หลาย ๆ คนคงเคยได้ยินคำว่า "ความคิดสร้างสรรค์" กันมาตั้งแต่เด็ก ๆ แต่ทุกคนทราบไหมคะ ว่าจริง ๆ แล้ว ความคิดสร้างสรรค์คืออะไรกันแน่ ? มีความสำคัญยังไง ? และเราจะสามารถพัฒนาทักษะนี้ได้ยังไงนะ ? ความคิดสร้างสรรค์ คือกระบวนการความคิดของสมองในหลากหลายทิศทางที่จะนำไปสู่ความริเริ่มใหม่ ๆ และแตกต่างไปจากเดิมหรือไม่ยึดติดอยู่กับสิ่งเดิม นำไปสู่การเปลี่ยนแปลง แก้ไขปัญหาและพัฒนาความรู้ สิ่งประดิษฐ์ หรือนวัตกรรมใหม่ ๆ ได้ โดยอาจจะมีแรงจูงใจต่าง ๆ เป็นตัวผลักดันที่ก่อให้เกิดความคิดสร้างสรรค์นั้น ๆ เช่น การที่แบรนด์สินค้ากันกระแทก Chwa (ชวา) ตระหนักถึงปัญหาภาวะขยะพลาสติกล้นโลก จึงมีแรงจูงใจในการคิดค้นผลิตภัณฑ์ที่สามารถช่วยลดขยะพลาสติกที่ก่อให้เกิดผลเสียต่อระบบนิเวศ โดยนำผักตบชวาที่สร้างปัญหาต่อพืชและสัตว์พื้นเมือง สร้างปัญหารุกรานระบบนิเวศ อีกทั้งยังสามารถพบได้มากตามแหล่งน้ำต่าง ๆ นำมาแปรรูปและจัดจำหน่ายในรูปแบบสินค้ารักษ์โลก โดยผลิตภัณฑ์นี้ได้รับกระแสตอบรับที่ดีและรับการสนับสนุนอย่างล้นหลามจากผู้บริโภคเป็นอย่างดี เรียกได้ว่า ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว ความคิดสร้างสรรค์ในครั้งนี้สามารถช่วยลดปัญหาเกี่ยวกับระบบนิเวศได้ถึงสองกรณีเลยทีเดียวค่ะ หากใครสนใจสามารถสนับสนุนแบรนด์ได้ที่ https://www.facebook.com/Chva.Brand จากตัวอย่างกรณีศึกษาเกี่ยวกับความคิดสร้างสรรค์ข้างต้น ทุกคนเห็นหรือยังคะว่าความคิดสร้างสรรค์สำคัญกับเราจริง ๆ ในหลาย ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นในด้านของธุรกิจ ด้านการแก้ปัญหาสิ่งต่าง ๆ หรือการคิดริเริ่มสิ่งใหม่ ๆ หลายคนอาจจะสงสัยต่อว่า แล้วถ้าคนที่ไม่มีความคิดสร้างสรรค์ล่ะ จะสามารถคิดหรือทำสิ่งใหม่ ๆ ได้หรือไม่? คำตอบคือ ได้ค่ะ! และสิ่งหนึ่งที่ใครหลาย ๆ คนมักเข้าใจผิดเกี่ยวกับความคิดสร้างสรรค์ก็คือ มักจะคิดว่าตนเองนั้นไม่ได้เกิดมามีความคิดสร้างสรรค์ติดตัวมาตั้งแต่เกิด อาจจะเนื่องด้วยว่าเคยโดนประเมินงานศิลปะตอนเด็ก ๆ ได้คะแนนไม่ดีเท่าที่ควร จึงคิดว่าตนเองนั้นอาจจะไม่มีความสามารถหรือทักษะด้านความคิดสร้างสรรค์จินตนาการ ซึ่งความคิดนี้เป็นความคิดที่ไม่ถูกต้อง เนื่องจากทุก ๆ คน มีความคิดสร้างสรรค์ติดตัวมากันตั้งแต่เกิด แต่ว่าจะมากหรือน้อยไม่เท่ากันเท่านั้นเอง และทักษะความคิดสร้างสรรค์นี้สามารถพัฒนาและเติบโตได้ง่าย ๆ ไม่ว่าใครก็สามารถพัฒนาทักษะนี้ได้ โดยอาจเริ่มจากการพัฒนาทักษะแบบง่าย ๆ ร่วมกับการทำกิจกรรมสร้างความเพลิดเพลินดังเช่น 5 คำแนะนำที่จะเอามาให้ทุกคนได้ลองไปทำดูกันค่ะ1. มองก้อนเมฆ อ๊ะ ๆ ไม่ใช่การมองก้อนเมฆแบบผ่านมาแล้วผ่านไปนะคะ แต่เป็นการจินตนาการถึงรูปร่างของก้อนเมฆว่ามีลักษณะรูปร่างคล้ายอะไร หรืออีกทั้งยังสามารถสร้างเรื่องราวผ่านรูปร่างของก้อนเมฆได้อีกด้วยค่ะ วิธีนี้เป็นวิธีที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เนื่องจากจะทำให้ผ่อนคลายแล้ว ยังทำให้เพลิดเพลินได้อีกด้วย และขอแนะนำให้มีเพื่อนร่วมจินตนาการนั่งเป็นเพื่อนเพื่อเพิ่มสัมพันธไมตรีและเพิ่มความสนุกไปอีกขั้นค่ะ 2. ของเล่นเสริมทักษะตัวต่อ Miniblock ของเล่นประเภทตัวต่อชิ้นไม่เล็กและไม่ใหญ่จนเกินไป สามารถต่อให้เป็นรูปร่างต่าง ๆ ได้เช่น สิ่งปลูกสร้างหรือยานพาหนะ พอต่อเสร็จยังนำมาสร้างเรื่องราวหรือ Story ได้อีกด้วยนะคะ ของเล่นประเภทนี้นอกจากจะเสริมสร้างจินตนาการ ความคิดสร้างสรรค์ เพิ่มสมาธิและหลังต่อเสร็จยังทำให้รู้สึกภูมิใจได้อีกด้วยค่า อีกทั้งยังเล่นได้ทุกเพศ และแนะนำให้อายุตั้งแต่ 6 ขวบขึ้นไปจะเหมาะสมที่สุดค่า ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/creatorminiblock3. อ่านหนังสือซักเล่มดูสิ แน่นอนว่าหนึ่งในทางเลือกที่ดีที่สุดไม่ว่าจะเป็นยุคไหน ๆ ก็คงไม่พ้นการอ่านหนังสือซึ่งเป็นบ่อขุมทรัพย์แห่งการเรียนรู้และเปิดโลกแห่งจินตนาการ คุณไม่จำเป็นจะต้องเลือกหนังสือที่ดูอ่านยาก อาจจะเป็นหนังสือนิยายสักเล่มที่จะพาคุณไปยังจินตนาการประตูแห่งความคิดสร้างสรรค์ได้ 4. เปิดโอกาสในการทำสิ่งใหม่ ๆ ไปในที่ที่ไม่เคยไป ทำในสิ่งที่ไม่เคยทำ หาโอกาสพบเจอสิ่งใหม่ ๆ เพื่อเรียนรู้ เพื่อเป็นการดึงตัวเองออกจากความคิดที่ยึดติดกับสิ่งเดิม ๆ ดึงตัวเองออกจากสภาพแวดล้อมเดิม ๆ ขยายขอบเขตทางความคิดของคุณให้กว้างขึ้นด้วยสิ่งต่าง ๆ รอบตัวที่แตกต่างและน่าสนใจ 5. ประดิษฐ์สิ่งใหม่ พอถึงข้อนี้หลายคนอาจจะคิดภาพไปไกลถึงการสร้างจรวด แต่นั่นก็เป็นแนวคิดที่ยอดมากหากคุณสามารถทำได้ และนี่ก็ถือเป็นโอกาสที่ดีที่คุณจะเริ่ม เริ่มโดยการสร้างสรรค์สิ่งเล็ก ๆ โดยอาจจะหากล่องเปล่ามาสร้างเป็นชั้นวางของแล้วตกแต่งให้สวยงาม หรือจะเอากล่องนมเปล่ามาทำเป็นโมเดลรถยนต์ นั่นคือสิ่งที่ดีมากในการเปิดประตูความคิดของคุณ โดยเริ่มมองหาจากสิ่งของรอบตัว และค่อย ๆ หาแรงบันดาลใจในการประดิษฐ์สิ่งของที่ใหญ่ขึ้น นอกจากจะช่วยเสริมสร้างจินตนาการแล้ว ยังช่วยพัฒนากระบวนการความคิดในด้านอื่น ๆ อีกด้วยค่า เป็นยังไงกันบ้างคะ สำหรับความสำคัญของความคิดสร้างสรรค์นี้ หวังว่าทุกคนจะเห็นความสำคัญของทักษะส่วนนี้กันเพิ่มมากขึ้น และนำไปปรับใช้กันได้อย่างลงตัวนะคะ ถ้าใครมีวิธีที่ดี ลองใช้เองแล้วมันเลิศ ลอง Comment มาบอกกัน มาแชร์กันหน่อยน้า เผื่อไอเดียของคุณจะเป็นกุญแจในการปลดล็อคประตูของใครหลาย ๆ คนได้ บายค่าเครดิตภาพประกอบบทความ : ภาพหน้าปก / ภาพประกอบที่ 1 / ภาพประกอบที่ 2 ขอบคุณแบรนด์ชวา / ภาพประกอบที่ 3 / ภาพประกอบที่ 4 / ภาพประกอบที่ 5 ขอบคุณแบรนด์ Creator miniblock / ภาพประกอบที่ 6 / ภาพประกอบที่ 7 / ภาพประกอบที่ 8