สหรัฐฯ ส่ง 'นักบินอวกาศเอกชน' ชุดที่ 3 สู่สถานีอวกาศ ISS
(ภาพจากนาซา/แอกเซียม) : ยานอวกาศดรากอนพร้อมนักบินอวกาศ 4 คนในภารกิจแอกเซียม มิชชัน 3 ทะยานออกจากฐานปล่อยจรวด 39เอ จากศูนย์อวกาศเคนเนดีของนาซา ในรัฐฟลอริดาของสหรัฐฯ วันที่ 18 ม.ค. 2024)
ลอสแอนเจลิส, 19 ม.ค. (ซินหัว) -- เมื่อวันพฤหัสบดี (18 ม.ค.) สเปซเอ็กซ์ (SpaceX) และแอกเซียม สเปซ (Axiom Space) ปล่อยยานอวกาศภารกิจส่งนักบินอวกาศเอกชนชุดที่ 3 ไปยังสถานีอวกาศนานาชาติ (ISS) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการเปิดการเข้าถึงอวกาศขององค์การนาซา (NASA)นาซาระบุว่าภารกิจแอกเซียม มิชชัน 3 (Axiom Mission 3) หรือเอเอ็กซ์-3 (Ax-3) เป็นเที่ยวบินอวกาศเชิงพาณิชย์ภารกิจแรกที่มุ่งส่งนักบินอวกาศสัญชาติยุโรปทั้งหมดไปยังสถานีอวกาศดังกล่าวเมื่อเวลาราว 16.49 น. ของวันพฤหัสบดี (18 ม.ค.) ตามเวลาตะวันออก ยานอวกาศดรากอนที่บรรทุกลูกเรือ 4 คน ทะยานออกจากฐานปล่อยจรวด 39เอ (39A) จากศูนย์อวกาศเคนเนดีของนาซา ในรัฐฟลอริดาของสหรัฐฯต่อมาสเปซเอ็กซ์ได้ยืนยันการตัดการทำงานของเครื่องยนต์หลักและการแยกตัวของจรวดฟอลคอน 9 โดยจรวดบูสเตอร์หรือจรวดท่อนแรกได้ลงจอดที่เขตลงจอดที่ 1 ของสเปซเอ็กซ์ที่สถานีกองทัพอากาศเคปคานาเวอรัลในรัฐฟลอริดาภารกิจดังกล่าวประกอบด้วยนักบินอวกาศ 4 คน ได้แก่ ผู้บัญชาการภารกิจ ไมเคิล โลเปซ-อะเลเกรีย สัญชาติสหรัฐฯ และสเปน วอลเตอร์ วิลลาดี จากอิตาลีรับหน้าที่นักบิน รวมถึงอัลเปอร์ เกเซราฟชี จากตุรกี (ทูร์เคีย) กับมาร์คัส แวนดท์ นักบินอวกาศโครงการองค์การอวกาศยุโรปจากสวีเดน ที่ทำหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญประจำภารกิจ ซึ่งปัจจุบันนักบินอวกาศทั้ง 4 ได้อยู่ในวงโคจรและกำลังมุ่งหน้าสู่สถานีอวกาศฯเมื่อเทียบท่ากับสถานีอวกาศดังกล่าวแล้ว นักบินอวกาศจะใช้เวลา 14 วันในห้องปฏิบัติการที่โคจรอยู่เพื่อปฏิบัติภารกิจอย่างเต็มรูปแบบ อาทิ การวิจัยสภาวะไร้น้ำหนัก การสาธิตเทคโนโลยี และการเข้าไปมีส่วนร่วมในงานต่างๆแอกเซียม สเปซ ระบุว่าภารกิจนี้ถือเป็นโอกาสแห่งยุคใหม่สำหรับนานาประเทศในการเข้าร่วมประชาคมอวกาศระหว่างประเทศ และเข้าถึงวงโคจรระดับต่ำของโลกเพื่อเดินหน้าการสำรวจและการวิจัยในสภาวะไร้น้ำหนักอนึ่ง แอกเซียม สเปซ เปิดเผยว่าข้อมูลที่รวบรวมในภาคพื้นดินทั้งก่อนและหลังการปฏิบัติภารกิจ และระหว่างการบิน จะส่งผลต่อความเข้าใจเกี่ยวกับสรีรวิทยาของมนุษย์บนโลกและในวงโคจร ตลอดจนความเข้าใจทางวิทยาศาสตร์ขั้นสูง การไขว่คว้าประโยชน์จากโอกาสเพื่อความก้าวหน้าทางอุตสาหกรรม และการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อความก้าวหน้าของมนุษยชาติ