เกมแนว Metroidvania เป็นที่นิยมอย่างมากในช่วงทศวรรษ 1980 และ 1990 เกมเหล่านี้ผสมผสานการต่อสู้แบบแอ็คชั่น การสำรวจ และการไขปริศนาเข้าด้วยกัน เกม Castlevania เป็นหนึ่งในซีรีส์ที่โด่งดังที่สุดในประเภทนี้ เกมเหล่านี้มีตัวละครที่น่าจดจำ ดนตรีที่ยอดเยี่ยม และการออกแบบด่านที่ท้าทาย ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เกมอินดี้แนว Metroidvania จำนวนมากได้รับการพัฒนา เกมเหล่านี้ได้รับแรงบันดาลใจจากเกม Castlevania และนำเสนอประสบการณ์ที่คล้ายคลึงกัน เกมเหล่านี้มักมีรูปแบบศิลปะที่ไม่เหมือนใคร ดนตรีที่ยอดเยี่ยม และการเล่นเกมที่สนุกสนาน ในบทความนี้ เราจะแนะนำ 10 เกมอินดี้ที่ให้ความรู้สึกเหมือนกับว่าคุณกำลังเล่นเกมแส้ หรือเกม Castlevania อยู่ เกมเหล่านี้เหมาะสำหรับแฟน ๆ ของซีรีส์ Castlevania และผู้เล่นที่ชื่นชอบเกม Metroidvania โดยเฉพาะ สำหรับเกมแรกที่เรากำลังจะแนะนำให้คุณผู้อ่านฟังนั้นเป็นเกมอินดี้ที่มาจากผู้ให้กำเนิดเกมแส้ หรือเกม Castlevania จริงๆ อย่างเกม 1. Bloodstained Curse of the Moon: ย้อนรอยตำนานแส้ในอดีตBloodstained: Curse of the Moon เกมแอคชั่น 2D สไตล์ย้อนยุค พัฒนาโดย Inti Creates ทีมงานผู้สร้างเกม Castlevania ภาคคลาสสิกหลายภาค เกมนี้เปรียบเสมือนจดหมายรักแด่แฟนเกม Castlevania นำเสนอระบบการเล่นที่คุ้นเคย บรรยากาศชวนหลอน และความท้าทายแบบดั้งเดิม ระบบการเล่นที่ลื่นไหล คลาสสิกCurse of the Moon นำเสนอระบบการเล่นแบบ 2D side-scrolling ควบคุมตัวละครเพื่อต่อสู้กับศัตรู ผ่านด่านต่างๆ มุ่งหน้าสู่บอสสุดท้าย เกมนี้มีจุดเด่นที่ระบบการเล่นที่ลื่นไหล ตัวละครตอบสนองฉับไว คอมโบต่างๆ ทำได้ต่อเนื่อง สร้างความสนุกสนานในการต่อสู้ ตัวละครหลากหลาย สไตล์การเล่นที่แตกต่างเกมนี้มีตัวละครให้เลือกเล่น 4 ตัวละคร แต่ละตัวมีทักษะและรูปแบบการเล่นที่แตกต่างกัน ผู้เล่นสามารถสลับตัวละครระหว่างเล่นได้ สร้างกลยุทธ์และวิธีการผ่านด่านที่หลากหลาย บรรยากาศชวนหลอน กราฟิกสไตล์ 8-bitCurse of the Moon นำเสนอบรรยากาศแบบ Gothic Horror ด่านต่างๆ เต็มไปด้วยความมืดมิด ศัตรูหน้าตาประหลาด เสียงประกอบชวนขนลุก กราฟิกสไตล์ 8-bit ออกแบบได้สวยงาม ดึงดูดความสนใจ ความท้าทายแบบดั้งเดิมCurse of the Moon นำเสนอความท้าทายแบบเกมยุคเก่า ศัตรูโจมตีรุนแรง ด่านเต็มไปด้วยกับดัก ผู้เล่นต้องอาศัยความแม่นยำ จังหวะ และทักษะในการผ่านด่าน เกมนี้มีระบบ Checkpoint ให้ผู้เล่นได้พักหายใจ แต่ละด่านมีไอเทมและความลับซ่อนอยู่ รอให้ผู้เล่นค้นหา ความรู้สึกหลังเล่นCurse of the Moon มอบประสบการณ์การเล่นที่สนุกสนาน ท้าทาย เต็มไปด้วยความ nostalgie เกมนี้เหมาะสำหรับแฟนเกม Castlevania และผู้เล่นที่ชื่นชอบเกมแอคชั่น 2D สไตล์ย้อนยุค ข้อดีระบบการเล่นลื่นไหล คลาสสิกตัวละครหลากหลาย สไตล์การเล่นที่แตกต่างบรรยากาศชวนหลอน กราฟิกสไตล์ 8-bitความท้าทายแบบดั้งเดิม ข้อเสียเกมสั้น จบไวระดับความยากอาจสูงเกินไปสำหรับผู้เล่นบางคน สรุปBloodstained: Curse of the Moon เป็นเกมแอคชั่น 2D สไตล์ย้อนยุคที่ยอดเยี่ยม นำเสนอระบบการเล่นที่สนุกสนาน ตัวละครที่หลากหลาย บรรยากาศชวนหลอน และความท้าทายแบบดั้งเดิม เกมนี้เหมาะสำหรับแฟนเกม Castlevania และผู้เล่นที่ชื่นชอบเกมแอคชั่น 2D สไตล์ย้อนยุค 2. Infernax: บททดสอบความอดทน ผจญภัยในดินแดนแห่งคำสาปInfernax เกมแอ็กชันผจญภัย 2 มิติ สไตล์ Metroidvania ดึงดูดสายตาด้วยภาพกราฟิกแบบ 8 บิต ย้อนยุค เต็มไปด้วยกลิ่นอายความคลาสสิก ผสมผสานกับระบบการเล่นที่ท้าทาย เต็มไปด้วยความโหดเหี้ยม ดึงดูดให้ผู้เล่นดำดิ่งสู่โลกแฟนตาซีอันมืดมิด ระบบการเล่นที่เข้มข้นInfernax นำเสนอระบบการต่อสู้ที่เรียบง่ายแต่ลึกซึ้ง ผู้เล่นจะต้องฝึกฝนการใช้ดาบ เวทมนตร์ และทักษะต่างๆ เพื่อเอาชนะศัตรูที่หลากหลาย การออกแบบด่านเต็มไปด้วยกับดัก ชวนให้ผู้เล่นต้องคิดวิเคราะห์และวางแผนการเดินอย่างชาญฉลาด บรรยากาศที่เต็มไปด้วยเสน่ห์เกมนี้สร้างบรรยากาศได้อย่างน่าทึ่ง ดนตรีประกอบสไตล์ Chiptune สร้างความรู้สึกตื่นเต้นเร้าใจ ผสมผสานกับฉากหลังที่เต็มไปด้วยรายละเอียด ตัวละครที่ออกแบบได้อย่างมีเอกลักษณ์ ล้วนช่วยเสริมสร้างประสบการณ์การเล่นที่ไม่เหมือนใคร ความรู้สึกที่หลากหลายตลอดการเล่น Infernax เต็มไปด้วยความตึงเครียด ผู้เล่นต้องเผชิญกับความท้าทายมากมาย ความตายเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ละครั้งที่ล้มตาย เกมจะกระตุ้นให้เรากลับมาแก้แค้น เรียนรู้จากบทผิดพลาด พัฒนาฝีมือจนสามารถเอาชนะอุปสรรคต่างๆ ได้สำเร็จ Infernax ไม่ได้เหมาะกับทุกคนเกมนี้มีความยากสูง ผู้เล่นต้องมีใจอดทนและพร้อมเผชิญกับความท้าทาย แต่หากคุณกำลังมองหาเกมที่มอบประสบการณ์การเล่นที่เข้มข้น เต็มไปด้วยความตื่นเต้น