9 ผลกระทบของระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้น ต่อพื้นที่ชายฝั่ง และคน อ่านเลย! เขียนโดย ภัคฒ์ชาลิสา จำปามูล ในปัจจุบันหากเราจะพูดถึงผลเสียจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ มีสิ่งหนึ่งที่มักถูกหยิบยกมาเป็นตัวชี้วัด นั่นก็คือปรากฏการณ์ระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้นค่ะ ที่ฟังดูแล้วเหมือนเป็นเรื่องไกลตัว หรือเป็นแค่ข่าวที่เราเห็นผ่านตาในทีวีและตามสื่อต่างๆ แต่จริงๆ แล้วนั่นคือการเปลี่ยนแปลงที่กำลังคืบคลานเข้ามาใกล้ชีวิตพวกเราทุกคนมากกว่าที่คิดนะคะ โดยหลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่า การที่โลกของเรามีน้ำแข็งปกคลุมอยู่ที่ขั้วโลกเหนือและใต้ และเมื่ออุณหภูมิโลกสูงขึ้นจากกิจกรรมต่างๆ ของมนุษย์ น้ำแข็งเหล่านั้นก็ละลายลงมาสู่มหาสมุทร เมื่อน้ำในมหาสมุทรอุ่นขึ้น น้ำก็เกิดการขยายตัว ทำให้ปริมาตรน้ำในทะเลเพิ่มขึ้น จึงส่งผลให้ระดับน้ำทะเลโดยเฉลี่ยทั่วโลกค่อยๆ สูงขึ้นเรื่อยๆ ค่ะ จากสถานการณ์นี้มีผลเสียเกิดขึ้นหลายอย่างมาก แล้วการที่ระดับน้ำทะเลสูงขึ้นทำให้เกิดอะไรได้บ้างนั้น ในบทความนี้เราจะมาเรียนรู้และทำความเข้าใจกันค่ะ ที่อ่านจบแล้วคุณผู้อ่านจะมองเห็นภาพใหญ่ของประเด็นนี้มากขึ้น ซึ่งต่อไปนี้คือผลกระทบที่จะตามมาค่ะ 1. น้ำท่วมชายฝั่งและที่อยู่อาศัยเสียหาย ปัจจุบันเรื่องที่น้ำทะเลหนุนสูงจนท่วมบ้านเรือนและที่ดินชายฝั่ง ไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไปแล้วค่ะ เพราะเรามักได้ยินข่าวบ่อยขึ้นเรื่อยๆ ว่าพื้นที่ริมทะเลหลายแห่งกำลังเผชิญกับน้ำท่วมที่รุนแรงขึ้นและบ่อยขึ้น นั่นเป็นเพราะระดับน้ำทะเลทั่วโลกกำลังเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากการที่โลกของเราร้อนขึ้น น้ำแข็งขั้วโลกละลาย และน้ำในมหาสมุทรขยายตัวเมื่ออุณหภูมิสูงขึ้นค่ะ พอระดับน้ำทะเลสูงขึ้น น้ำทะเลก็พร้อมที่จะไหลบ่าเข้าท่วมพื้นที่ต่ำริมชายฝั่งได้ง่ายขึ้น ไม่ว่าจะจากน้ำขึ้นตามธรรมชาติ หรือเวลาเกิดพายุ จึงทำให้บ้านเรือน พืชผลทางการเกษตร และแหล่งทำมาหากินของคนริมทะเลเสียหายหนัก ซึ่งในบางพื้นที่ถึงขั้นต้องอพยพย้ายถิ่นฐาน และนั่นคือปัญหาใหญ่ที่เราทุกคนต้องตระหนักและร่วมกันหาทางรับมือค่ะ 2. การกัดเซาะชายฝั่ง เมื่อน้ำทะเลมีปริมาณมากขึ้นและสูงขึ้น ก็มีความสามารถในการกัดเซาะชายหาดและผืนดินชายฝั่งมากขึ้นตามไปด้วย เพราะคลื่นลมที่พัดเข้ามาก็จะรุนแรงขึ้น จึงซัดเอาดินทรายออกไปเรื่อยๆ โดยที่เราอาจไม่ทันสังเกตในตอนแรก พอมารู้ตัวอีกทีชายหาดที่เคยสวยงามก็หดหายไป หรือบางพื้นที่ที่เป็นหน้าผาหรือเนินทรายก็ค่อยๆ พังทลายลงไปในทะเล ชายฝั่งที่เคยเป็นกำแพงธรรมชาติคอยปกป้องแผ่นดินก็ค่อยๆ เล็กลงและอ่อนแอลง และนั่นคือสัญญาณอันตรายที่บอกเราว่า กำลังจะสูญเสียพื้นที่และทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญไปอย่างถาวร หากเรายังนิ่งเฉยไม่ทำอะไรเพื่อชะลอการเปลี่ยนแปลงนี้ค่ะ 3. ปัญหาการระบายน้ำและการแทรกซึมของน้ำเค็ม หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่า เมื่อระดับน้ำทะเลสูงขึ้นปัญหาที่ตามมา ไม่ได้มีแค่น้ำท่วมชายฝั่งและกัดเซาะชายหาดเท่านั้นนะคะ แต่ยังซับซ้อนไปถึงเรื่องของการระบายน้ำและการแทรกซึมของน้ำเค็มด้วย เพราะเมืองชายฝั่งหลายแห่งมีระบบระบายน้ำที่ออกแบบมาให้ระบายน้ำฝนลงสู่ทะเล แต่เมื่อระดับน้ำทะเลสูงขึ้น ประตูระบายน้ำหรือท่อระบายน้ำก็เหมือนถูกน้ำทะเลหนุนสูงเอาไว้ ทำให้ระบายน้ำออกไปได้ยากขึ้น หรือบางทีน้ำทะเลก็ย้อนกลับเข้ามาในท่อระบายน้ำ พอฝนตกหนัก น้ำก็ท่วมขังอยู่ตามถนนหนทางและในชุมชนนานขึ้น สร้างความเดือดร้อนทั้งเรื่องการสัญจรและสุขอนามัย นอกจากนี้สิ่งที่น่ากังวลไม่แพ้กัน คือ น้ำเค็มที่แทรกซึมเข้าไปในชั้นใต้ดิน สามารถปนเปื้อนแหล่งน้ำจืดที่เราใช้ดื่มกินและใช้ในการเกษตรได้ ทำให้ดินเค็มขึ้น เพาะปลูกอะไรก็ไม่ขึ้น ซ่งปัญหาที่กระทบถึงชีวิตประจำวันและความมั่นคงทางอาหารของคนชายฝั่งโดยตรง และเป็นสิ่งที่ชี้ให้เห็นว่าผลกระทบจากระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้นนั้นแผ่วงกว้างและซับซ้อนกว่าที่เราคิดไว้มากค่ะ 4. ผลกระทบทางสังคมและการย้ายถิ่นฐาน ผลกระทบที่ร้ายแรงตามมาและหลายคนอาจมองข้ามไป คือ เรื่องของผลกระทบทางสังคมและการย้ายถิ่นฐานค่ะ ลองนึกภาพดูคะว่าถ้าบ้านที่เราสร้างมาทั้งชีวิตถูกน้ำท่วมซ้ำแล้วซ้ำเล่า หรือที่ดินทำกินถูกน้ำเค็มกัดกินจนเพาะปลูกอะไรไม่ได้อีกต่อไป เราจะทำอย่างไร? หลายครอบครัวไม่มีทางเลือกอื่นนะคะ นอกจากต้องทิ้งบ้านเกิดและวิถีชีวิตดั้งเดิม เพื่อย้ายไปหาที่อยู่ใหม่ ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะการพลัดถิ่นหมายถึงการที่ต้องเริ่มต้นชีวิตใหม่ในที่ที่ไม่คุ้นเคย ต้องปรับตัวเข้ากับสังคมใหม่ วัฒนธรรมใหม่ และบางครั้งก็ต้องเผชิญกับความยากลำบากในการหางานและสร้างรายได้ใหม่ ปัญหาเหล่านี้ไม่ได้กระทบแค่คนกลุ่มเล็กๆ แต่กำลังกลายเป็นความท้าทายใหญ่ของสังคมโลก ที่เป็นผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศค่ะ 5. ความเสียหายต่อโครงสร้างพื้นฐานและเศรษฐกิจ เมื่อระดับน้ำทะเลสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ถนนที่เราใช้สัญจร สะพานที่เชื่อมเมืองเข้าหากัน ท่าเรือที่ขนส่งสินค้า หรือแม้แต่ระบบท่อประปาและไฟฟ้าที่ฝังอยู่ใต้ดินในพื้นที่ชายฝั่ง ล้วนมีความเสี่ยงที่จะถูกน้ำท่วมซ้ำซาก หรือถูกน้ำทะเลกัดกร่อนจนเสื่อมสภาพเสียหายได้ง่ายขึ้น