ครูสุดกลั้น เห็นลูกศิษย์นอนท้าลมหนาวกับพ่อแม่ตกงาน วอนผู้ใจดีช่วยเหลือ
ครูสาววัย 33 ปี ไปเยี่ยมบ้านนักเรียนตามแผน ถึงกับน้ำตาคลอ หลังเห็นสภาพบ้านลูกศิษย์ วัย 10 ขวบชั้น ป.4 อาศัยอยู่กระท่อมหลังเล็กกลางแจ้ง อยู่กับพ่อแม่ที่ตกงานจากพิษโควิด-19 ระบุอากาศหนาวขนาดนี้จะอยู่อย่างไร ไม่มีห้องน้ำ ไม่มีที่นอน ไม่มีผ้าห่มเพียงพอ
เมื่อวันที่ 19 ม.ค.64 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องทุกข์จาก นางสาวฐิติมา พลภูเมือง อายุ 33 ปี ครูโรงเรียนบ้านหนองตะโก ต.เขาคอก อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ ว่าอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อ หรือผู้ใจบุญมาช่วยเหลือครอบครัวยากจนไม่มีที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเอง
จากการตรวจสอบพบเป็นกระท่อมหลังเล็กขนาด 4X4 เมตร ไม่มีเลขที่ ทำด้วยเศษไม้ ปีกไม้ บ้านหลังนี้อยู่ด้วยกัน 3 คน คือพ่อ แม่ และลูกสาววัย 10 ปี เรียนอยู่ชั้น ป.4 โรงเรียนในหมู่บ้าน โดยนางกันแดน สับประโคน อายุ 43 ปี บ้านเลขที่ตามบัตรประชาชน 59 หมู่ 7 ต.เขาคอก อ ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ เล่าความเป็นมาว่า
ตนกับสามีมีอาชีพทำงานก่อสร้างที่กรุงเทพฯมาโดยตลอด ย้ายไปตามไซต์งานต่างๆ มีลูกติดกับสามีเก่า 1 คน เอาฝากญาติเลี้ยงที่บุรีรัมย์ เมื่อถึงเกณฑ์เรียนหนังสือ จึงเอาไปฝากเรียนที่โรงเรียนสงเคราะห์นางรอง ซึ่งเป็นโรงเรียนประจำ โดยจะมาเยี่ยมเป็นบางครั้งถ้ามีโอกาส
แต่เมื่อช่วง 5-6 เดือนที่ผ่านมา จากสถานการณ์โรคโควิด-19 ระบาด ตนกับสามีตกงาน ไม่มีงานทำ จึงตัดสินใจกลับบ้านที่บุรีรัมย์ ไปขออาศัยอยู่กับญาติ เพราะไม่มีบ้านและที่ดินเป็นของตัวเอง
หลังจากนั้นลูกสาวเมื่อทราบว่าแม่มาอยู่บ้าน จึงร้องขอให้แม่ไปรับตัวจากโรงเรียนประจำมาอยู่ด้วยกัน จึงทำตามลูกสาวร้องขอ แล้วมาเข้าเรียนต่อชั้น ป.4 ที่โรงเรียนหนองตะโก ต.เขาคอก อ.ประโคนชัย
ทำให้สถานภาพครอบครัวที่ตนไปอาศัยอยู่ใหญ่ขึ้น จึงตัดสินใจขอออกไปอยู่ต่างหาก เพราะเกรงใจญาติ และขอปลูกกระท่อมบนที่ดินของญาติ ด้วยการขอเศษไม้ของชาวบ้านมาทำเป็นหลังคาหลบฝนหลบแดดมาได้ประมาณ 3 เดือนที่ผ่านมา ตอนนี้หารับจ้างทำงานทั่วไป เพื่อหาเลี้ยงครอบครัว
ด้านนางสาวฐิติมา พลภูเมือง ครูประจำชั้น ด.ญ.เก๋(นามสมมุติ) กล่าวว่า ได้มาเยี่ยมครอบครัวนักเรียนตามแผนเป็นประจำ เมื่อมาเห็นสภาพบ้านแล้ว รู้สึกหดหู่ เพราะบ้านของลูกศิษย์ไม่มีห้องน้ำ ไม่มีห้องครัว ไม่มีแม้ที่นอน มีเพียงผ้าห่มบางๆ ฝาบ้านมีช่องโหง่ ไม่มิดชิด
ส่วนตัวรู้สึกเป็นห่วงและสงสาร โดยเฉพาะสภาพอากาศที่หนาวเย็นในช่วงนี้ คิดไม่ออกว่าจะนอนกันอย่างไร จึงอยากจะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หรือผู้ใจบุญมาช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนของครอบครัวนี้ เพราะลำพังคณะครูมาช่วยเหลือได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น