Infernax จะไม่ทำให้คุณผิดหวัง Infernax เปรียบเสมือนเพชรน้ำงามที่รอการเจียระไนเกมนี้ดึงดูดผู้เล่นด้วยเสน่ห์แบบย้อนยุค ผสมผสานกับระบบการเล่นที่ท้าทาย เต็มไปด้วยความโหดเหี้ยม Infernax เหมาะกับผู้เล่นที่มองหาเกมแอ็กชันผจญภัยที่มอบประสบการณ์การเล่นที่เข้มข้น ตื่นเต้นเร้าใจ 3. Axiom Verge: การผจญภัยสุดล้ำในโลกไซไฟAxiom Verge ดึงดูดผู้เล่นให้ดำดิ่งสู่โลกไซไฟอันลึกลับ เต็มไปด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย ผ่านระบบการเล่นที่ผสมผสานระหว่าง Metroidvania และการยิงมุมมองด้านข้าง ระบบการเล่นที่ท้าทาย: เกมนี้ท้าทายให้ผู้เล่นสำรวจโลกกว้าง ค้นหาไอเท็ม อาวุธ และความสามารถใหม่ ๆ เพื่อปลดล็อกพื้นที่ที่เข้าถึงไม่ได้ ตัวเกมมีระบบ "Address Disruptor" ที่ช่วยให้ผู้เล่นสามารถแฮ็กสภาพแวดล้อม เปลี่ยนศัตรูให้กลายเป็นมิตร หรือเปิดเผยทางลับ ฟีเจอร์นี้เพิ่มมิติใหม่ให้กับระบบการเล่น ช่วยให้การสำรวจสนุกและน่าตื่นเต้นยิ่งขึ้น บรรยากาศที่ชวนค้นหา: Axiom Verge สร้างบรรยากาศที่ชวนให้รู้สึกโดดเดี่ยว ลึกลับ ผ่านฉากที่ออกแบบมาอย่างสวยงาม ดนตรีประกอบที่เร้าอารมณ์ และเรื่องราวที่เต็มไปด้วยปริศนา เกมนี้กระตุ้นให้ผู้เล่นอยากค้นหาความจริง ว่าเกิดอะไรขึ้นกับโลกใบนี้ และตัวละครหลักมีบทบาทอย่างไร ความรู้สึกจากการเล่น: ตอนแรกผมรู้สึกตื่นเต้นกับระบบการเล่นที่แปลกใหม่ ท้าทาย และเต็มไปด้วยกลยุทธ์ การค้นหาไอเท็มใหม่ ๆ และปลดล็อกความสามารถ ช่วยให้รู้สึกพัฒนาตัวละครและมีความอยากรู้อยากเห็นมากขึ้น บรรยากาศของเกมทำให้ผมรู้สึกเหมือนเป็นนักสำรวจในโลกต่างดาว ลุ้นระทึกกับอันตรายที่ซ่อนอยู่ และอยากค้นหาความลับที่ซ่อนอยู่ สรุป: Axiom Verge เป็นเกม Metroidvania ที่ไม่เหมือนใคร เต็มไปด้วยระบบการเล่นที่ท้าทาย บรรยากาศที่ชวนค้นหา และเรื่องราวที่น่าติดตาม เหมาะสำหรับผู้เล่นที่ชื่นชอบการผจญภัย และไขปริศนา คะแนน: 9/10 4. Grim Guardians Demon Purge พาสองสาวไปปราบปีศาจในปราสาทสุดลึกลับGrim Guardians: Demon Purge เกมแอ็กชัน 2D สไตล์ Metroidvania ผลงานจาก Inti Creates ผู้สร้าง Gunvolt series พาเรารับบทเป็น "ชิโนบุ" และ "มายะ" สองพี่น้องนักเรียนปีศาจที่ต้องต่อสู้กับเหล่าปีศาจร้ายเพื่อปกป้องโรงเรียนของพวกเธอ ระบบการเล่นที่ลื่นไหลจุดเด่นของเกมนี้อยู่ที่ระบบการเล่นที่สนุกสนานและท้าทาย