เพื่อหยุดการแพร่กระจายของ COVID-19 ทุกภาคส่วนขอให้ทุกคนร่วมกัน “Social Distancing” พยายามอยู่บ้าน เลี่ยงสถานที่ที่มีผู้คนจำนวนมาก และงดการจับต้องผู้อื่น ซึ่งนั่นอาจทำให้หลายคนหวั่นใจ และมีข้อสงสัยใน Social Distancing ถ้าเช่นนั้นแล้ว มาดูกันหน่อยว่า...มีสิ่งไหนทำได้ และสิ่งไหนทำไม่ได้บ้าง? ขอบคุณภาพจาก :: Pexels Do ไปซุปเปอร์มาร์เก็ต หรือตลาดสด เป็นหนึ่งในสถานที่ไม่กี่แห่งที่สามารถไปได้ แต่ต้องไปอย่างมีกลยุทธ์ โดยเลือกไปในช่วงที่มีผู้คนไปชอปปิงน้อยที่สุด อย่างช่วงดึกหรือตั้งแต่เช้าตรู่ หลังกลับจากซื้อของ อย่าลืมล้างผัก ผลไม้ และล้างมือเราให้สะอาด รวมถึงตอนก่อนทานอาหารด้วย สั่งอาหารเดลิเวอรี่ ยังไม่มีงานวิจัยใดยืนยันว่า ไวรัสมีชีวิตอยู่ได้ในอาหาร แต่ถึงอย่างนั้นก็ควรทำความสะอาดฆ่าเชื้อภาชนะใส่อาหาร และล้างมือหลังจากได้รับอาหารจากพนักงานเดลิเวอรี่มาแล้วด้วย โดยสารรถสาธารณะ หากไม่สามารถเลี่ยงได้ ก็สามารถเดินทางด้วยรถสาธารณะได้ แต่อย่าลืมนำทิชชู่เปียกไปเช็ดทำความสะอาดที่นั่งและราวจับ รวมถึงเช็ดมือของเราหลังจากเดินทาง ไปทำงานที่ออฟฟิศ ที่ทำงานบางแห่งยังไม่ได้ให้พนักงาน Work from home เวลาอยู่ที่ออฟฟิศพยายามทำตามกฎ Social distancing อย่างเคร่งครัด ทั้งการล้างมือบ่อย ๆ และใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา ออกกำลังกาย สามารถออกกำลังกายนอกบริเวณบ้านได้ อาจทำตามคลิป หรือเปิดดูจากแอพลิเคชั่นต่าง ๆ ก็ได้ ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะสอนให้ออกกำลังกายแบบไม่ใช้อุปกรณ์อยู่แล้ว ขอบคุณภาพจาก :: Pexels Don’t ไปเตร็ดเตร่นอกบ้าน “การอยู่บ้าน” ลดความเสี่ยงการติดเชื้อที่ดีที่สุด แถมร้านอาหาร โรงหนัง ฟิตเนส ฯลฯ ก็ปิดชั่วคราว ดังนั้น ไม่ควรออกไปเตร็ดเตร่นอกบ้าน นอกจากเป็นที่ ๆ ทางรัฐรับรองว่าปลอดภัยเท่านั้น ไปเที่ยวต่างประเทศ เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง เพราะทั้งเครื่องบิน รถโดยสาร และเรือท่องเที่ยวเป็นจุดที่ผู้คนมากมายมารวมตัวกันเป็นระยะเวลานาน ซึ่งถือเป็นสูตรสำเร็จในการแพร่ไวรัสต่อกันดี ๆ นี่เอง ไปหาหมอ หากไม่ได้เร่งด่วน หรือเกี่ยวข้องกับโรค COVID-19 ให้ยกเลิกนัด สำหรับเคสที่ฉุกเฉิน แนะนำให้โทรปรึกษาเบื้องต้นกับคุณหมอผ่านทางโทรศัพท์ไปก่อน ไปเยี่ยมญาติผู้ใหญ่ ผู้สูงอายุที่มีอายุมากกว่า 60 ปีขึ้นไปเป็นกลุ่มเสี่ยงติดโรค COVID-19 ควรให้ท่านอยู่บ้านให้มากที่สุด หมั่นโทรหรือวีดีโอคอลหาแทน จะให้ดีควรช่วยจับจ่ายของใช้จำเป็นมาให้ท่านด้วย ชวนเพื่อนมาที่บ้าน ไม่ควรทำในเวลานี้ ถึงเราจะรู้ว่าเพื่อนไม่ใช่กลุ่มเสี่ยงก็ตาม ลองเปลี่ยนมาแฮงค์เอาท์ด้วยกันทางวีดีโอคอล อย่างน้อยก็ช่วยให้ไม่ต้องห่างเกินจากกลุ่มเพื่อนมากเกินไป ให้เด็กมาเล่นด้วยกัน เด็กเล็กไม่ถือเป็นกลุ่มเสี่ยง แต่เป็นกลุ่มที่แพร่กระจายเชื้อโรคได้ เด็ก ๆ สามารถออกไปเล่นออกบ้านได้ แต่ไม่ควรไปเล่นเครื่องเล่น และผู้ปกครองจะต้องคอยกำกับดูแล ให้เว้นระยะห่าง และไม่ให้นำมือไปสัมผัสกับสิ่งต่าง ๆ รอบตัว ขอบคุณภาพจาก :: Pixabay แล้วเราจะต้อง “Social Distancing” ไปอีกนานแค่ไหน? คาดว่าประมาณ 2-5 เดือน หรือจนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น และมีการคิดค้นวัคซีนรักษาได้ แต่หากโรคระบาดกลับมารุนแรง เราก็อาจต้อง Social Distancing อีกครั้งเช่นกัน ขอบคุณภาพปกจาก :: Pexels