเป็นแบบผมหรือคล้าย ๆ ที่ผมตั้งชื่อเรื่อง "สวรรค์บ้านนา"ก็เพราะว่าบางวันที่ว่าง ๆ ผมมักปลีกตัวออกจากห้องแคบ ๆ กับหน้าจอมอนิเตอร์ออกไปเดินหิ้วถังโตงเตงอยู่ตามท้องทุ่งบ้าง มันเพลินดี แบกได้เสียมก็เทียวเดินไปแหวก ๆ ตามกอซังข้าวตามนา หารูปู หาหอยไปตามประสา นั่งเย็นลมตามต้นไม้กลางทุ่งนา ใช้เสียมคุ้ยเขี่ยไปเรื่อย ได้บ้างไม่ได้บ้าง แต่ส่วนใหญ่จะได้ เพราะอดีตผมนั้นโชกโชนมาตั้งแต่เด็ก ในการเป็นนักล่าแห่งท้องทุ่ง และวันนี้ผมจะพาลงทุ่งกันบ้างครับ ฮ่าสมัยเป็นเด็กน้อยวันไหนไม่ได้ลงทุ่งนา รับรองวันนั้นไม่มีอะไรจะกินแน่นอน จะมีก็แต่ปลาแดกในไห แล้วมีหรือระดับพรานแห่งท้องทุ่งจะกินข้าวกับปลาแดก มันต้องมีอะไรที่ดีกว่านั้นอีกสมัยก่อนโน้น ทุ่งนานี้นอกจากจะเป็นแหล่งหากินแล้ว ทุ่งนานี้บางครั้งก็เป็นเสมือนโรงแรมด้วย ฮา สมัยก่อนคนลงทุ่งไปหาหอย หาปลา ยิงนก เก็บผัก หาไปหามาอยู่ดี ๆ ดันไปเจอชีเปลือยหลบอยู่ตามกระท่อมก็มี ถ้าเป็นตัวเดียวมันก็น่าวิ่งอยู่หรอก แต่เจอทีละสองนี่สิ แถมยังพันกันนัวเนียอยู่มันชวนสอดรู้สอดเห็นเสียกระไรในบางครั้ง เรียกว่าทุ่งนานี้คือสวรรค์ในบางครั้งของชาวบ้านนอก อย่างเช่นหนุ่มสาวอย่างเวลาบุญงานนี้ หนุ่มสาวหลายคู่แถว ๆ บ้านเก่าผมหลังงานเลิก พวกเขามักถูกตามตัวเจอว่าพากันไปหลบอยู่ตามกระท่อม ไกล ๆ เปลี่ยว ๆ สองต่อสอง (ฮ่า) แล้วต่อมาพวกเขาก็ได้เป็นผัวเมียกัน หรือบางคู่ไม่ต้องไปตามให้ยาก พ่อแม่ฝ่ายสาวก็ไปดักซุ่มรออยู่แถว ๆ ปากทางจะเข้าไปในหมู่บ้าน ไม่ทันสายหรอก พากกันเดินหน้าเหลืองมาแล้ว จะเข้าไปในหมู่บ้าน แล้วฝ่ายก็ชายก็โดนรวบ เรียกว่าสวรรค์นี้คือท้องทุ่งจริง ๆ ในบางครั้งสมัยโบราณก่อนโน้นยังไม่มีการใช้เครื่องยนต์หรือรถไถนาเหมือนสมัยนี้ ชาวนาบ้านนอกสมัยโน้นใช้ควายเป็นแรงงานหลัก เวลาหน้าแล้งอย่างนี้เด็ก ๆ ในหมู่บ้านมักไปรวมตัวกันอยู่ตามท้องทุ่ง ควายแต่และคุ้มบ้านนี้หากมารวมกันทั้งหมดอาจเป็นจำนวนพัน คือทั้งหมู่บ้านมีหลายคุ้ม คุ้มก็คือกลุ่มหรือโซนของคนในหมู่บ้าน ซึ่งมันมีหลายโซนหลายกลุ่ม อิสานเรียก”คุ้ม”ควายแต่ละคุ้มนี้บางคุ้มมีเป็นสองสามร้อยตัวก็มี เพราะเป็นควายหลายเจ้าจากบ้านหลายหลัง บางบ้านเกือบห้าสิบก็มี เรียกว่าท้องทุ่งนาสมัยก่อนโน้นสุดแสนจะบันเทิงใจจริง ๆ นอกจากจะเป็นที่อยู่ของควายแล้ว เหล่าเจ้าของมันก็ไม่ได้ไปไหนมักมารวมตัวกันที่นี่ บางทีหมู่บ้านแทบไม่มีคนอยู่เลยในช่วงเวลากลางวัน มาร้องรำทำเพลงกันที่ทุ่งนานนี่เอง เรียกว่าสนุกสนานมาก แต่ทุกวันนี้ไม่เหมือนในอดีตแล้ว มีบ้างก็เล็กน้อย ดูแล้วชวนให้นึกถึงชีวิตในวัยเด็ก เช่นได้เห็นดอกจานสีแดงนี้แล้วยิ่งชวนคะนึง ว่างั้น นี่ถ้าเป็นสมัยก่อนโน้น มีพวกเยอะ ๆ เราคงได้แหกปากร้องเพลงลั่นทุ่งไปแล้ว แต่เผอิญวันนี้ผมมาหาขัวหอย ขุดปู คนเดียวเดี่ยว ๆ อยากจะร้องสักเพลงเหมือนกันแต่กลัวเขาว่าผมบ้า หรือจะเอาสักเพลงดี“ข่าวคราวเงียบหายไปสองสามปี นึกว่าไปได้ดี โธ่สีน้องมาขายตัว พ่อแม่อยู่นาให้พี่มาตามหาจนทั่ว มาพบสภาพทูนหัว ขายตัวมั่วชายในบาร์”นักร้องวงเด็กเลี้ยงควายสมัยผมเป็นเด็กมักเสียงดังเสมอ ปานลำโพงแปดพันวัตต์ทีเดียวเชียว ฮา ผมหวังว่าบทความนี้จะช่วยให้ผู้อ่านบันเทิงบ้างนะครับ อย่างเรื่องเล่าและภาพทุ่งนาสวย ๆ นี้คงพอผ่อนคลายใจบ้าง อย่างเช่นคนที่อดีตเป็นเด็กบ้านนอกคอกนาเหมือนผม ขอบคุณและสวัสดีครับ เรื่องและภาพโดยผู้เขียน ลูกอีสาน