ตัวละครทั้งสองมีรูปแบบการเล่นที่แตกต่างกัน ชิโนบุเน้นการโจมตีระยะไกลด้วยเวทมนตร์ ส่วนมายะเน้นการโจมตีระยะประชิดด้วยดาบ ผู้เล่นสามารถสลับตัวละครไปมาระหว่างเล่นได้อย่างอิสระ ด่านที่เต็มไปด้วยความท้าทายด่านในเกมออกแบบมาได้อย่างดี เต็มไปด้วยกับดัก สัตว์ประหลาด และบอสสุดโหด ผู้เล่นต้องใช้ทักษะและความคิดในการผ่านด่านแต่ละด่านไปให้ได้ บรรยากาศที่เต็มไปด้วยเสน่ห์กราฟิกของเกมเป็นสไตล์พิกเซลอาร์ตที่สวยงาม ดนตรีประกอบเร้าใจ สร้างบรรยากาศให้การเล่นสนุกสนานและตื่นเต้นยิ่งขึ้น ความรู้สึกหลังจากเล่นGrim Guardians: Demon Purge เป็นเกมที่สนุกสนานและท้าทาย เหมาะสำหรับผู้เล่นที่ชื่นชอบเกมแอ็กชัน 2D สไตล์ Metroidvania ตัวละครที่น่ารัก กราฟิกที่สวยงาม ดนตรีประกอบที่เร้าใจ และระบบการเล่นที่ลื่นไหล ล้วนเป็นจุดเด่นที่ทำให้เกมนี้สนุกจนวางไม่ลง สำหรับผม เกมนี้ให้ความรู้สึกเหมือนได้ย้อนกลับไปเล่นเกมคลาสสิกในยุค 90 อีกครั้ง แต่มีการเพิ่มเติมระบบการเล่นที่ทันสมัย ทำให้เกมมีความสนุกสนานและท้าทายมากขึ้น หากคุณกำลังมองหาเกมแอ็กชัน 2D ที่สนุกสนานและท้าทาย Grim Guardians: Demon Purge เป็นเกมที่ไม่ควรพลาด 5. Timespinner: เกม Metroidvania ที่จะพาคุณดำดิ่งสู่โลกแฟนตาซีสุดคลาสสิกTimespinner เกมแนว Metroidvania ผลงานจาก Lunar Ray Games ที่พาเราย้อนเวลากลับไปในยุค 90 กับภาพกราฟิก Pixel Art สุดคลาสสิก ผสมผสานกับระบบการต่อสู้ที่ลื่นไหล ดนตรีประกอบสุดไพเราะ และเนื้อเรื่องเข้มข้น ดึงดูดให้ผู้เล่นดำดิ่งสู่โลกแฟนตาซีอันน่าค้นหา ระบบการเล่นที่ท้าทาย:Timespinner นำเสนอระบบการเล่นแบบ Metroidvania คลาสสิก ผู้เล่นจะต้องสำรวจแผนที่อันกว้างใหญ่ ค้นหาไอเท็มเพื่อปลดล็อกความสามารถใหม่ ต่อสู้กับศัตรูที่หลากหลาย และไขปริศนาที่ซ่อนอยู่ เกมนี้ยังมีระบบ Time rewind ที่ทำให้ผู้เล่นสามารถย้อนเวลากลับไปแก้ไขความผิดพลาด หรือใช้เพื่อเอาชนะอุปสรรคบางประเภท บรรยากาศที่เต็มไปด้วยเสน่ห์:Timespinner สร้างบรรยากาศย้อนยุคได้อย่างยอดเยี่ยม ด้วยภาพกราฟิก Pixel Art ที่สวยงาม ดนตรีประกอบสไตล์ Chiptune ที่ไพเราะ และการออกแบบฉากที่เต็มไปด้วยรายละเอียด เกมนี้ทำให้เรารู้สึกเหมือนได้ย้อนกลับไปเล่นเกม Metroidvania ในยุค 90 อีกครั้ง ความรู้สึกที่ได้สัมผัส:ตอนแรกที่ได้เล่น Timespinner รู้สึกตื่นเต้นกับระบบการเล่นที่ท้าทาย การออกแบบฉากที่สวยงาม และดนตรีประกอบที่ไพเราะ เกมนี้ดึงดูดให้เราอยากสำรวจทุกซอกทุกมุม ค้นหาไอเท็มใหม่ และฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆ ยิ่งเล่นไปเรื่อยๆ เรายิ่งรู้สึกผูกพันกับตัวละคร Luna ตัวเอกของเกม รู้สึกอินกับเนื้อเรื่องที่เข้มข้น และลุ้นระทึกกับฉากต่อสู้ที่ยากลำบาก Timespinner เป็นเกม Metroidvania ที่ควรค่าแก่การเล่น เหมาะสำหรับผู้เล่นที่ชื่นชอบเกมแนวนี้ หรือผู้เล่นที่มองหาเกมที่มีระบบการเล่นที่ท้าทาย บรรยากาศที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ และเนื้อเรื่องที่เข้มข้น 6. Bloodstained: Ritual of the Night - การกลับมาของตำนาน Castlevania ในรูปแบบใหม่Bloodstained: Ritual of the Night ผลงานจาก Koji Igarashi ผู้สร้างซีรีส์ Castlevania ในตำนาน ดึงดูดเหล่าเกมเมอร์ผู้หลงใหลในเกมแนว Metroidvania ให้กลับมาสู่โลกแห่งปราสาทปีศาจอีกครั้ง ระบบการเล่นที่ลื่นไหล เต็มไปด้วยความท้าทายเกมเพลย์ของ Bloodstained นั้นคุ้นเคยสำหรับแฟน ๆ Castlevania ผู้เล่นจะต้องควบคุม Miriam ตัวละครหลัก ออกผจญภัยในปราสาทอันกว้างใหญ่ เต็มไปด้วยศัตรูและกับดักมากมาย รูปแบบการเล่นเน้นการโจมตีด้วยอาวุธและเวทมนตร์ ผสมผสานกับระบบการกระโดด ปีนป่าย และ platforming ที่ลื่นไหล ความลับที่รอการเปิดเผยเกมเต็มไปด้วยความลับมากมายให้ค้นหา ผู้เล่นจะต้องสำรวจทุกซอกทุกมุมเพื่อหาไอเทมพิเศษ อาวุธ และชุดเกราะใหม่ ๆ เสริมพลังให้ Miriam บรรยากาศที่เต็มไปด้วยเสน่ห์Bloodstained นำเสนอภาพกราฟิก 2D สไตล์คลาสสิก ผสมผสานกับงานออกแบบตัวละครและฉากในแบบ Gothic Horror ดนตรีประกอบที่ยิ่งใหญ่ สร้างบรรยากาศให้ผู้เล่นรู้สึกเหมือนหลุดเข้าไปในโลกแฟนตาซีอันมืดมิด ความรู้สึกที่ได้สัมผัสการได้เล่น Bloodstained เปรียบเสมือนการย้อนเวลากลับไปสัมผัสความคลาสสิกของ Castlevania อีกครั้ง ความท้าทายของเกมดึงดูดให้เราอยากลองผิดลองถูก ค้นหาทุกซอกทุกมุมของปราสาท Bloodstained: Ritual of the Night เหมาะสำหรับเกมเมอร์ทุกวัย เป็นเกมที่เล่นได้สนุก ท้าทาย เกมนี้จะมอบประสบการณ์การเล่นที่ยากจะลืมเลือน คะแนน: 9/10 7. Aeterna Noctis: บททดสอบฝีมือ ท่ามกลางความมืดมิดอันงดงามAeterna Noctis เกม Metroidvania สัญชาติสเปน พาผู้เล่นดำดิ่งสู่โลกแห่งความมืดมิด เต็มไปด้วยความท้าทายและบรรยากาศอันน่าค้นหา ระบบการเล่นที่เข้มข้น: