เจ้าอาวาสวัดดัง-ไวยาวัจกรยื้อ!! ปกป้องพระถูกจับเสพยาในวัดยังไม่ยอมสึก
สระแก้ว – เจ้าคณะตำบลสระขวัญ จังหวัดสระแก้ว ได้ทำพิธีลาสิกขาให้กับพระภิกษุและสามเณรที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดแล้ว เมื่อช่วงเช้าวันนี้ 1 รูป และยังเหลือพระอีก 6 รูป ที่รอฤกษ์ลาสิกขาบทในช่วงกลางสัปดาห์หน้า ขณะที่คณะกรรมการวัดระบุ กรณีที่ฝ่ายปกครองบุกเข้าตรวจสอบพระ 7 รูป เกี่ยวข้องกับยาเสพติด เรียกร้องให้ภาครัฐแก้ปัญหายาเสพติดจากต้นทางอย่างจริงจัง ไม่ใช่มาแก้ปัญหาที่ปลายเหตุด้วยการจับพระเสพยาเสพติดภายในวัด
เมื่อวันที่ 17 เม.ย.63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอเมืองจังหวัดสระแก้ว ภายใต้การอำนวยการของ นายวรพันธุ์ สุวัณณุสส์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว สั่งการให้นายอำเภอเมืองสระแก้วและเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองกวดขันปัญหายาเสพติดอย่างเข้มงวด โดยมอบหมายให้ นายราเยส ราย ปลัดอำเมืองสระแก้ว พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจปราบปรามยาเสพติดร่วมกับกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ได้เข้าตรวจสอบพระลูกวัดน้ำซับ หมู่ 1 ตำบลสระขวัญ อำเภอเมืองสระแก้ว เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด โดยเจ้าหน้าที่ ได้เชิญพระลูกวัดทั้งหมด ออกมาสอบถามพูดคุย ก่อนจะให้แสดงตัวว่า มีพระรูปใดเข้ายุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดบ้าง โดยมีพระลูกวัดทั้งหมด 6 รูป และเณรอีก 1 รูป ที่ยกมือแสดงตัวว่า เสพยานั้น
ล่าสุด พระใบฏีกาบัญชา ปภัสสโร เลขานุการเจ้าคณะตำบลสระขวัญ เขต 2 และเจ้าอาวาสวัดน้ำซับ ยอมรับว่า ทางคณะกรรมการวัดได้ประชุมร่วมกันแล้ว โดยให้เณร 1 รูป ลาสิกขาออกจากวัดไปก่อนเมื่อเช้าที่ผ่านมา ส่วนพระอีก 6 รูป จะมีพระอยู่ 3 รูป มีฤกษ์ลาสิกขาในวันพฤหัสบดีที่ 23 เมษายนหรือกลางอาทิตย์หน้า ส่วนพระอีก 3 รูป เป็นพระลูกวัดที่จำพรรษามานาน ทางคณะกรรมการฯ ได้เพิ่มมาตรการเฝ้าระวังยาเสพติด ด้วยการเข้มงวด ตรวจปัสสาวะพระลูกวัดทุก ๆ 10 วัน โดยเฉพาะพระทั้ง 3 รูปนี้ หากวัด ยังพบว่าเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดอีก จะให้ลาสิกขาทันที
ทั้งนี้ นายวัฒนา ด่านชนะ ไวยาวัจกรวัดน้ำซับ จ.สระแก้ว กล่าวว่า ปัญหาการจับพระเสพยาในวัดนั้น อยากให้ภาครัฐแก้ปัญหายาเสพติดที่ต้นเหตุมากกว่า การจับพระเสพยา ซึ่งเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ เพราะยาเสพติดมีทุกวัด อยากให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าไปดำเนินการทุกวัดเหมือนกัน และปล่อยให้ยาเสพติดเข้ามาในวัดได้อย่างไร
ขณะเดียวกัน กลุ่มชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงกับวัด ยอมรับว่า ข่าวที่นำเสนอออกไป ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์กับชาวบ้านในพื้นที่เป็นอย่างมาก วัดแห่งนี้กว่าจะมีวันนี้ได้ ต้องผ่านอะไรมามากมาย กว่าจะเป็นวัดพัฒนาตัวอย่างของจังหวัด ส่วนปัญหาการแพร่ระบาดของยาเสพติดภายในวัด ต้องยอมรับว่า จะให้เจ้าอาวาสหรือคณะกรรมการวัด คอยตรวจสอบตลอด 24 ชั่วโมงคงเป็นไปไม่ได้ ถึงแม้รอบบริเวณวัดจะมีรั้วรอบขอบชิด แต่อยากจะฝากไปถึงหน่วยงานที่แก้ปัญหาเรื่องนี้ ให้แก้ปัญหาที่ต้นเหตุมากกว่า เพราะวัดไม่สามารถผลิตยาเสพติดได้เอง แต่จะเข้ามาจากข้างนอกเสียมากกว่า
————————–