" ฝุ่น PM 2.5 เกินค่ามาตรฐาน 20 จุดทั่วกรุงเทพและปริมณฑล " หลายคนคงได้ยินข้อความเหล่านี้ตามเฟสบุ๊ค ข่าวโทรทัศน์ ข่าววิทยุ หน้าหนังสือพิมพ์หรืออาจติดเทรนทวิตเตอร์ เป็นประจำอย่างสม่ำเสมอบางวันก็ประมาณไม่ได้เลยว่าจุดที่เกินค่ามาตรฐานอาจมากกว่านี้หรือน้อยกว่านี้ เราลองมาทำความรู้จักเจ้าฝุ่น PM 2.5 กันหน่อยไหมค่ะว่ามันเป็นอะไรยังไงกันแน่คนถึงได้พูดถึงกันหนาหูแบบนี้ ฝุ่น PM 2.5 คือ ฝุ่นละอองที่มีขนาดเล็กมาก ๆ เล็กกว่า 2.5 ไมครอน ฝุ่นนี้มีขนาดเล็กกว่าเส้นผมของเราถึง 20-30 เท่า เพราะแบบนี้ฝุ่นจึงสามารถแทรกซึมเข้าสู่ปอดของเราได้ง่ายมาก ๆ ส่งผลทําให้เกิดโรคในระบบทางเดินหายใจและโรคปอดต่าง ๆ และที่แย่ไปกว่านั้นหากสะสมไว้นานเข้าอาจเป็นสาเหตุของการเกิดมะเร็งปอดได้ รวมถึงส่งผลต่อคนที่เป็นโรคที่เกี่ยวกับหัวใจและหลอดเลือดน่ากลัวมากใช่ไหมค่ะ อย่างนั้นเราลองมาศึกษาดูไหมค่ะว่าฝุ่น PM 2.5 เกิดจากอะไร มันเกิดจากการเผาไหม้ต่าง ๆ เช่น การเผาไหม้ของภาคอุตสาหกรรมจากโรงงาน โรงไฟฟ้า การเผาในที่โล่งแจ้ง หรือการขนส่งของเราที่รถยนต์ รถมอเตอร์ไซต์ ปล่อยควันจากท่อไอเสียก็มีผลโดยตรงเหมือนกัน ซึ่งการเผาไหม้เหล่านี้เมื่อมีการสะสมในชั้นอากาศมาก ๆ เข้าทำให้สภาพอากาศถึงขั้นวิกฤตและกลายเป็นฝุ่น PM 2.5 ที่ลอยปกคลุมในชั้นบรรยากาศตามที่พวกเราได้รับผลกระทบกันทุกวันนี้ หลายคนจึงหันมาใส่ใจในวิกฤตนี้มากขึ้นไม่เฉพาะคนไทยที่ได้รับผลกระทบ แต่คนทั่วโลกก็ได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน การป้องกันและการลดอัตราการเกิดฝุ่นไม่ให้มันวิกฤตไปมากกว่านี้จึงเป็นคำตอบที่ดีที่สุดในตอนนี้ที่ทุกคนทำได้ การป้องกันคือการงดกิจกรรมในที่โล่งแจ้งเพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญกับฝุ่นหรือเผชิญให้น้อยที่สุด หรือหากหลีกเลี่ยงไม่ได้เราควรสวมใส่หน้ากากอนามัยที่ป้องกัน ฝุ่น PM 2.5 โดยเฉพาะคือหน้ากากอนามัย N95 ซึ่งเส้นใยผลิตมาเพื่อกรองฝุ่น PM 2.5 โดยเฉพาะซึ่งหน้ากากอนามัยธรรมดาไม่สามารถป้องกันฝุ่นได้มีประสิทธิภาพเท่าหน้ากากอนามัย N95 แต่อาจจะติดที่มีราคาที่สูงกว่าหน้ากากอนามัยแบบธรรมดาหรืออาจจะขาดตลาดในช่วงวิกฤตแบบนี้ เราสามารถทดแทนได้โดยการสวมหน้ากากอนามัยแบบธรรมดา 2-3 ชั้น และกดตัวหน้ากากอนามัยบริเวณจมูกเพื่อให้แนบชิดจมูกเป็นการป้องกันการแทรกซึมของฝุ่นที่จะเข้าไปยังจมูกเรา ส่วนการลดอัตราการเกิดฝุ่นที่หลายหน่วยงานเข้ามารณรงค์กัน อย่างเช่นการลดการใช้รถยนต์ส่วนตัวทุกวันพุธเพื่อลดอัตราการเผาไหม้จากท่อไอเสียรถยนต์ การฉีดพ่นละอองน้ำตามสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสหรือตามตึกต่าง ๆ ใจกลางเมืองกรุงเทพ หรือตามสะพานลอยซึ่งเป็นทางข้ามจุดใหญ่ ๆอย่างสะพานลอยแถวพระรามสอง หรือตามที่อื่น ๆ ทั่วกรุงเทพมหานคร ถือว่าเป็นการช่วยกันอีกแรงนึงในภาวะวิกฤตเช่นนี้ วันนี้เราทุกคนคงต้องตั้งคำถามกันแล้วค่ะว่ามันถึงเวลาหรือยังที่พวกเราควรจะออกมาทำอะไรสักอย่างเพื่อประคับประคองโลกใบนี้ที่เราอาศัยอยู่ ให้สามารถทำให้เราอยู่อาศัยได้อย่างมีความสุขทั้งสุขภาพกายและสุขภาพใจ ใครหลาย ๆ คนอาจทำนายว่าโลกของเราอาจจะสลายในสักวันเราทุกคนสามารถลบคำทำนายนั้นได้ด้วยการร่วมแรงและร่วมใจของพวกเรา มาปกป้องโลกใบนี้กันนะคะ ....