หัวใจหลักของเกมคือระบบการต่อสู้ที่รวดเร็ว ลื่นไหล ผสมผสานการโจมตีท่าต่างๆ กับการหลบหลีกอย่างชาญฉลาด ศัตรูแต่ละประเภทมีรูปแบบการโจมตีที่หลากหลาย ทดสอบทักษะและความอดทนของผู้เล่นอยู่เสมอ ความยากที่สมดุล: Aeterna Noctis ขึ้นชื่อเรื่องความยาก แต่ความยากนั้นไม่ได้มาแบบไร้เหตุผล เกมออกแบบมาอย่างชาญฉลาด ผู้เล่นต้องเรียนรู้รูปแบบการโจมตีของศัตรู ฝึกฝนการควบคุมตัวละคร และค้นหาจุดอ่อนเพื่อเอาชนะ โลกที่เต็มไปด้วยรายละเอียด: ฉากในเกมถูกออกแบบมาอย่างสวยงาม เต็มไปด้วยรายละเอียดน่าค้นหา ผู้เล่นจะได้สำรวจดินแดนอันกว้างใหญ่ ค้นพบความลับ ซ่อนอยู่ตามจุดต่างๆ บรรยากาศที่ดึงดูดใจ: ดนตรีประกอบไพเราะ เสียงประกอบสมจริง สร้างบรรยากาศให้ผู้เล่นรู้สึกเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของโลกในเกม ความรู้สึกหลังเล่น: Aeterna Noctis มอบประสบการณ์การเล่นที่ทั้งสนุก ท้าทาย และน่าประทับใจ ความยากของเกมกระตุ้นให้ผู้เล่นอยากพัฒนาฝีมือ ความสวยงามของฉากและดนตรีประกอบสร้างความเพลิดเพลิน สรุป: Aeterna Noctis เหมาะสำหรับผู้เล่นที่ชื่นชอบเกม Metroidvania ต้องการความท้าทาย และดื่มด่ำกับบรรยากาศอันงดงาม ข้อควรระวัง: เกมมีความยากสูง ผู้เล่นอาจต้องใช้เวลาฝึกฝน คะแนน: 9/10 8. Death's Gambit Afterlife: สัมผัสความตายในอ้อมกอดแห่งพลังDeath's Gambit Afterlife ดึงดูดผู้เล่นด้วยเสน่ห์ของเกมแอ็กชัน 2D ผสมผสานระบบ RPG เข้ากับบรรยากาศอันมืดหม่น ตัวเกมพาเรารับบทเป็น Sorun หนุ่มผู้ทำสัญญากับยมทูต ออกเดินทางเพื่อทวงคืนวิญญาณที่สูญเสียไป ระบบการต่อสู้ที่ท้าทายหัวใจหลักของ Death's Gambit Afterlife อยู่ที่ระบบการต่อสู้ที่ลุ่มลึก เต็มไปด้วยกลยุทธ์ ผู้เล่นต้องเรียนรู้รูปแบบการโจมตีของศัตรู หลบหลีก จับจังหวะโจมตีสวนกลับ การใช้อาวุธและเวทมนตร์อย่างชาญฉลาด ความท้าทายถูกยกระดับขึ้นด้วยระบบ Stamina ที่จำกัด การใช้ท่าโจมตี กระโดด หรือวิ่งล้วนใช้ Stamina ทั้งสิ้น ผู้เล่นต้องบริหาร Stamina อย่างระมัดระวัง กะจังหวะโจมตีและหลบหลีกอย่างชาญฉลาด บรรยากาศที่เต็มไปด้วยความตายโลกของ Death's Gambit Afterlife เต็มไปด้วยความมืดหม่น ผู้เล่นจะได้พบกับฉากอันรกร้าง ตัวละครที่เต็มไปด้วยความสิ้นหวัง เสียงประกอบที่ตอกย้ำความหดหู่ บรรยากาศเหล่านี้สร้างแรงกดดันให้ผู้เล่น ราวกับว่าพวกเขาต้องต่อสู้กับความตายอยู่ตลอดเวลา