แต่งงานแล้ว มาลาลา ยูซาฟไซ เจ้าของรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ

แต่งงานแล้ว - วันที่ 10 พ.ย. บีบีซี รายงานว่า น.ส.มาลาลา ยูซาฟไซ อายุ 24 ปี เจ้าของรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ ในฐานะนักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิสตรีปากีสถาน ซึ่งถูกกองกำลังตาลิบันยิงเข้าที่ศีรษะในปี 2555 และต้องลี้ภัยไปที่อังกฤษ เข้าพิธีนิกะห์ หรือพิธีสมรสตามอิสลามแล้ว กับนายอัสเซอร์ มาลิค ในเมืองเบอร์มิงแฮม.

น.ส.มาลาลากล่าวว่า มันเป็นวันอันมีค่าในชีวิตของเธอ. และแบ่งปันภาพถ่ายที่คู่บ่าวสาวเข้าร่วมในพิธีนิกะห์เล็กๆ กับครอบครัว. "อัสเซอร์และฉันแต่งงานกันเพื่อเป็นคู่ชีวิต. เราตื่นเต้นที่จะเดินไปด้วยกันเพื่อก้าวต่อไป" น.ส.มาลาลาโพสต์ข้อความทางทวิตเตอร์.

อย่างไรก็ตาม น.ส.มาลาลาไม่ได้เปิดเผยว่า คู่บ่าวสาวมีพิธีจดทะเบียนสมรสตามกฎหมายแยกต่างหากหรือไม่ เนื่องจากพิธีนิกะห์เป็นก้าวแรกในการสมรสตามอิสลาม แต่ไม่ใช่สัญญาที่มีผลผูกพันทางกฎหมาย บ่อยครั้งจะมีพิธีจดทะเบียนสมรสตามกฎหมายแยกต่างหาก.

ก่อนหน้านี้ นางมาลาลาแสดงความกังวลใจเกี่ยวกับการแต่งงานผ่านการให้สัมภาษณ์กับนิตยสารโว้กในเดือนก.ค. ว่า "ฉันยังไม่เข้าใจว่าทำไมคนต้องแต่งงาน. หากคุณต้องการมีใครสักคนในชีวิตของคุณ ทำไมคุณต้องจดทะเบียนสมรส ทำไมไม่สามารถเป็นเพียงคู่ชีวิต. แม่ของฉันเป็นเหมือนว่า..."ลูกอย่าพูดแบบนั้นนะ ลูกจำเป็นต้องแต่งงาน การแต่งงานเป็นสิ่งสวยงาม."

ย้อนกลับไปเมื่ออายุ 15 ปี น.ส.มาลาลาออกมาส่งเสียงเพื่อสิทธิเด็กผู้หญิงในการได้รับการศึกษา จึงตกเป็นเป้าหมายของกองกำลังตาลิบันในปากีสถาน. กลุ่มติดอาวุธบุกขึ้นมารถโรงเรียนที่น.ส.มาลาลาโดยสารในหุบเขาสวาต ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ และเปิดฉากยิงจนเพื่อนนักเรียน 2 คน บาดเจ็บ. ส่วนน.ส.มาลาลาที่รอดชีวิตหลังฟื้นจากอาการบาดเจ็บปางตาย.

หลังเหตุการณ์ดังกล่าว น.ส.มาลาลาและครอบครัวย้ายถิ่นฐานไปเมืองเบอร์มิงแฮม ซึ่งต่อมาน.ส.มาลาลาเรียกว่าเป็น "บ้านหลังที่สอง". เมื่ออายุ 17 ปี น.ส.มาลาลากลายเป็นผู้ชนะรางวัลโนเบลสันติภาพที่มีอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์. จากนั้น ศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด และกลายเป็นผู้รณรงค์สิทธิมนุษยชนชั้นนำ.

ตั้งแต่จบการศึกษา น.ส.มาลาลาเรียกร้องการสนับสนุนผู้ลี้ภัยชาวอัฟกันที่ดีขึ้น เซ็นสัญญากับแอปเปิ้ลทีวีพลัสเพื่อผลิตสารคดี และปรากฏตัวบนปกของนิตยสารโว้กของอังกฤษ ขณะเดียวกัน ยังทำงานของเธอเพื่อปรับปรุงการเข้าถึงการศึกษาของเด็กผู้หญิง.