SAVไฮซีซันเปิดบินเพิ่ม เซ็นวิทยุการบินลาวพ.ย.
#SAV #ทันหุ้น - SAV ปลายปีเข้าไฮซีซัน แถมมีสนามบินใหม่สนามบินนานาชาติดาราสาครที่กัมพูชา จ่อเปิดเพิ่มช่วยกระตุ้นยอดการเดินทาง ต้นปี 2568 คาดลงนามงานระบบตรวจจับ 1.5 พันล้านบาท และมีดีลขายอุปกรณ์วิทยุการบินอีก 1.5 พันล้านบาท ส่วนสัมปทานวิทยุการบิน สปป.ลาว คาดได้ลงนามปลายเดือนพฤศจิกายนนี้ ชี้เป้าปีหน้า รายได้รวมโต 12%
นายรัฐนันท์ วิไลลักษณ์ ผู้จัดการอาวุโสและนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท สามารถคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SAMART ในฐานะตัวแทน บริษัท สามารถ เอวิเอชั่น โซลูชั่นส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SAV ผู้ประกอบธุรกิจโดยการถือหุ้นในบริษัทอื่นมีบริษัทย่อให้บริการควบคุมการจราจรทางอากาศที่ประเทศกัมพูชา เปิดเผยว่า แนวโน้มการให้บริการของบริษัทจะขยายตัวสอดคล้องไปกับจำนวนนักท่องเที่ยวและการเปิดใช้สนามบินต่างๆ โดยคาดอย่างเร็วปลายเดือนพฤศจิกายน 2567 สนามบินนานาชาติดาราสาคร (กัมพูชา) จะเริ่มเปิดให้บริการได้ราวปลายเดือนพฤศจิกายน 2567 หรือต้นเดือนธันวาคม 2567 โดยความจุของสนามบินเริ่มต้นเปิดบริการรองรับที่ 1.2 แสนคนต่อปี และระยะยาวรองรับที่ 10 ล้านคนต่อปี
และคาดสนามบินนานาชาติเตโช (กัมพูชา) จะเริ่มเปิดให้บริการได้กลางปี 2568 ความจุของสนามบินเฟสแรกรองรับที่ 10 ล้านคนต่อปีในปีหน้า และเฟสถัดๆ ไปรองรับได้มากถึง 30 ล้านคนต่อปี ซึ่งจะดึงดูดสายการบินต่างๆ ให้เข้ามากขึ้นอย่างต่อเนื่องส่งผลดีต่อธุรกิจของบริษัท ทั้งไฟล์ตการบินที่มีอยู่แล้ว และไฟล์ตการบินใหม่ๆ ที่จะทยอยเกิดขึ้น
@งานทะลักเข้า
อีกทั้งบริษัทจะขยายธุรกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการบิน เช่นโครงการทำระบบตรวจจับ Foreign Object Debris หรือ FOD คาดจะมีการลงนามสัญญาต้นปี 2567 มูลค่าโครงการ 1.5 พันล้านบาท และโครงการจัดหาอุปกรณ์ด้านวิทยุการบิน ซึ่งภายปีหน้าคาดจะมีความชัดเจนของดีลและผลการประมูล ด้วยมูลค่าโครงการไม่เกิน 1.5 พันล้านบาท เช่นกัน
สำหรับความคืบหน้าการลงทุนสัมปทานวิทยุการบินใน สปป.ลาว ภายใต้บริษัท ลาวสามารถ เอวิเอชั่น จำกัด ตกลงเบื้องต้นเรื่อง MoU ไปแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างรอกระบวนการของคณะรัฐมนตรีของสปป.ลาว พิจารณา และกำหนดวันลงนามสัญญาโดยคาดหวังจะเป็นภายในสิ้นเดือนพฤศจิกายน 2567 นี้
@ไตรมาสสุดท้ายแรง
พร้อมกันนี้ประเมินรายได้ในไตรมาส 4/2567 น่าจะดีกว่าไตรมาสที่ 3/2567 จากจำนวนเที่ยวบินจะเพิ่มขึ้นและการท่องเที่ยวที่ฟื้นกลับมาจวนเทียบเท่าก่อนโควิด-19 แล้ว และการเปิดสนามบินใหม่ก็เป็นอีกปัจจัยสนับสนุนจำนวนไฟล์ตการบินให้มากขึ้นรวม 12-15% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีที่แล้ว ขณะที่รายได้ก็จะขยายตัวในอัตราสอดคล้องกัน
สำหรับปี 2568 บริษัทคาดหวังมีรายได้ต่อไตรมาสในรูปเงินต่างประเทศที่ 13-14 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อไตรมาส คิดเป็นการขยายตัวรวมทั้งปีประมาณ 11-12% เมื่อเทียบกับปีนี้
ด้านนายธีระชัย พงศ์พนางาม กรรมการผู้จัดการใหญ่ SAV เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของ SAV เติบโตอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด และในไตรมาส 3 ของปี 2567 มีรายได้รวมอยู่ที่ 437 ล้านบาท เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน เพิ่มขึ้นถึง 35 ล้านบาท หรือกว่า 8% และมีกำไรอยู่ที่ 126 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน 35 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 39%
ไตรมาส 3/2567 มีจำนวนเที่ยวบินที่ให้บริการรวมทุกประเภทอยู่ที่ 25,900 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน 1,688 เที่ยวบิน หรือเพิ่มขึ้น 7%
ผลประกอบการช่วง 9 เดือนปีนี้ SAV มีรายได้รวมอยู่ที่ 1,285 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 173 ล้านบาท หรือประมาณ 16% และมีกำไรอยู่ที่ 337 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 132 ล้านบาท หรือคิดเป็น 64% เมื่อเทียบกับเก้าเดือนแรกของปีก่อน
และในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ซึ่งเป็นช่วง High Season คาดว่าผลการดำเนินงานของ SAV จะเติบโตขึ้นไม่น้อยกว่า 15% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว เพราะเป็นช่วงเทศกาลวันหยุดคริสมาสต์-ปีใหม่ ซึ่งคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากบินมาท่องเที่ยวประเทศไทยและเวียดนาม ทำให้ปริมาณเที่ยวบินผ่านน่านฟ้ากัมพูชาเพิ่มขึ้นเช่นทุกปี ประกอบกับมีเที่ยวบินที่เปิดเส้นทางบินเข้าประเทศกัมพูชาเพิ่มขึ้นรวมถึงเที่ยวบินภายในประเทศกัมพูชาก็จะเพิ่มขึ้นเช่นกัน จากราคาค่าโดยสารลดลงจากปีก่อนๆ ส่งผลให้การท่องเที่ยวคึกคักขึ้นด้วย