ความรู้สึกที่หลากหลายระหว่างเล่นความยากของเกมสร้างความตึงเครียด ท้าทายให้ผู้เล่นพัฒนาฝีมือ การเอาชนะศัตรูที่ยากลำบากสร้างความรู้สึกภูมิใจ การค้นพบความลับของเกมสร้างความตื่นเต้น Death's Gambit Afterlife มอบประสบการณ์ที่ยากจะลืมเลือน เต็มไปด้วยความท้าทาย บรรยากาศที่เต็มไปด้วยความตาย และความรู้สึกที่หลากหลาย เหมาะสำหรับผู้เล่นที่มองหาเกมแอ็กชัน RPG ที่เข้มข้น ท้าทาย และเต็มไปด้วยเสน่ห์ สรุประบบการต่อสู้ที่ท้าทาย เต็มไปด้วยกลยุทธ์บรรยากาศที่เต็มไปด้วยความตาย สร้างแรงกดดันให้ผู้เล่นมอบประสบการณ์ที่ยากจะลืมเลือน เต็มไปด้วยความท้าทาย และความรู้สึกที่หลากหลาย เหมาะสำหรับผู้เล่นที่มองหาเกมแอ็กชัน RPG ที่เข้มข้น ท้าทายผู้เล่นที่ชื่นชอบบรรยากาศแบบ Dark Fantasyผู้เล่นที่ต้องการฝึกฝีมือและพัฒนาความอดทน 9. Touhou Luna Nights: บททดสอบฝีมือในโลกแฟนตาซีสุดท้าทายTouhou Luna Nights เกม Metroidvania ที่ผสมผสานความสนุกสนานของระบบการต่อสู้แบบ Bullet Hell เข้ากับการผจญภัยสุดคลาสสิก ดึงดูดให้ผู้เล่นดำดิ่งสู่โลกแฟนตาซีที่เต็มไปด้วยความท้าทาย ระบบการเล่นที่ลื่นไหลและท้าทายหัวใจหลักของ Touhou Luna Nights อยู่ที่ระบบการต่อสู้ที่ผสมผสานการโจมตีระยะประชิด การยิงกระสุน และการหลบหลีกกระสุนแบบ Bullet Hell ได้อย่างลงตัว ผู้เล่นต้องเรียนรู้รูปแบบการโจมตีของศัตรู ฝึกฝนการควบคุมตัวละคร และใช้ทักษะทั้งหมดที่มีเพื่อเอาชนะศัตรูที่ยากขึ้นเรื่อยๆ บรรยากาศที่ดึงดูดใจเกมนี้มีกราฟิกสไตล์ Pixel Art ที่สวยงาม ดนตรีประกอบที่เร้าใจ และการออกแบบด่านที่เต็มไปด้วยรายละเอียด บรรยากาศโดยรวมให้ความรู้สึกเหมือนกำลังอ่านหนังสือนิยายแฟนตาซี เต็มไปด้วยความลึกลับและน่าค้นหา ความรู้สึกที่ได้สัมผัสในตอนแรก ผมรู้สึกท้อแท้กับความยากของเกม แต่หลังจากฝึกฝนและเรียนรู้รูปแบบการโจมตี ผมก็เริ่มรู้สึกสนุกกับการต่อสู้มากขึ้น ความรู้สึกตื่นเต้นเมื่อเอาชนะ Boss ตัวเก่ง หรือความภูมิใจที่ผ่านด่านยากๆ ไปได้ ล้วนเป็นสิ่งที่ทำให้ผมรู้สึกประทับใจ บทสรุปTouhou Luna Nights เป็นเกมที่เหมาะสำหรับผู้เล่นที่กำลังมองหาความท้าทายและความสนุกสนาน ระบบการเล่นที่ลื่นไหล บรรยากาศที่ดึงดูดใจ และความท้าทายที่รออยู่ ทำให้เกมนี้เป็นหนึ่งในเกม Metroidvania ที่ดีที่สุดที่ผมเคยเล่น คะแนน: 9/10 10. Record of Lodoss War