Onimusha 3: Demon Siege เป็นภาคที่สามในซีรีส์ Onimusha อันโด่งดังของ Capcom ที่ออกวางจำหน่ายในปี 2004 สำหรับ PlayStation 2 เกมนี้นำเสนอการผสมผสานระหว่างแอ็คชั่น แฟนตาซี และการผจญภัยข้ามกาลเวลาได้อย่างลงตัว โดยมีจุดเด่นที่การนำเสนอเรื่องราวที่น่าติดตาม ระบบการต่อสู้ที่สนุกสนาน และกราฟิกที่สวยงามตามมาตรฐานของยุคนั้น เนื้อเรื่อง: เกมเริ่มต้นในปี 1582 ที่ญี่ปุ่น เมื่อซามูไรหนุ่ม Samanosuke Akechi กำลังต่อสู้กับกองทัพปีศาจของ Nobunaga Oda จู่ๆ เขาก็ถูกดูดเข้าไปในรูหนอนและไปปรากฏตัวที่กรุงปารีสในปี 2004 ในขณะเดียวกัน Jacques Blanc ตำรวจฝรั่งเศสในยุคปัจจุบันก็ถูกส่งย้อนเวลากลับไปยังญี่ปุ่นยุคเซ็นโกคุ ทั้งสองต้องร่วมมือกันข้ามกาลเวลาเพื่อหยุดยั้งแผนการของ Nobunaga ที่ต้องการครอบครองทั้งอดีตและปัจจุบัน การนำเสนอเรื่องราวที่ซับซ้อนและน่าติดตามนี้ทำให้ผมรู้สึกประทับใจตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้เล่น การเดินทางข้ามกาลเวลาสร้างความน่าสนใจและทำให้เกิดสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดตลอดทั้งเกม การได้เห็นตัวละครจากต่างยุคสมัยมาปะทะกันสร้างความตื่นเต้นและความบันเทิงได้เป็นอย่างดี ระบบการเล่น: Onimusha 3 ยังคงรักษาระบบการต่อสู้แบบแอ็คชั่นที่เป็นเอกลักษณ์ของซีรีส์นี้เอาไว้ ผู้เล่นสามารถสลับควบคุมระหว่าง Samanosuke และ Jacques ได้ในบางช่วงของเกม แต่ละตัวละครมีสไตล์การต่อสู้และอาวุธที่แตกต่างกัน Samanosuke ใช้ดาบซามูไรและอาวุธดั้งเดิมของญี่ปุ่น ในขณะที่ Jacques ใช้อาวุธที่ผสมผสานระหว่างเทคโนโลยีสมัยใหม่กับพลังเวทมนตร์ ระบบการอัพเกรดอาวุธและความสามารถผ่านการดูดซับวิญญาณของศัตรูยังคงอยู่ และมีการเพิ่มเติมความสามารถพิเศษใหม่ๆ เช่น การหลบหลีกแบบ Matrix-style ที่ช่วยเพิ่มความหลากหลายในการต่อสู้ ผมรู้สึกว่าการต่อสู้ในเกมนี้สนุกและท้าทายมาก โดยเฉพาะการเผชิญหน้ากับบอสที่มีรูปแบบการโจมตีที่หลากหลายและต้องใช้กลยุทธ์ในการเอาชนะ การได้สลับควบคุมตัวละครทั้งสองคนทำให้เกมไม่น่าเบื่อและมีความสดใหม่อยู่เสมอ กราฟิกและเสียง: Onimusha 3 นำเสนอกราฟิกที่สวยงามและมีรายละเอียดสูงสำหรับเกม PlayStation 2 ในยุคนั้น ฉากในญี่ปุ่นยุคเซ็นโกคุถูกสร้างขึ้นอย่างสมจริงและสวยงาม ในขณะที่ฉากในปารีสยุคปัจจุบันก็แสดงให้เห็นถึงความแตกต่างของสองยุคสมัยได้อย่างชัดเจน การออกแบบตัวละครก็โดดเด่น โดยเฉพาะการใช้ Jean Reno มาเป็นต้นแบบสำหรับ Jacques Blanc เสียงประกอบและดนตรีในเกมก็สร้างบรรยากาศได้ดีมาก เสียงพากย์ทั้งภาษาญี่ปุ่นและอังกฤษมีคุณภาพสูง ช่วยให้ตัวละครมีชีวิตชีวามากขึ้น ส่วนดนตรีประกอบก็ผสมผสานระหว่างดนตรีแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่นกับดนตรีออเคสตร้าสมัยใหม่ได้อย่างลงตัว ประสบการณ์การเล่น: ตลอดระยะเวลาประมาณ 15-20 ชั่วโมงของการเล่น Onimusha 3 ผมรู้สึกเพลิดเพลินและตื่นเต้นไปกับการผจญภัยของ Samanosuke และ Jacques การได้สำรวจสถานที่ต่างๆ ทั้งในญี่ปุ่นยุคโบราณและปารีสยุคปัจจุบันสร้างความรู้สึกแปลกใหม่และน่าค้นหา ผมประทับใจกับการออกแบบด่านที่หลากหลาย มีทั้งการต่อสู้ การแก้ปริศนา และการสำรวจ ทำให้เกมมีจังหวะที่ลงตัวไม่น่าเบื่อ การต่อสู้กับบอสแต่ละตัวก็ท้าทายและน่าจดจำ โดยเฉพาะการต่อสู้กับ Nobunaga ในตอนท้ายของเกมที่ทั้งยากและสนุกมาก อย่างไรก็ตาม มีบางจุดที่อาจทำให้ผู้เล่นรู้สึกหงุดหงิดได้ เช่น ระบบกล้องที่บางครั้งอาจทำให้มองเห็นได้ไม่ชัดเจนในบางมุม หรือการควบคุมตัวละครที่อาจรู้สึกแข็งๆ บ้างในบางสถานการณ์ แต่สิ่งเหล่านี้ก็ไม่ได้ทำให้ความสนุกของเกมลดลงมากนัก สรุป: Onimusha 3: Demon Siege เป็นเกมที่สมบูรณ์แบบสำหรับแฟนๆ ของซีรีส์นี้และผู้ที่ชื่นชอบเกมแนวแอ็คชั่นผจญภัย การผสมผสานระหว่างประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น แฟนตาซี และการเดินทางข้ามเวลาสร้างประสบการณ์การเล่นที่แปลกใหม่และน่าจดจำ จุดเด่นของเกม: - เนื้อเรื่องที่น่าสนใจและซับซ้อน - ระบบการต่อสู้ที่สนุกและหลากหลาย - กราฟิกและเสียงที่มีคุณภาพสูง - การออกแบบด่านและบอสที่น่าประทับใจ จุดด้อย: - ระบบกล้องที่อาจทำให้เกิดปัญหาในบางครั้ง - การควบคุมตัวละครที่อาจรู้สึกแข็งๆ บ้าง โดยรวมแล้ว Onimusha 3: Demon Siege เป็นเกมที่สร้างความประทับใจให้กับผมอย่างมาก และผมคิดว่ามันเป็นหนึ่งในเกมที่ดีที่สุดของ PlayStation 2 ในยุคนั้น แม้ว่าจะผ่านมาหลายปีแล้ว แต่เกมนี้ก็ยังคงความสนุกและน่าเล่นอยู่ หากคุณมีโอกาสได้เล่นเกมนี้ ผมขอแนะนำให้ลองสัมผัสประสบการณ์การผจญภัยข้ามกาลเวลาครั้งนี้ดูครับ เครดิตภาพ ทางผู้เขียนได้ซื้อเกมนี้มาเล่นเองถ่ายรูปลงเอง เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !