นายกฯ เข้าร่วมงานเลี้ยงพิเศษ APEC เน้นย้ำบทบาทไทย ชวนสหรัฐฯ เปิดทางเจรจาการค้า

วันนี้ ( 29 ต.ค. 68 ) เวลา 18.30 น. นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้เข้าร่วมงานเลี้ยงอาหารค่ำเป็นกรณีพิเศษสำหรับผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค (Special Dinner) ณ โรงแรม Hilton Gyeongju ซึ่งจัดขึ้นภายใต้หัวข้อ "ความร่วมมือทางเศรษฐกิจของภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก" (Indo-Pacific Economic Corporation) โดยมีประธานาธิบดีอี แช มย็อง แห่งเกาหลีใต้ เป็นเจ้าภาพเพื่อเป็นเกียรติแก่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ และผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค
ผู้นำ 8 ชาติหารือร่วมกัน
งานเลี้ยงดังกล่าวเป็นหนึ่งในกิจกรรมสำคัญของการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ครั้งที่ 32 โดยมีผู้นำสำคัญ 8 ท่าน เข้าร่วมและพบปะพูดคุยอย่างเป็นกันเองก่อนงานเลี้ยง อาทิ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ, นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย, นายกรัฐมนตรีแคนาดา, นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์, นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ และประธานาธิบดีเวียดนาม
สารสำคัญจากนายกรัฐมนตรีไทย
ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีอนุทินได้กล่าวถ้อยแถลงเน้นย้ำถึงบทบาทของไทยในการเป็นหุ้นส่วนสำคัญของภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก โดยมีสาระสำคัญดังนี้:
- ตอกย้ำพันธมิตร ไทยให้ความสำคัญกับความร่วมมือรอบด้านกับทุกพันธมิตร ผ่านกลไกต่าง ๆ เช่น อาเซียน, RCEP, กรอบความร่วมมือแม่โขง-สหรัฐฯ และ ACMECS พร้อมทั้งเสริมสร้างความสัมพันธ์กับเกาหลีใต้ผ่านกรอบ CEPA
- ขอบคุณสหรัฐฯ โดยไทยยินดีที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เข้าร่วมงาน ซึ่งสะท้อนความมุ่งมั่นของสหรัฐฯ ต่อภูมิภาคนี้ และขอบคุณสำหรับการสนับสนุนกระบวนการสร้างสันติภาพระหว่างไทยและกัมพูชา
- เปิดทางเจรจาการค้า ไทยแสดงความหวังว่าสหรัฐฯ จะเห็นความตั้งใจจริงของไทย เพื่อเปิดทางสู่การเจรจา ข้อตกลงการค้าไทย-สหรัฐฯ ที่เป็นประโยชน์ร่วมกันและมีความสมดุล
3 เสาหลักในการปลดล็อกศักยภาพอินโด -แปซิฟิก
นายกรัฐมนตรียังได้เสนอแนวทาง 3 ด้านที่จำเป็นต้องมีการมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันจากสหรัฐฯ เพื่อเปลี่ยนศักยภาพทางเศรษฐกิจของภูมิภาคให้เป็นโอกาสที่แท้จริง:
1. ความร่วมมือด้านดิจิทัลและ AI: เน้นย้ำว่าเทคโนโลยี AI มีบทบาทสำคัญทั้งในการขับเคลื่อนนวัตกรรม และการป้องกันอาชญากรรมข้ามชาติ/การหลอกลวงออนไลน์
2. การปรับปรุงสภาพแวดล้อมทางธุรกิจ: เรียกร้องให้มีการลดกฎระเบียบที่ซ้ำซ้อน และส่งเสริมการแข่งขันที่เป็นธรรม โดยความตั้งใจของไทยที่จะเข้าร่วม OECD สะท้อนความมุ่งมั่นนี้
3. การเสริมสร้างความยืดหยุ่นในห่วงโซ่อุปทาน: เน้นย้ำถึงความจำเป็นในการเชื่อมโยงห่วงโซ่อุปทานให้แข็งแกร่งและยืดหยุ่นยิ่งขึ้น เพื่อรองรับเศรษฐกิจโลกที่ซับซ้อน
ในตอนท้าย นายกรัฐมนตรีอนุทินย้ำถึงความตั้งใจของไทยที่จะร่วมมือกับทุกเขตเศรษฐกิจเพื่อส่งเสริมการขับเคลื่อนธุรกิจและนวัตกรรม เพื่อประโยชน์ของประชาชนในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