Deedlit in Wonder Labyrinth บทเพลงแห่งเอลฟ์ที่งดงามเสียงดนตรีบรรเลงอันไพเราะ ดึงดูดให้ผมก้าวเท้าเข้าสู่ดินแดนแห่ง Lodoss War อีกครั้ง ในเกม Record of Lodoss War Deedlit in Wonder Labyrinth ผมสวมบทบาทเป็น Deedlit เอลฟ์ผู้สง่างาม ออกผจญภัยในเขาวงกตมหัศจรรย์เพื่อค้นหาความทรงจำที่หายไป ระบบการเล่นที่ลื่นไหล ผสมผสานระหว่างการต่อสู้แบบ Metroidvania และการแก้ปริศนา สร้างความท้าทายและความเพลิดเพลิน ผมได้เรียนรู้ทักษะใหม่ ค้นพบอาวุธ และปลดล็อกความลับที่ซ่อนอยู่ภายในเขาวงกต การต่อสู้เต็มไปด้วยความตื่นเต้น ดาบของ Deedlit ฟาดฟันศัตรูอย่างเฉียบคม เวทมนตร์สร้างความเสียหายเป็นวงกว้าง เสียงประกอบสุดเร้าใจยิ่งกระตุ้นให้ผมอยากต่อสู้ต่อไป บรรยากาศภายในเกมช่างงดงาม กราฟิกสไตล์ Pixel Art สื่อถึงความคลาสสิก ด่านต่างๆ ออกแบบมาอย่างประณีต เต็มไปด้วยสีสันและรายละเอียด ตัวละคร Deedlit เคลื่อนไหวน่ารัก เสียงพากย์ภาษาญี่ปุ่นเต็มไปด้วยอารมณ์ ดึงดูดให้ผมจมดิ่งสู่โลกของ Lodoss War ระหว่างเล่นเกม ผมรู้สึกเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของ Deedlit ร่วมผจญภัยไปกับเธอ เผชิญกับอุปสรรคและความท้าทาย รู้สึกตื่นเต้นเมื่อเอาชนะศัตรู รู้สึกสงสัยเมื่อเผชิญกับปริศนา รู้สึกภูมิใจเมื่อค้นพบความลับ และรู้สึกผูกพันกับตัวละคร Deedlit มากขึ้น Record of Lodoss War Deedlit in Wonder Labyrinth เป็นเกมที่มอบความสนุกสนาน ความท้าทาย และความประทับใจ เหมาะสำหรับแฟนเกม Metroidvania และแฟนอนิเมะ Record of Lodoss War นี่ไม่ใช่แค่เกม แต่เป็นบทเพลงแห่งเอลฟ์ บทเพลงที่บรรเลงถึงความกล้าหาญ มิตรภาพ และความหวัง บทเพลงที่ผมจะจดจำไปอีกนาน บทส่งท้าย10 เกมอินดี้เหล่านี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของเกมแนว Metroidvania ที่น่าจับตามอง ยังมีเกมอินดี้มากมายที่รอให้คุณค้นพบ เกมแนว Metroidvania เป็นเสมือนขุมทรัพย์ที่เต็มไปด้วยความหลากหลาย เต็มไปด้วยเรื่องราว โลก และตัวละครที่ไม่เหมือนใคร หากคุณกำลังมองหาเกมที่มอบความท้าทาย ความสนุกสนาน และความประทับใจ เชิญสัมผัส 10 เกมอินดี้ที่เราคัดสรรมา รับรองว่าคุณจะไม่ผิดหวัง ขอให้สนุกกับการผจญภัยในโลกของเกมแนวแส้กันนะครับ! เครดิตภาพ ทางผู้เขียนได้ซื้อเกมนี้มาเล่นเองถ่ายรูปลงเองเปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !