วันนี้ได้ฟังข่าว มีเด็กนักเรียนถูกลืมไว้ในรถโรงเรียน เป็นเหตุให้เด็กเสียชีวิต เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นซ้ำหลายครั้งหลายหน ส่วนใหญ่ก็เกิดจากความประมาทของคน ควรมีมาตรการเกี่ยวกับความปลอดภัยออกมาอย่างเคร่งครัด ต้องมีการตรวจเช็คว่าเด็กได้ลงจากรถหมดหรือยัง ควรมีความใส่ใจตรวจเช็คภายในรถอย่างละเอียดก่อนว่าเด็กนักเรียนลงหมดแล้วหรือยัง ถึงเอารถไปจอดเก็บ เมื่อเด็กนักเรียนมาถึงโรงเรียนในตอนเช้า ต้องมีการเช็คชื่อเด็กในห้องในแต่ละวัน มีเด็กมากี่คน ขาดกี่คน ถ้าเด็กคนไหนขาดต้องโทรเช็ค ยืนยันกับผู้ปกครองเด็กทันที ว่าวันนี้เด็กไม่มาโรงเรียนจริง หรือทางผู้ปกครองเองก็ควรโทรแจ้งกับทางโรงเรียน(คุณครูประจำชั้น)ทุกครั้งที่ลูกลา ไม่มาเรียน เพราะเหตุใด ทำไมเราต้องให้ความสำคัญเรื่องความปลอดภัยของเด็กนักเรียนอย่างเข้มงวด เพราะเด็กนักเรียนส่วนใหญ่ที่ถูกลืมไว้บนรถนักเรียนเป็นเด็กอนุบาล เป็นเด็กเล็ก อายุระหว่าง 3-5 ขวบ เป็นวัยกำลังน่ารัก ไร้เดียงสา ยังไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ จึงต้องเอาใจใส่เด็กนักเรียนอนุบาลเป็นอย่างมาก และต้องเน้นเรื่องความปลอดภัยเป็นพิเศษ จากข่าวหลายข่าวที่เกิดขึ้น ส่วนมากเกิดจากความประมาท ละเลยความปลอดภัยของเด็ก ถึงแม้ว่าทางโรงเรียนจะมีมาตราการดีขนาดไหน ถ้าไม่ยึดถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัด มาตราการนั้นก็ไม่เกิดประโยชน์อะไร นอกจากความไม่ประมาท ไม่ละเลยความปลอดภัยของเด็กในรถนักเรียนแล้ว สิ่งที่ต้องไม่มองข้ามเลย คือ สภาพของรถนักเรียน ต้องมีสภาพรถดี ไม่ใช้รถเก่า หมดสภาพ แล้วมาทำเป็นรถโรงเรียน รถโรงเรียนต้องมีการหมั่นเช็คสภาพ และบำรุงรักษารถอยู่เสมอ ต้องมีอุปกรณ์ฉุกเฉินด้านความปลอดภัยพร้อมตลอด เมื่อหลายปีก่อน เคยมีข่าวหนึ่ง ที่ทางโรงเรียนเอารถเก่ามาทำเป็นรถโรงเรียน โดยไม่มีการปรับปรุง ซ่อมแซมสภาพรถให้ดีก่อน ปรากฏว่าพื้นภายในห้องโดยสารรถผุ ทางโรงเรียนได้เอาไม้กระดาน หรือผ้ากระสอบมาปิดไว้ เด็กนักเรียนไม่รู้เดียงสาเดินผ่าน ทำให้เด็กหล่นลงไปใต้ท้องรถ โดนรถทับเด็กเสียชีวิตทันทีถือเป็นข่าวใหญ่มากในช่วงนั้น ต่อมาได้มีระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการควบคุมดูแลการใช้รถโรงเรียน มาตรฐานความปลอดภัยของรถรับ-ส่งนักเรียน อย่างเช่น ที่นั่งยึดมั่นแข็งแรง ไม่มีพื้นที่ให้ยืน มีการจัดติดแผ่นป้ายสีส้มที่มีข้อความสีดำเขียนคำว่า " รถโรงเรียน" พร้อมทั้งมีไฟสัญญาณสีส้ม หรือสีแดง เปิด-ปิดเป็นระยะ ติดไว้ที่ด้านหน้า และท้ายรถ ต้องมีอุปกรณ์จำเป็น กรณีฉุกเฉิน เช่น เครื่องดับเพลิง ค้อนทุบกระจกรถ และคุณสมบัติของผู้ขับขี่ ต้องมีใบขับขี่รถยนต์ส่วนบุคคลไม่น้อยกว่า 3 ปี ไม่เคยมีประวัติเสียหายจากการขับรถ เป็นต้น แต่บางข้อก็ถูกละเลยไป อย่างที่เราเห็น ในสังคมยุคนี้ ทั้งคุณพ่อ และคุณแม่ ก็ต้องออกไปทำงานนอกบ้าน การส่งลูกขึ้นรถโรงเรียนก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ พ่อ แม่คิดว่าปลอดภัย แต่สิ่งที่คิดว่าได้เลือกดีที่สุดแล้ว สุดท้ายต้องมาสูญเสียลูกอันเป็นแก้วตา ดวงใจไป ทางโรงเรียนจะเยียวยาเป็นเงินสักเท่าใด ก็ไม่สามารถมาชดเชยชีวิตลูกได้เลย ฉะนั้นความปลอดภัยของรถโรงเรียนต้องไม่ละเลยความปลอดภัย และไม่ควรประมาทต้องอย่าให้เกิดปัญหาขึ้นซ้ำๆอีก การดูแลเด็กเล็กตั้งแต่ผู้ปกครองส่งบุตรหลานขึ้นรถ จนถึงโรงเรียน ทุกอย่างอยู่ภายใต้ความรับผิดชอบ และการดูแลของโรงเรียน ความปลอดภัยของเด็กเล็กเป็นสิ่งสำคัญมาก เด็กเล็กต้องอยู่ในสายตาตลอดเวลา แค่คลาดสายตาสักครู่เดียวก็อาจเกิดอันตรายขึ้นได้แล้ว ผู้เขียนเองก็ตั้งความหวังว่าอย่าให้ได้เห็นข่าวแบบนี้อีกเลย ภาพปก ขอบคุณภาพจาก jatocreate / Pixabayภาพประกอบที่ 1 ขอบคุณภาพจาก Pixabay/ Pexelsภาพประกอบที่ 2 ขอบคุณภาพจาก Artem Podrez/ Pexelsภาพประกอบที่ 3 ขอบคุณภาพจาก InSaPictures/ Pixabayภาพประกอบที่ 4 ขอบคุณภาพจาก Calab Oquendo/ Pexels เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !