ในปัจจุบัน อย่างที่ทุกคนทราบดีว่านวัตกรรมเทคโนโลยีต่างๆมีความเจริญก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว แต่ในปี 2022 นี้แล้ว คงไม่พ้นเจ้า “Autonomous Driving” หนึ่งในนวัตกรรมที่กำลังโด่งดังและเป็นจุดสนใจจากผู้คนทั่วทุกมุมโลก เจ้านี่คืออะไร? มันมีดียังไง? เรามาทำความรู้จักไปพร้อมๆกันเลย Autonomous Driving หรือ รถยนต์ไร้คนขับ เป็นรถยนต์ที่สามารถขับเคลื่อนได้เองโดยปราศจากการช่วยเหลือของมนุษย์ ซึ่งเป็นการทำงานควบคู่ระหว่างฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์เพื่อส่งฐานข้อมูลให้กับปัญญาประดิษฐ์ (AI) โดยข้อมูล 4 อย่างที่จะช่วยให้รถยนต์ไร้คนขับนี้ทำงานได้ดีและมีความปลอดภัย คือ 1. Location : ตำแหน่งของชื่อถนนสู่เลนที่รถทำการสัญจรอยู่ โดยมีการนำเทคโนโลยี GNSS มาหาค่าพิกัดตำแหน่ง ไม่ว่าจะเป็นตำแหน่งละติจูดหรือลองจิจูด ก็สามารถหาค่าได้อย่างแม่นยำ 2. Surrounding objects recognition : การจดจำขนาด รูปร่าง สิ่งแวดล้อมโดยรอบ อาทิเช่น สิ่งมีชีวิตและการเคลื่อนไหวของพวกเขาCameras : กล้องรวบรวมข้อมูลภาพจากถนนและการจราจร ส่งไปยังตัวควบคุมเพื่อทำการการประมวลผล RADAR / LIDAR : การสะท้อนเลเซอร์ออกจากวัตถุที่ตรวจพบ สามารถตรวจจับแนวถนน ผู้คน ทรัพย์สิน และยังสามารถแยกแยะวัตถุได้ดี GPS unit : การระบุตำแหน่งที่แม่นยำและอีกทั้งยังช่วยในการนำทางอีกด้วย3. Prediction : การรับรู้และทำนายสิ่งที่จะเกิดขึ้น (AI)4. Action : การวิเคราะห์ข้อมูลทั้งหมด และทำสิ่งที่ควรจะตอบสนอง อาทิเช่น การหยุดรถขณะมีสิ่งกีดขวาง Autonomous Driving พร้อมไปด้วย ความปลอดภัย จากการมีเซนเซอร์คอยตรวจจับวัตถุที่อยู่โดยรอบคันรถ พร้อมทั้งหน่วยประมวลผล AI ที่คอยประมวลผลข้อมูล ส่งผลลัพธ์ออกมาได้อย่างมีประสิทธิภาพและแม่นยำ คุณสามารถไว้ใจได้เลยว่าถ้าคุณอยู่บนรถคันนี้แล้วจะถึงเป้าหมายอย่างถูกต้องและปลอดภัยอย่างแน่นอน และอีกหนึ่งปัจจัยที่ไม่ยกมาพูดไม่ได้เลยนั้นคือ อัตราการเกิดอุบัติเหตุทางท้องถนนส่วนใหญ่แล้วมาจากผู้ขับขี่ โดยเจ้า Autonomous Driving นี้แหละจะเข้ามาช่วยเข้ามาแก้ไขปัญหานี้ให้มีผลลัพธ์ที่ดีขึ้น ลดทั้งอุบัติเหตุ ลดทั้งภาระ แถมยังประหยัดเวลา เพิ่มความสะดวกสบายให้กับชีวิต ยกตัวอย่างให้เห็นง่ายๆ เช่น ถ้าคุณอยากจะพาสุนัขแสนรักของคุณไปหาหมอ แต่คุณก็ต้องไปทำงานให้ทันเวลา คุณก็สามารถใช้เจ้ารถคันนี้แหละพาเจ้าสุนัขไปหาหมอ ส่งถึงจุดหมายปลายทางได้อย่างปลอดภัยหายกังวล หรือ ถ้าคุณเหนื่อยล้าจากการทำงานมาทั้งวัน แล้วคุณต้องมีหน้าที่กลับไปเลี้ยงลูกน้อย คุณก็สามารถใช้ช่วงเวลาในการเดินทางกลับบ้านขณะอยู่บนรถนี่แหละในการพักผ่อนหย่อนใจ สร้างคุณภาพชีวิตที่ดี๊ดี อีกหนึ่งข้อดีที่ดูจะเป็นประโยชน์ต่อโลกของเราตอนนี้นั่นก็คือ การลดการปล่อยแก๊สคาร์บอนไดออกไซต์ (CO2) ที่เป็นปัจจัยก่อให้เกิดภาวะโลกร้อน โดยจะมีการนำพลังงานไฟฟ้าเข้ามาใช้เป็นวัตถุดิบหลักในการขับเคลื่อนนั่นเอง จากที่กล่าวมาดูเหมือนว่าไอ้เจ้ารถคันนี้ล้วนจะมีแต่ข้อดี แต่ทำไมผู้คนในประเทศไทยยังไม่ได้ให้ความสนใจมากขนาดนั้น? ข้อเสียของมันหล่ะ? ความพร้อมในการใช้งาน? เรามาตามดูเหตุผลไปด้วยกันเลย 