สตม.สกัดจับลอบเข้าเมือง ไม่ประมาท สั่งคุมเข้มแนวชายแดน
พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. แถลงผลสกัดจับลอบเข้าเมือง ได้ผู้ต้องหา 32 ราย ทั้งไทย-ต่างด้าว ไม่ประมาท สั่งคุมเข้มแนวชายแดน
เมื่อวันที่ 9 ก.พ. ที่ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. กล่าวถึงมาตรการดูแลความเรียบร้อยตามแนวชายแดนไทย-เมียนมา หลังมีสถานการณ์ทางการเมืองตรึงเครียดว่า
ภาพรวมสถานการณ์ยังปกติ ด่านตรวจคนเข้าเมืองที่ จ.ระนอง , อ.แม่สอด จ.ตาก ยังเปิดตามปกติเพื่อขนถ่ายสินค้า แต่ได้สั่งการให้ทุกด่านเฝ้าระวังสถานการณ์ ประสานหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่จัดทำแผนเผชิญเหตุ หรือแผนรองรับสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้น พร้อมขอความร่วมมือประขาชนแจ้งข่าวสาร เบาะแส ความผิดปกติให้กับเจ้าหน้าที่
เพราะแนวชายแดนไทยมีความยาวกว่า 2,400 กิโลเมตร เจ้าหน้าที่ไม่สามารถวางกำลังได้ตลอดแนวทั้ง 24 ชั่วโมง ส่วนชาวเมียนมาที่อยู่ในประเทศไทยเป็นจำนวนมาก ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มผู้ใช้แรงงาน ซึ่งมีความเคารพต่อกฎหมายภายในประเทศไทยเป็นอย่างดี เชื่อว่าจะไมมีสถานการณ์ความวุ่นวายใดๆเกิดขึ้น
ต่อมาพล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. พร้อมด้วย พล.ต.ต.พรชัย ขันตี รอง ผบช.สตม. พ.ต.อ.เอกกร บุษบาบดินทร์ รอง ผบก.ตม.5 พ.ต.อ.เศรษฐภัทรณ สงขลา ผกก.สส.บก.ตม.5 พ.ต.ท.กิตติธร นาคเกลี้ยง รอง ผกก.สส.บก.ตม.5
พ.ต.อ.ณัฐวุฒิ แสงเดือน ผกก.ตม.จว.เชียงราย พ.ต.อ.มณุวัฒน์ กอสนาน ผกก.ด่าน ตม.เชียงแสน ร่วมกันแถลงการสกัดกั้นลักลอบขนต่างด้าวในรอบสัปดาห์ของ บก.ตม.5 จำนวน 3 คดี จับกุมผู้ต้องหาได้จำนวน 32 คน แบ่งเป็นชาวไทย 9 คน ชาวลาว 2 คน และชาวจีน 21 คน
คดีที่ 1 ขบวนการขนต่างด้าวชาวจีน จากอ.แม่สอด จ.ตาก ไป อ.แม่สาย จ.เชียงราย ใช้รถยนต์ 3 คัน สามารถจับกุมคนขับรถเป็นชายไทย 3 คน และพบต่างด้าวชาวจีนที่หลบหนีเข้าเมืองโดยสารมาในรถทั้ง 3 คัน รวม 9 คน จับกุมได้ที่หน้าโรงเรียนแม่ลอยไร่ อ.เทิง จ.เชียงราย จากนั้นขยายผลจับกุมชายไทยอีก 1 คน ขณะลักลอบขนชาวจีน อีก 7 คน ผ่านจังหวัดเชียงใหม่ไปยังจังหวัดแม่ฮ่องสอน
คดีที่ 2 จับ 2 หนุ่มชาว สปป.ลาว รับจ้างที่ขนแรงงานโดยเรือหางยาวข้ามแม่น้ำโขง จาก สปป.ลาว เข้ามาเทียบท่าจุดจอดเรือ แม่โขงเดลต้า บ้านป่าสักหางเวียง อ.เชียงแสน จ.เชียงราย และจับกุมคนไทย 3 คน และชาวจีนอีก 2 คน ที่โดยสารมาเข้ามาราชอาณาจักรผิดกฏหมาย นำผู้ต้องหาส่งสภ.เชียงแสน ดำเนินคดี
คดีที่ 3 จับกุมชายไทย 1 คน กำลังจอดรถยนต์รับ 3 ชาวจีน ที่มาจากสปป.ลาว เพิ่งจะขึ้นฝั่งช่องทางธรรมชาติบ้านสวนดอก อ.เชียงแสน จ.เชียงราย จึงแสดงตัวเข้าจับกุม
ชายไทยคนดังกล่าวสารภาพว่า รับจ้างขับรถส่งคนต่างด้าว จากจ.เชียงราย ไปส่งที่จ.สระแก้ว คิดค่าจ้าง 15,000 บาทต่อเที่ยวและตำรวจยังขยายผลจับกุมผู้สั่งการชาวไทย ซึ่งอยู่ในจ.เชียงรายได้อีก 1 คน นำผู้ต้องหาส่งสภ.บ้านแซว ดำเนินคดีตามกฏหมาย
พล.ต.ท.สมพงษ์ กล่าวว่า ผู้ที่ลักลอบเข้าเมืองส่วนใหญ่ทำงานกับธุรกิจสถานบันเทิงฝั่งเมียนมาและ สปป.ลาว เมื่อเกิดสถานการณ์โควิด-19 และมีความตึงเครียดทางการเมืองของเมียนมา ส่งผลให้ผู้ใช้บริการลดน้อยลงและทำให้ธุรกิจถูกปิด จึงพยายามหลบหนีเข้ามาประเทศไทยและปลอดภัยจากโควิดอีกด้วย
ซึ่งได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนขยายผลจับกุมผู้ที่เกี่ยวข้องและตัวการใหญ่ในการลักลอบขนคนเข้ามาในประเทศและให้ดำเนินการตามกฎหมายทั้งหมด