บ้านไหนที่เลี้ยงน้องหมาคงต้องซื้อขนมสำหรับสุนัขยี่ห้อต่างๆ ติดบ้านไว้ไม่มากก็น้อยเพื่อให้เป็นรางวัลเวลาที่เค้าทำตัวแสนรู้เชื่อฟัง บางทีก็ให้เป็นประจำตามปกติ ที่รู้เพราะเจ้าตัวแสบทั้งหลายที่บ้านข้าวหอมเองก็ชอบกินขนมเป็นที่สุด เช้าๆ มาเวลาเรียกข้าวบ้านทีไรก็จะพากันมานั่งหน้าสลอน ทำตาแป๋วแหววเรียกร้องหาขนมกันทุกที โดยเฉพาะสันในไก่อบแห้งนี่เรียกว่าโปรดปรานเลยทีเดียว แค่ทำท่าจะหยิบถุงขึ้นมาก็ตื่นเต้นกันยกใหญ่ นอกจากนี้ก็ยังมีขนมสุนัขอีกหลายยี่ห้อ ต่างวัตถุดิบ ซึ่งแม้จะบอกว่าเป็นขนมที่ทำมาสำหรับสุนัขแต่พอดูส่วนประกอบแล้วช่างไม่มีประโยชน์ใดๆ กับร่างกายของเค้าเลยสักนิด แถมถ้ากินติดต่อกันนานๆ หรือกินในปริมาณมากก็อาจเป็นสาเหตุให้เจ้าตัวแสบของเราป่วยซะได้ อีกทั้งราคาของขนมก็ไม่ใช่ถูกๆ ดังนั้นวันนี้ข้าวหอมจึงนำขั้นตอนการทำของโปรดของเจ้าลูกหมาทั้งหลายที่บ้านมาบอกกันค่ะ เดิมทีข้าวหอมจะใช้สันในไก่เป็นวัตถุดิบหลักในการทำเพราะเนื้อไก่เมื่อเทียบกับหมูแล้วถือว่ามีไขมันน้อยกว่า ย่อยได้ง่ายกว่า แต่อุปสรรคของการใช้สันในไก่หลักๆ เลยก็คือขั้นตอนในการหั่นสไลด์ค่ะ สันในไก่ 1 กิโลกรัมต้องใช้เวลาอย่างน้อยๆ 20-30 นาทีในการหั่นสไลด์ให้เป็นแผ่นบางๆ ซึ่งข้าวหอมจะทำครั้งละ 2-3 กิโลกรัมเพราะเลี้ยงหลายตัวให้ทุกวันแป๊ปๆ ก็หมด จึงต้องใช้เวลาในการสไลด์สันในไก่นานขึ้นเกือบสองชั่วโมง แล้วผลที่ตามมาก็คืออาการปวดหลัง ปวดเอว ปวดไหล่ เรียกว่าเมื่อยกันไปทั้งตัวเลยล่ะค่ะ ดังนั้นข้าวหอมจึงหันมาใช้สันนอกหมูชาบูที่มีขายเป็นแพ็คในห้างมาใช้แทน ข้อดีคือไม่ต้องมานั่งสไลด์ให้เมื่อย ส่วนข้อเสียที่เห็นได้ชัดเลยคือราคาที่แพงกว่าสันในไก่เป็นเท่าตัว ดังนั้นถ้าใครไม่มีปัญหากับการต้องนั่งสไลด์สันในไก่ก็แนะนำให้เลือกใช้สันในไก่ในการทำดีกว่านะคะขั้นตอนการทำหมูสติ๊ก 1. ถ้าเราซื้อหมูสไลด์จากห้างสรรพสินค้ามาอย่างแรกที่ต้องทำก็คือการนำหมูไปแช่น้ำเพื่อละลายน้ำแข็งให้เนื้อหมูไม่แข็งตัวก่อนค่ะ และเมื่อเนื้อหมูไม่แข็งตัวแล้วก็มาม้วนให้เป็นแท่งๆ เหมือนขนมทองม้วนได้เลยค่ะ โดยให้นำตะเกียบมาวางจากนั้นจึงค่อยๆ ม้วนหมูเข้ากับตะเกียบจะช่วยให้สามารถม้วนได้ง่ายขึ้น แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับเจ้าของนะคะ ถ้าใครไม่อยากม้วนก็สามารถข้ามขั้นตอนนี้ไปได้เลยค่ะภาพโดยผู้เขียน 2. เมื่อม้วนหมูเรียบร้อยแล้วให้นำเนื้อหมูสไลด์ที่ได้มาวางเรียงในชั้นสำหรับตากแห้ง จากนั้นจึงนำไปตากแดดประมาณ 1-2 วันค่ะ โดยหากบ้านไหนแดดส่องน้อยก็อาจใช้พัดลมช่วยเป่าอีกแรงหนึ่งจะทำให้เนื้อที่ตากแห้งเร็วขึ้นค่ะภาพโดยผู้เขียน 3. เมื่อเนื้อหมูแห้งดีแล้วให้นำมาเข้าเตาอบ อบด้วยความร้อนประมาณ 150-200 องศาเซลเซียส ไม่ควรใช้ไฟแรงมากเพราะจะทำให้หมูไหม้ได้นะคะ ใช้เวลาในการอบประมาณ 15-20 นาที สีของเนื้อหมูจะเปลี่ยนเป็นสีเป็นสีน้ำตาลอ่อนน่ากินสุดๆ โดยหากเป็นเนื้อหมูที่ติดมันมากก็อย่าลืมใส่ถาดรองน้ำมันเข้าไปด้วยตอนอบนะคะ เพราะน้ำมันจะไหลเยิ้มออกมาพอสมควร ซึ่งถ้าเป็นไปได้ก็ควรเลือกใช้เนื้อหมูส่วนที่ไม่ติดมัน หรือหากเป็นสันในไก่ก็แทบจะไม่มีมันเลยค่ะภาพโดยผู้เขียน 4. เสร็จแล้วให้นำเนื้อหมูมาพักไว้บนตะแกรงหรือกระดาษซัปมัน เมื่อหายร้อนและน้ำมันออกหมดแล้วก็นำไปเก็บไว้ในกล่องทัพเพอร์แวร์ได้เลยค่ะ โดยปกติแล้วเนื้อหมูหรือไก่อบแห้งจะสามารถเก็บได้นานประมาณ 1-2 อาทิตย์ในอุณหภูมิห้อง ไม่ต้องแช่ตู้เย็น หากเก็บไว้นานกว่านั้นสีจะเปลี่ยน ความน่ากินจะลดลงและกลิ่นหอมๆ ที่น้องหมาชอบจะค่อยๆ จางลงไปด้วยค่ะภาพโดยผู้เขียน อย่างไรก็ตามหมูสติ๊กเหมาะสำหรับการให้สุนัขทานเป็นของว่างเท่านั้น ไม่เหมาะกับการให้ทานเป็นอาหารหลักเพราะจะทำให้สุนัขได้รับสารอาหารไม่ครบถ้วนและควรให้ในปริมาณที่พอเหมาะไม่มากจนเกินไป วันละ 1-2 ชิ้นกำลังดี นอกจากนี้อาจเราสามารถเปลี่ยนวัตถุดิบเป็น อกไก่ สันในไก่ ตับหมู ฯลฯ ได้ตามต้องการ โดยคำนึงถึงความชอบและสุขภาพของสุนัขแต่ละตัวเป็นสำคัญ รับรองว่าถูกใจทั้งเจ้าของและเจ้าตัวแสบแน่นอนค่ะ