พอโครงสร้างพื้นฐานเหล่านี้พัง ก็ต้องใช้เงินจำนวนมหาศาลในการซ่อมแซมหรือสร้างใหม่ ซึ่งเงินเหล่านี้ก็มาจากภาษีของเราๆ ท่านๆ นอกจากนี้ธุรกิจต่างๆ ที่พึ่งพาชายฝั่งทะเล ไม่ว่าจะเป็นโรงแรม รีสอร์ต ร้านอาหารริมทะเล หรือแม้แต่โรงงานอุตสาหกรรมในพื้นที่ต่ำ ก็จะได้รับผลกระทบโดยตรง ทำให้บางแห่งอาจต้องปิดตัวลงชั่วคราวหรือถาวร เพราะไม่สามารถดำเนินการต่อไปได้ในสภาพที่มีน้ำท่วมบ่อยครั้งค่ะ 7. การสูญเสียระบบนิเวศชายฝั่ง รู้ไหมคะว่าสิ่งที่น่ากังวลไม่แพ้ความเสียหายทางกายภาพและเศรษฐกิจ นั่นคือการกัดกินและทำลายระบบนิเวศชายฝั่งอันมีค่าของเราค่ะ เพราะป่าชายเลนที่เขียวชอุ่มและแนวปะการังหลากสีสันที่เราเห็นตามชายฝั่ง ไม่ได้มีไว้แค่ให้เราไปเที่ยวชมเท่านั้นนะคะ แต่คือปราการธรรมชาติที่สำคัญที่สุดในการปกป้องชายฝั่งจากคลื่นลมและพายุ รวมถึงเป็นบ้านของสัตว์น้ำน้อยใหญ่มากมาย แต่พอระดับน้ำทะเลสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ป่าชายเลนที่จมอยู่ใต้น้ำนานเกินไปก็อาจตายได้ ส่วนปะการังก็ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิน้ำทะเลและมลภาวะ จนเกิดปรากฏการณ์ปะการังฟอกขาวและตายลงไปเรื่อยๆ การสูญเสียระบบนิเวศเหล่านี้ไม่เพียงแต่ทำให้เราเสียความสวยงามทางธรรมชาติไปเท่านั้น แต่ยังหมายถึงการที่เราสูญเสียระบบป้องกันภัยพิบัติทางธรรมชาติ และสูญเสียแหล่งเพาะพันธุ์สัตว์น้ำที่สำคัญ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อความมั่นคงทางอาหาร และชีวิตความเป็นอยู่ของคนชายฝั่งในระยะยาวอย่างไม่อาจประเมินค่าได้ค่ะ 8. ปัญหาด้านสุขอนามัยในคน หลายคนอาจมองไม่ออกว่า เวลาน้ำท่วมขังนานๆ น้ำสกปรกจากท่อระบายน้ำ ขยะ หรือสิ่งปฏิกูลต่างๆ ก็จะปะปนอยู่กับน้ำท่วมรอบบ้านเราได้ง่ายขึ้น สภาพแบบนี้เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ของสิ่งก่อความเจ็บป่วยที่เพิ่มขึ้นเมื่อมีน้ำขัง คนที่ต้องเดินลุยน้ำหรือสัมผัสกับน้ำสกปรกบ่อยๆ ก็มีความเสี่ยง ยิ่งไปกว่านั้นระบบบำบัดน้ำเสียที่อยู่ตามชายฝั่งก็จะเกิดวามเสียหายหรือทำงานได้ไม่เต็มที่เมื่อถูกน้ำท่วม ทำให้การจัดการของเสียยิ่งแย่ลงไปอีก ซึ่งทั้งหมดนั้นแสดงให้เห็นว่า ผลกระทบจากระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้นไม่ได้มีแค่เรื่องเศรษฐกิจหรือสิ่งแวดล้อมเท่านั้น แต่ยังคุกคามสุขอนามัยและคุณภาพชีวิตขั้นพื้นฐานของคนในชุมชนค่ะ 9. ผลกระทบต่อภาคเกษตรกรรมและการประมง อีกหนึ่งผลกระทบที่หลายคนอาจนึกไม่ถึงและส่งผลกระทบโดยตรงต่อปากท้องของเราก็คือ เรื่องของภาคเกษตรกรรมและการประมงค่ะ ลองนึกภาพดูว่าเมื่อน้ำทะเลสูงขึ้นและแทรกซึมเข้ามาในแผ่นดินมากขึ้น ดินที่เคยใช้เพาะปลูกก็จะเค็มขึ้นเรื่อยๆ จนพืชผลหลายชนิดไม่สามารถเติบโตได้ดี ทำให้ผลผลิตทางการเกษตรลดลง ชาวนาชาวสวนที่อยู่ใกล้ชายฝั่งก็เดือดร้อนอย่างหนัก เพราะทำมาหากินลำบากขึ้น ส่วนในภาคประมงเองก็ไม่ใช่ว่าจะรอดพ้นนะคะ เพราะการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิน้ำทะเล และสภาพอากาศที่แปรปรวนมากขึ้นจากการที่น้ำทะเลสูงขึ้นและโลกของเราร้อนขึ้นนั้น ส่งผลกระทบต่อแหล่งอาศัยและการวางไข่ของสัตว์ทะเล ทำให้สัตว์ในน้ำทะเลย้ายถิ่นฐาน หรือบางทีปริมาณสัตว์น้ำก็ลดลงอย่างน่าใจหาย จนทำให้ชาวประมงก็จับปลาได้น้อยลง รายได้หดหายไป สรุปง่ายๆ คือ ระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้นกำลังกัดกินทั้งผืนดินและผืนน้ำที่เป็นแหล่งอาหารหลักของเรา และยังทำให้ความมั่นคงทางอาหารสั่นคลอน และกระทบถึงชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนจำนวนมากที่พึ่งพาอาชีพเหล่านี้ค่ะ 10. ความมั่นคงทางอาหารและน้ำ ปัญหาเรื่องความมั่นคงทางอาหารและน้ำ ที่หลายคนอาจมองว่าเป็นเรื่องไกลตัว แต่ความจริงๆ แล้วกำลังคุกคามคนเราค่ะ เพราะเมื่อระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้นเรื่อยๆ จะค่อยๆ รุกคืบเข้ามาในพื้นที่เกษตรกรรม ทำให้ดินเค็มจนปลูกพืชได้ยากขึ้น ผลผลิตทางการเกษตรก็จะลดลง นั่นหมายความว่าแหล่งอาหารของเราจะหายไป หรือมีราคาสูงขึ้นจนยากที่จะเข้าถึง นอกจากนี้การที่น้ำเค็มแทรกซึมเข้าไปในชั้นน้ำบาดาล ก็ทำให้แหล่งน้ำจืดที่เราใช้ดื่มกินและใช้ในการเพาะปลูกปนเปื้อนไปด้วยน้ำเค็ม จนไม่สามารถนำมาใช้ได้สำหรับกิจกรรมบางอย่าง หรือต้องใช้เทคโนโลยีขั้นสูงในการปรับปรุงคุณภาพน้ำ และปัญหาน้ำจืดขาดแคลนก็จะตามมาอย่างเลี่ยงไม่ได้ การที่ทั้งอาหารและน้ำ ซึ่งเป็นปัจจัยสี่ขั้นพื้นฐานที่สุดในการดำรงชีวิตได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้น แสดงให้เห็นว่านี่ไม่ใช่แค่เรื่องของสิ่งแวดล้อมเท่านั้น แต่เป็นเรื่องของการอยู่รอดของมนุษย์ในอนาคต ที่เราต้องรีบหันมาจัดการอย่างจริงจังค่ะ และนั่นคือผลกระทบทั้งหมดที่สามารถเกิดขึ้นนะคะ ซึ่งการที่เราได้รู้และเข้าใจถึงผลกระทบจากการที่ระดับน้ำทะเลสูงขึ้นอย่างละเอียด ได้กลายมาเป็นเรื่องใกล้ตัวที่สำคัญกับชีวิตเราทุกคน เพราะไม่ได้กระทบแค่พื้นที่ชายฝั่งที่ห่างไกลเท่านั้น แต่ยังส่งผลเป็นลูกโซ่ถึงเศรษฐกิจ สุขอนามัย แหล่งอาหาร และวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของคนทั้งประเทศ การที่น้ำท่วมบ้านเรือนซ้ำซาก ชายฝั่งถูกกัดเซาะ น้ำเค็มรุกที่ดินทำกิน หรือแม้แต่แหล่งน้ำจืดปนเปื้อน ล้วนเป็นเรื่องที่กำลังเกิดขึ้นจริงในหลายพื้นที่ และกำลังบอกเราว่าปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศไม่ได้เป็นเรื่องของอนาคตอันไกลโพ้นอีกต่อไป แต่คือวิกฤตที่กำลังคืบคลานเข้ามาใกล้ตัวเรามากขึ้นเรื่อยๆ ค่ะ ดังนั้นการที่เราได้เรียนรู้และตระหนักถึงผลกระทบเหล่านี้อย่างลึกซึ้ง จึงเป็นเรื่องที่ดีและสำคัญอย่างมาก เพราะความเข้าใจจะนำไปสู่การเตรียมพร้อมและหาทางรับมือกับสถานการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้น เราจะเริ่มคิดได้ว่าควรปรับตัวอย่างไร จะวางแผนชีวิตหรือธุรกิจอย่างไรให้รองรับกับความเปลี่ยนแปลงนี้ได้ รวมถึงการที่เราจะตระหนักได้ว่าการกระทำเล็กๆ น้อยๆ ของเราในแต่ละวัน เช่น การประหยัดพลังงาน การลดการใช้พลาสติก หรือการสนับสนุนสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ล้วนมีส่วนช่วยชะลอวิกฤตนี้ได้ไม่มากก็น้อย การรู้เรื่องนี้จึงไม่ใช่แค่การเพิ่มการรับรู้ แต่เป็นการกระตุ้นให้เราเริ่มลงมือทำอะไรบางอย่าง เพื่ออนาคตที่ดีกว่าของตัวเราเองและลูกหลานของเราค่ะ ซึ่งถ้าพูดเรื่องผลกระทบข้างต้นนั้น ผู้เขียนได้มีโอกาสเขียนตามข่าวบ่อยๆ คะ สำหรับสถานการณ์จริงที่นี่นั้น ผู้เขียนได้เห็นในส่วนของการปรับขึ้นราคาของอาหารทะเลในบางอย่างนะคะ และก็ชัดเจนว่าการที่มีระดับน้ำทะเลสูงขึ้นส่งผลต่อความมั่นคงทางอาหารนะคะ จึงอยากเชิญชวนคนไทยทุกคนหันมาตระหนักมากขึ้น และร่วมไม้ร่วมมือกันลดภาวะโลกร้อน เพราะระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้น ก็มีผลมาจากภาวะที่โลกร้อนขึ้นค่ะ พอจะมองภาพออกกันแล้วนะคะ ด้วยความตั้งใจ ผู้เขียนหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับคุณผู้อ่านไม่มากก็น้อย หากสนใจเนื้อหาเช่นนี้อีก อย่าลืมกดติดตามหรือบุ๊กมาร์กโปรไฟล์ไว้ เพื่อรับข้อมูลใหม่ๆ ในบทความต่อไป และถ้าต้องการอ่านบทความทั้งหมดโดยผู้เขียน ให้กดดูโปรไฟล์ได้เลยค่ะ เครดิตรูปภาพประกอบบทความ รูปภาพทำหน้าปก โดย HelloDavidPradoPerucha จาก FREEPIK และออกแบบหน้าปกโดยผู้เขียน ใน Canva รูปภาพประกอบเนื้อหา: ภาพที่ 1, 4 โดยผู้เขียน, ภาพที่ 2 โดย Lifeforstock จาก FREEPIK และภาพที่ 3 โดย Wiroj Sidhisoradej จาก FREEPIK เกี่ยวกับผู้เขียน ภัคฒ์ชาลิสา จำปามูล จบการศึกษา: พยาบาลศาสตรบัณฑิต จากวิทยาลัยพยาบาลศรีมหาสารคาม กระทรวงสาธารณสุข และสาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต (อนามัยสิ่งแวดล้อม) จากมหาวิทยาลัยขอนแก่น มีความสนใจและประสบการณ์เกี่ยวกับ: สุขภาพ จิตวิทยาเชิงบวก การบำบัดน้ำเสียและกำจัดสิ่งปฏิกูล 11 ผลกระทบต่อคน ที่มาพร้อมกับน้ำท่วม และฝนตกหนัก มีอะไรบ้าง 11 วิธีลด PM2.5 ในสิ่งแวดล้อม จากเรื่องใกล้ตัวเรา มีอะไรบ้าง 10 แนวทางดูแลห้องส้วมในบ้าน ช่วงมีฝนตกหนัก ระดับน้ำท่วมสูง เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !