"หุ้นไทยยังซบเซา 'ประกิต' ชี้ขาดความเชื่อมั่นกดดันดัชนี แนะจับตาหุ้นกลุ่มพลังงาน

คุณประกิต สิริวัฒนเกตุ กรรมการผู้จัดการ บลจ.เมอร์ชั่นพาร์ทเนอร์ จำกัด วิเคราะห์ตลาดหุ้นไทย (ณ 16 มิ.ย. 68) ผ่านรายการ WEALTH LIVE ด้วยมุมมองที่น่าสนใจ โดยเปรียบเทียบว่า ตลาดหุ้นไทยมีสภาพเหมือน "แฟนที่ทำตัวแย่" กล่าวคือ แม้จะอยู่ในจุดที่ย่ำแย่ที่สุดจน Downside จำกัด และมี Valuation ที่น่าสนใจในทางทฤษฎี (แนวรับ 1,120 จุด) แต่กลับขาดเสน่ห์และไม่มีปัจจัยใหม่มาดึงดูดใจให้นักลงทุน "กลับมารัก" หรือเข้าซื้ออย่างจริงจัง สะท้อนปัญหาเชิงโครงสร้างที่ฝังรากลึก แนะกลยุทธ์หลักให้นักลงทุนหันไปหาโอกาสใน ตลาดหุ้นเกิดใหม่ (Emerging Markets) และทองคำ ส่วนในประเทศเป็นการเก็งกำไรระยะสั้นใน กลุ่มพลังงาน (PTTEP, BCP) รับราคาน้ำมันที่อาจพุ่งแตะ 90 เหรียญฯ

หุ้นไทย "หมดใจ" แม้ Valuation ถูก-ข่าวดีมา

คุณประกิตแสดงความผิดหวังต่อภาวะตลาดหุ้นไทยอย่างชัดเจน โดยชี้ว่าวันนี้เป็นวันที่ตลาดควรจะปรับตัวขึ้นได้ดีจากปัจจัยบวกหลายประการ ทั้ง Valuation ที่อยู่ในจุดน่าซื้อ, ข่าวดีที่สหรัฐฯ ตอบรับนัดเจรจาการค้า และความขัดแย้งชายแดนที่ผ่อนคลายลง แต่ดัชนีกลับไม่ตอบสนอง

"มันเหมือนให้ไปยังไงเค้าก็ไม่ซื้อกัน เค้าหมดแล้ว หมดใจ...มันเป็นบรรยากาศของคนหมดใจครับ มันกำลังสะท้อนได้ถึงว่าปัญหาในเชิงโครงสร้างบ้านเรามันลึกจริงๆ จนแบบเขาไม่เอาอ่ะครับ" คุณประกิตกล่าว

วิเคราะห์หุ้นใหญ่: AOT หนัก - THAI ไม่ช่วย - DELTA พักตัว

• AOT: ยังคง "หนัก" แม้จะได้เงินประกันคืน แต่ก็เทียบไม่ได้กับผลประโยชน์ที่ควรจะได้ในระยะยาว ปัญหาเรื่องการเป็นองค์กรผูกขาดและมีผลประโยชน์ทางการเมืองซ่อนอยู่ยังคงเป็นปัจจัยกดดัน คาดว่าราคาหุ้นอาจต้องปรับตัวลงอีก 3-4 บาทจากระดับ 28 บาทจึงจะน่าสนใจ
• การบินไทย (THAI): การกลับเข้ามาเทรดอาจช่วยเพิ่มวอลุ่มการซื้อขายในแต่ละวัน แต่ไม่น่าจะช่วยพยุงหรือขับเคลื่อนตลาดในภาพรวมได้ เนื่องจากธุรกิจสายการบินโดยรวมยังคง "ม่องเท่ง"
• DELTA: อยู่ใน "โหมดพักตัว" ยังไม่น่าไว้วางใจและมีโอกาสถูกกดดันลงมาอีก หากจะพิจารณาเข้าซื้อควรรอที่ระดับราคาประมาณ 85 บาท

น้ำมันขึ้นสั้นๆ จังหวะเก็งกำไร PTTEP, BCP

คุณประกิตอ้างอิงมุมมองจาก Goldman Sachs ว่า ความตึงเครียดในตะวันออกกลางอาจทำให้ผลผลิตน้ำมันดิบหายไปจากตลาด 1.7-2 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งจะผลักดันให้ราคา น้ำมันดิบเบรนท์ (Brent) พุ่งขึ้นไปแตะ 90 เหรียญฯ ได้ในระยะสั้น อย่างไรก็ตาม มองว่านี่เป็นการขึ้นระยะสั้นเท่านั้น เพราะในครึ่งปีหลังเมื่อกำลังการผลิตจาก OPEC และสหรัฐฯ กลับมา จะดึงให้ราคาปรับตัวลงมาสู่ค่าเฉลี่ยทั้งปีที่ประมาณ 65 เหรียญฯ

"ช่วงจังหวะนี้ถ้ายังไม่ขึ้น คือยังมี Upside ประมาณ 20 เหรียญ เราสามารถเก็งหุ้นในกลุ่มนี้ได้" โดยหุ้นที่น่าสนใจคือ PTTEP และ BCP (บางจาก)

กลยุทธ์ลงทุน: โยกเงินไปตลาดเกิดใหม่และทองคำ

คุณประกิตคาดการณ์ว่าทั้งธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) และ กนง.ของไทยจะ ไม่ลดอัตราดอกเบี้ย ในการประชุมเดือนนี้ ซึ่งจะทำให้ตลาดหุ้นขาดปัจจัยหนุนใหม่ๆ

คำแนะนำหลักคือการโยกเงินออกจากตลาดที่พัฒนาแล้ว (Developed Markets) เช่น สหรัฐฯ ซึ่งราคาปรับขึ้นมามากและ Valuation แพง ไปยังสินทรัพย์ที่น่าสนใจกว่า ได้แก่:

1. ตลาดหุ้นเกิดใหม่ (Emerging Markets): โดยเฉพาะใน เอเชียบางประเทศ และละตินอเมริกา ซึ่งยังมี Valuation ที่ถูกกว่า
2. ทองคำ: เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากสถานการณ์โลกที่ไม่แน่นอน

"เน้นลาตินอเมริกา เน้นเอเชีย Market บางประเทศ แล้วก็เล่นทองนะครับ" คุณประกิตกล่าวทิ้งท้าย