1. กฎหมายและความพร้อม - ประเทศไทยถ้าพูดถึงรถยนต์ไร้คนขับ ยังถือว่าเป็นเรื่องใหม่ ในเรื่องของการเตรียมตัวอาจจะยังต้องใช้ข้อมูลและระยะเวลา เช่น การร่างกฎหมายเพิ่มเติมหากเกิดอุบัติเหตุ การออกประกันภัยสำหรับรถยนต์ชนิดนี้โดยเฉพาะ 2. สภาพแวดล้อมบนท้องถนน - สภาพถนน ป้ายจราจร ที่ไม่เอื้ออำนวย หรือการวางผังเมืองที่แตกต่างกันไปแต่ละพื้นที่ ข้อจำกัดนี้อาจจะยังทำให้รถยนต์ไร้คนขับยังไม่มีประสิทธิภาพหากนำมาใช้งาน บวกกับจำนวนผู้คนที่นำมาใช้งาน หากผู้คนใช้งานน้อยประสิทธิผลของการใช้ Autonomous Driving ก็จะน้อยลงตามไปด้วย ยกตัวอย่างเช่น การขับรถบนท้องถนนที่มีทั้งรถยนต์ปกติ และรถยนต์ไร้คนขับ ผลลัพธ์ของการจราจรอาจจะมีแนวโน้มที่ดีขึ้น แต่ยังไม่ถึง 100% อย่างแน่นอน 3. ตลาดการค้า - ด้วยประชากรของชาวไทยเพียงประมาณ 70 ล้านคน ตลาดไทยยังค่อนข้างเล็กสำหรับเทคโนโลยีนี้ การนำเข้ารถที่ผลิตจากต่างประเทศจะต้องเสียอัตราภาษีขาเข้าค่อนข้างสูง ทำให้ราคาของรถสูงขึ้นตามไปด้วย 4. ความเชื่อมั่นในความปลอดภัย - เช่นเคย ถ้ากล่าวถึงรถยนต์ไร้คนขับคงเป็นสิ่งที่แปลกมากสำหรับผู้คนที่เคยใช้ชีวิตในการขับขี่รถเอง ระยะเวลาบวกกับการสร้างความเชื่อมั่นในความปลอดภัยทางไซเบอร์ก็เป็นสิ่งสำคัญที่จะให้เทคโนโลยีนี้แพร่หลายในประเทศไทย 5. แรงงาน - คนขับแท็กซี่ รถโดยสารประจำทาง หรืออื่นๆ อาจจะโดนผลกระทบจากการถูกแทนตำแหน่งหน้าที่ แต่ถึงอย่างไรก็ยังคงเชื่อว่าเทคโนโลยี Autonomous Driving จะเข้ามามีผลต่อการใช้ชีวิตของคนไทย แต่จะช้าหรือเร็วนั้น อาจจะขึ้นอยู่กับความพร้อมของประชาชนในประเทศในการเปิดรับเทคโนโลยีใหม่นี้ บวกกับการสนับสนุนจากภาครัฐ เพราะถึงอย่างไรแล้ว พวกเราทุกคนก็ต้องก้าวตามให้ทันโลก เมื่อโลกสมัยใหม่เปลี่ยนไปในทิศทางไหน เราก็ควรพร้อมที่จะปรับตัว เปลี่ยนแปลงให้เท่าทัน เพื่อผลลัพธ์ที่ดีขึ้นแก่ทั้งชุมชน เศรษฐกิจ และสังคม Autonomous Driving ถือว่าเป็นเทคโนโลยีที่น่าจับตามองและมีแนวโน้มที่จะเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตคนไทยไม่ช้าก็เร็วอย่างแน่นอน เครดิตภาพ :ภาพปกทำเองจากแอป Procreate ภาพประกอบหน้าปก ภาพที่ 1 โดย PavelVinnik จาก freepik.com / ภาพที่ 2 โดย macrovector จาก freepik.comภาพที่ 1 โดย icomaker จาก freepik.comภาพที่ 2 ทำเองจากแอป Procreate : ภาพที่ 1 โดย Jasontuk จาก imgbin.com / ภาพที่ 2 จาก pngegg.com / ภาพที่ 3 จาก pngwing.comภาพที่ 3 ทำเองจากแอป Procreate : ภาพที่ 1 จาก pngwing.com / ภาพที่ 2 จาก pngwing.com / ภาพที่ 3 จาก pngegg.com / ภาพที่ 4 โดย mmolson357 จาก favpng.comภาพที่ 4 โดย metamorworks จาก istockphoto.comภาพที่ 5 โดย Yuriy Bucharskiy จาก istockphoto.comภาพที่ 6 โดย suwin จาก freepik.comภาพที่ 7 โดย Paladjai จาก istockphoto.comภาพที่ 8 โดย gmast3r จาก istockphoto.comภาพที่ 9 โดย macrovector จาก freepik.comภาพที่ 10 โดย freepik จาก freepik.comภาพที่ 11 โดย intararit จาก istockphoto.comเปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !