น้ำมันไต่ขึ้น แต่ "โควิด" ทุบหุ้นร่วง

เมื่อวันที่ 24 เมษายน สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส อินเตอร์มีเดียต (ดับเบิลยูทีไอ) ของสหรัฐอเมริกา ไต่สูงขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 เมื่อวันที่ 24 เมษายนนี้ หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ใช้วาทะข่มขู่ตอบโต้กับทางการอิหร่าน ก่อให้เกิดสถานการณ์ตึงเครียดขึ้นในอ่าวเปอร์เซีย เส้นทางลำเลียงน้ำมันสำคัญของโลก พร้อมกันนั้นการเริ่มต้นการลดกำลังการผลิตตามข้อตกลงของกลุ่มโอเปกพลัสก่อนหน้านี้ก็ใกล้เข้ามา ช่วยดึงราคาให้เพิ่มต่อเนื่องได้
ทั้งนี้ น้ำมันดิบดับเบิลยูทีไอ ปรับตัวสูงขึ้น 1.7 เปอร์เซ็นต์ อยู่ที่ 16.78 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนน้ำมันดิบเบรนท์ ขยับขึ้น 1.3 เปอร์เซ็นต์ ที่ 21.61 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
อย่างไรก็ตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ยังคงกดดันต่อตลาดหุ้นอย่างหนัก ท่ามกลางตัวเลขในทางลบที่เผยแพร่ออกมาเรื่อยๆ ว่า การแพร่ระบาดก่อให้เกิดผลลบต่อเศรษฐกิจของแต่ละประเทศอย่างลึกซึ้ง โดยเฉพาะตัวเลขว่างงานในสหรัฐอเมริกาที่เพิ่มมากขึ้นเป็น 26.5 ล้านคนภายในเวลาเพียงแค่ 5 สัปดาห์ ในขณะที่ผลการทดลองยาเรมเดซิเวียร์ เบื้องต้นก็ไม่เป็นผลดีอย่างที่คาดหวัง และสหภาพยุโรปยังคงหาหนทางรอมชอมชุดความช่วยเหลือต่อชาติสมาชิกใหม่ยังไม่ได้อีกด้วย
ตลาดหุ้นในเอเชียปิดตัวลดลงกันถ้วนหน้า ตั้งแต่ดัชนีนิกเกอิของตลาดโตเกียว ปิดลดลง 0.9 เปอร์เซ็นต์, ฮ่องกง 0.6 เปอร์เซ็นต์, สิงคโปร์ 0.9 เปอร์เซ็นต์, เซี่ยงไฮ้, โซลและจาการ์ตา ลดลงมากกว่า 1 เปอร์เซ็นต์ ส่วนตลาดมุมไบของอินเดียปิดลดลง 0.5 เปอร์เซ็นต์ ไทเปลด 0.2 เปอร์เซ็นต์ และที่หนักที่สุดคือตลาดมะนิลาลดลงกว่า 2 เปอร์เซนต์ เหตุเพราะรัฐบาลยืดมาตรการปิดเมืองไปจนถึงเดือนมิถุนายน