CPN ทุ่ม300ล.จัดแคมเปญ กระตุ้นยอดดึงทราฟฟิก20%
CPN รับอานิสงส์จีนเปิดประเทศ-ช้อปดีมีคืน หนุนยอดใช้จ่ายต่อบิลล์มีโอกาสเท่าก่อนโควิด แถมควักงบ 300 ล้านบาท จัดอีเวนต์ตรุษจีนกระตุ้นยอดขายเพิ่ม ตั้งเป้าเงินสะพัดช่วงจัดงานกว่า 6 พันล้านบาท แถมดึงปริมาณผู้ใช้บริการ (ทราฟฟิก) เพิ่มขึ้น 20% ทั่วประเทศ
ดร.ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ CPN เปิดเผยว่า สำหรับประเด็นการที่ประเทศจีนมีการเปิดประเทศอย่างเป็นทางการ และมีผลตั้งแต่ 8 มกราคม 2566 ที่ผ่านมานั้นส่งผลให้มีนักท่องเที่ยวจากประเทศดังกล่าวเดินทางเข้าในไทยเป็นจำนวน ซึ่งน่าจะเป็นผลดีต่อธุรกิจแทบทั้งสิ้น เพราะปัจจุบันบริษัทเป็นผู้ประกอบธุรกิจศูนย์และห้าง และคงจะช่วยผลักให้มีผู้เข้ามาใช้บริการมากขึ้น
"นอกเหนือจากแรงหนุนของนักท่องเที่ยวจีนแล้ว ยังมีโครงการช้อปดีมีคืนของภาครัฐเข้าเสริม ซึ่งหากทุกอย่างเป็นตามที่วางไว้คาดจะสนับสนุนตัวเลขยอดขายใช้จ่ายต่อคนต่อบิลล์เฉลี่ยน่าจะมีโอกาสกลับไปช่วงก่อนเกิดโควิดได้ในภายในปี 2566"
*ทุ่ม 300 ล.กระตุ้นยอด
ขณะเดียวกันล่าสุดบริษัทเตรียมทุ่มงบ 300 ล้านบาท เปิดแคมเปญ “The Great Chinese New Year 2023" สร้างปรากฏการณ์ The Great Power of Synergy การผนึกกำลังครั้งสำคัญของ ศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลทั่วประเทศ มอบประสบการณ์การฉลองเทศกาลตรุษจีน จับจ่าย-ไหว้-กิน-เที่ยว ครบจบที่เดียว ตอกย้ำการเป็น The Best Festive Destination of All Time ที่ดี ที่สุดของไทย ตื่นตากับประติมากรรม“The Lucky Rabbits Project” กระต่ายมงคลขนาดยักษ์ ณ 10 สาขา ทั่วไทย ทำจากวัสดุรักษ์โลกและวัสดุท้องถิ่นโชว์อัตลักษณ์ของแต่ละภาค ช็อปของไหว้ สินค้าและอาหาร มงคล ใน Chinese Market และตลาดส้มรวยทวีคูณ
และร่วมสนุกกับเกม AR จับกระต่าย “The Lucky Rabbit" ลุ้นรางวัลทองคำแท้ 0.1 กรัม รวม2,400 รางวัล พร้อมช็อปลุ้นโชค (เฉพาะในศูนย์การค้าเซ็นทรัล) ลุ้นรับ Exclusive Set ทองคำกระต่ายมงคลหนัก 8 บาท และของรางวัลอื่นๆ รวมกว่า 100 รางวัล รวมมูลค่า กว่า 2 ล้านบาท พร้อมขานรับภาครัฐร่วมโครงการ “ช้อปที่มีคืน” เริ่ม 11 มกราคม- 19 กุมภาพันธ์ 2566 นี้ ที่ศูนย์การค้า และห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลทุกสาขาทั่วประเทศ
สำหรับแนวทางการดำเนินงานปีนี้ยังคงเป็น Driving force ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ชู 3 กลยุทธ์ ได้แก่ 1.ตอกย้ำตัวจริง The Best Festive Destination of All Time 2.Create Synergistic Value สร้างDouble Impact และ 3.Spearhead Economic & Tourism กระตุ้นจับจ่าย ดึงดูดนักท่องเที่ยว
*ตรุษจีนเงินสะพัด
อย่างไรก็ดี หากแผนงานต่างๆ สำเร็จได้ตามที่วางไว้ คาดสร้างเงินสะพัดตลอดแคมเปญข้างต้นกว่า6,000 ล้านบาท ตลอดจนดึงปริมาณผู้ใช้บริการ (ทราฟฟิก) เพิ่มขึ้น 20% ทั่วประเทศ ดึงดูดนักท่องเที่ยวคาดจำนวนลูกค้าต่างชาติและยอดขายจากนักท่องเที่ยวเพิ่ม 20% ในปี 2566
ด้านมร.โอลิวิเยร์ บรง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มห้างสรรพสินค้า ในเครือเซ็นทรัล รีเทล กล่าวว่า “ในฐานะผู้นำธุรกิจรีเทลที่แข็งแกร่งและเป็นห้างสรรพสินค้าออมนิชาแนล อันดับ 1 ของไทยในกลุ่มพรีเมียม(The #1 Omni-channel Retailer in Premium Segment) เราได้ผนึกกำลังกับพันธมิตรที่แข็งแกร่งอย่าง ศูนย์การค้าเซ็นทรัล และCentral The 1 Credit Card เพื่อเป็นการเข้าถึงลูกค้าแบบ Massive Reach และ สร้างประสบการณ์ช็อปปิ้งและการฉลองที่ดีที่สุดสำหรับช่วงเทศกาลตรุษจีน ในการเป็น The Best Festive Destination of All Times สำหรับทั้งลูกค้าชาวไทยและต่างประเทศที่กำลังเข้ามาอย่างมากในปีนี้