รีเซต

แนะลงทุนตราสารหนี้ให้รอด บลจ.ยูโอบีชูกองเด็ดฝ่าดบ.ขึ้น

แนะลงทุนตราสารหนี้ให้รอด บลจ.ยูโอบีชูกองเด็ดฝ่าดบ.ขึ้น
ทันหุ้น
26 เมษายน 2565 ( 18:49 )
145
แนะลงทุนตราสารหนี้ให้รอด บลจ.ยูโอบีชูกองเด็ดฝ่าดบ.ขึ้น

บลจ.ยูโอบี แนะพักเงิน กองมันนี่มาร์เก็ตฟันด์ได้ ในยามตลาดผันผวน ทั้งตราสารหนี้ และ หุ้นทั่วโลก ทเพื่อรอจังหวะเมื่อนโยบายการเงินมีความชัดเจน ทั้งการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางหลัก ทั้งสัญญาณเศรษฐกิจถดถอย พร้อมฉายภาพตลาดหุ้นโลก วิเคราะห์โอกาสระยะถัดไป

 

นายเอสเตบาน เบอบาโน่ Executive Vice President, Fixed Income Strategist, PIMCO มองว่า ความกังวลเรื่องภาวะเศรษฐกิจถดถอย ในส่วนของ PIMCO เชื่อว่าจะยังไม่เกิดขึ้นภายในปีนี้ แม้ว่าจะมีแรงกดดัน ทั้งเงินเฟ้อที่เร่งตัวขึ้นสูง และการขึ้นดอกเบี้ยนโยบายเพื่อสกัดเงินเฟ้อของธนาคารกลางหลักๆ ก็ตาม อย่างไรก็ตาม ภาวะถดถอยยังเป็นปัจจัยที่ต้องติตามอย่างใกล้ชิดต่อไป

 

PIMCO เชื่อว่าอัตราเงินเฟ้อจะคงอยู่ในปีนี้ในระดับที่สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนเกิดสงคราม โดยส่วนใหญ่จะกระจุกตัวอยู่ทั่วภูมิภาคยุโรป โดยปรับเพิ่มคาดการณ์เงินเฟ้อปี 2565มาอยู่ที่ 5% และมีความเสี่ยงที่เร่งตัวขึ้นได้หากสงครามรัสเซียและยูเครน ยืดเยื้อยาวนาน

 

“เรายังเห็นการขยายตัวของกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้ว (DM) ซึ่งมีแรงส่งจากการเปิดเมือง หลังโควิด-19 เรายังเห็นการจับจ่ายใช้สอย การลงทุนอยู่ ในขณะที่ซัพพลายยังติดปัญหาเรื่องคอขวดไม่สามารถส่งสินค้าได้ตามความต้องการ จึงเป็นอีกปัจจัยที่เร่งให้เงินเฟ้อสูงขึ้น และจะเข้าจุดพีคได้ในอีกไม่กี่ไตรมาสที่จะถึงนี้”

 

ดังนั้น PIMCO ยังคงจับตาดูมี 4 ปัจจัยที่อาจส่งผลให้เศรษฐกิจชะลอตัวลงในขณะที่เงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับที่สูง คือ 1) ระดับราคาพลังงานและอาหารที่ปรับสูงขึ้น 2) ปัญหาห่วงโซ่อุปทานเกิดสภาวะชะงักงัน (Supply Chain Disruption) 3) ภาวะทางการเงินและสภาพคล่องที่ตึงตัวขึ้น 4) ความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจและครัวเรือนที่ลดลง

 

นายเอสเตบาน กล่าวต่อไปว่า ธนาคารกลางต่างๆ ยังคงคาดการณ์ว่าเงินเฟ้อจะเร่งตัวขึ้นสูง ซึ่งในส่วนของธนาคารกลางสหรัฐ หรือเฟด ที่หลายฝ่ายคาดว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 3-4 ครั้งในปีนี้ หลังเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับสูงทำให้คาดว่ามีโอกาสที่จะเห็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 8-9 ครั้งในปีนี้

 

เสริมพอร์ตด้วยตราสารหนี้

ดังนั้นคำแนะนำสำหรับการลงทุนในตราสารหนี้ ควรต้องเลือกที่มี Duration (อายุของตราสารหนี้) และควรกระจายการลงทุนออกจากสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงและมีความเกี่ยวเนื่องโดยตรงจากสงคราม ซึ่งการกระจายเงินลงทุนบางส่วนในตราสารหนี้หรือสินทรัพย์ที่ช่วยกระจายความเสี่ยงจากอัตราเงินเฟ้อที่เร่งตัวขึ้นได้ ซึ่งในส่วนของ บลจ.ยูโอบี แนะนำกองทุนเปิด ยูไนเต็ด โกลบอล อินคัม สตราทีจิค บอนด์ ฟันด์ หน่วยลงทุนชนิดรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติ (UGIS-A)

 

และ กองทุนเปิด ยูไนเต็ด โกลบอล อินคัม สตราทีจิค บอนด์ ฟันด์ หน่วยลงทุนชนิดรับซื้อคืนหน่วยลงทุนแบบปกติ (UGIS-N) เน้นลงทุนผ่านกองทุนหลัก คือ กองทุน PIMCO GIS Income Fund (Class I) (กองทุนหลัก) บริหารจัดการโดย PIMCO Global Advisors (Ireland) Limited

 

คัดตราสารทนต่อดบ.ขึ้น

นายเอสเตบาน กล่าวว่า กองทุนหลักเน้นรักษาความสมดุลด้วยการกระจายความเสี่ยง และสภาพคล่องที่เพียงพอ ด้วยกลยุทธ์ที่ยืดหยุ่น พอร์ตการลงทุนยังคงวางไว้แบบเชิงรับ (Defensive) ต่อทิศทางอัตราดอกเบี้ย นั่นคือ Duration ยังคงอยู่ในระดับต่ำ และปัจจุบันค่อยๆ ทยอยปรับ Duration ขึ้นเล็กน้อย ผ่านการลงทุนใน Inflation Protected Bond เพื่อลดทอนความเสี่ยงจากอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น และยังกระจายการลงทุนในตราสารหนี้หลากหลายประเภท รวมถึง ตราสารหนี้ที่มีสินเชื่อที่อยู่อาศัย เป็นหลักประกันการจำนอง (MBS) ด้วย

 

ซึ่ง PIMCO มองว่าเป็นการลงทุนที่น่าจะสร้างผลตอบแทนได้ดี โดยปัจจัยพื้นฐานของตลาดบ้านในสหรัฐฯยังคงแข็งแกร่ง และตราสารประเภทนี้จะได้รับประโยชน์จากราคาบ้านที่ปรับสูงขึ้น ทำให้มูลค่าของตราสารเพิ่มขึ้น (จาก Loan to Value Ratio ที่เพิ่มขึ้น) กองทุนมีการกระจายการลงทุนทั้งในส่วนของ Agency และ Non Agency MBS ประมาณ 22% กระจายเน้นไปในบางกลุ่มที่ให้ผลตอบแทนที่น่าสนใจ เช่น ตราสารภาคธนาคาร โดยเฉพาะในส่วนของ ธนาคารฝั่งสหรัฐฯ ซึ่งสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีและไม่ผันผวนนักในช่วงที่ผ่านมา

 

ส่วนการลงทุนในตราสารหนี้ตลาดเกิดใหม่ โดยรวมมีสัดส่วน 12% แต่จะเป็นการกระจายการลงทุนไปหลายประเทศ เพื่อลดทอนผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับประเทศใดประเทศหนึ่ง และเน้นลงทุนในตราสารภาครัฐฯ ของประเทศที่มีพื้นฐานที่ดี ตราสารมีสภาพคล่องสูงและให้ผลตอบแทนที่น่าสนใจ

 

แม้ภาวะสงครามที่เกิดขึ้นในต้นปีช่วงที่ผ่านมาจะเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ผลการดำเนินงานของกองทุนหลักปรับตัวลดลง แต่ถ้าเทียบกับดัชนีเกณฑ์มาตรฐานและตลาดตราสารหนี้ในภาพรวมกองทุนมีการปรับลดลงที่น้อยกว่าพอสมควร โดยอัตราผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีจนถึง 31 มีนาคม 2565 กองทุน PIMCO GIS INCOME ปรับลดลง -4.51% ในขณะที่ Bloomberg US Aggregate Bond Index และ US IG Credit Index ปรับลดลง -5.93% และ -7.42% ตามลำดับ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง