GFPTลั่นไก่ขายดีรับตรุษจีน ดีมานด์-ออเดอร์ดันมาร์จิ้น
#GFPT #ทันหุ้น– GFPT เผยเริ่มได้รับคำสั่งซื้อไก่ปรุงสุกแปรรูปจากญี่ปุ่น หลังไข้หวัดนกระบาดหนัก คาดเริ่มรับส่งสินค้าได้ตั้งแต่ไตรมาส 2/2566 ลั่นความต้องการบริโภคไก่ฟื้นแกร่ง ขายได้ทุกชิ้นส่วนไก่ หนุนรายได้-กำไรขั้นต้นของบริษัทอย่างมีนัยสำคัญ แถมคำสั่งซื้อไก่สดพุ่งรับตรุษจีน
นายวีระ ธิตยางกรุวงศ์ ผู้จัดการแผนกนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท จีเอฟพีที จำกัด (มหาชน) หรือ GFPT เปิดเผยว่า บริษัทมีสัดส่วนการส่งออกผลิตภัณฑ์ไก่ปรุงสุกแปรรูปไปยังประเทศญี่ปุ่นราว 11-13%ของสินค้าไก่ปรุงสุกแปรรูปเพื่อการส่งออกของกลุ่มบริษัท โดยปัจจุบันทยอยได้รับคำสั่งซื้อเข้ามาบางส่วน คาดว่าจะมีความชัดเจนในช่วงไตรมาส 2/2566 เป็นต้นไป
“ปัจจุบันบริษัทมีกำลังการผลิตไก่ปรุงสุกแปรรูปประมาณ 80%แม้ว่าจะสามารถเปิดไลน์ผลิตได้ครบทั้ง 5 ไลน์แล้วก็ตาม เนื่องจากปกติช่วงไตรมาส 1/2566 เป็นช่วงโลว์ซีซันของการส่งออกผลิตภัณฑ์อาหาร รวมถึงอยู่ระหว่างเร่งจัดหาแรงงานเข้ามาฝึกอบรมก่อนส่งเข้าประจำตำแหน่งงานในไลน์การผลิต ทั้งนี้คาดว่าจะเป็นส่วนสนับสนุนยอดขาย-รายได้ตั้งแต่ไตรมาส 2/2566 เป็นต้นไป”
ออเดอร์ส่งออกดัน
อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ช่วงครึ่งหลังของปี 2565 ที่ผ่านมาผู้ประกอบการทั้งในยุโรป และญี่ปุ่นเริ่มมีคำสั่งซื้อชิ้นส่วนไก่สดแช่แข็งจากบริษัทเพื่อทดแทนผลิตภัณฑ์ไก่แปรรูปปรุงสุกเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากราคาถูกกว่า และสามารถส่งสินค้าได้เร็วกว่า
“ตลอดปี 2565 ที่ผ่านมาเศรษฐกิจในญี่ปุ่นและยุโรปยังฟื้นตัวไม่เต็มที่ ผู้ประกอบการรวมถึงคู่ค้าของบริษัทจึงเริ่มหันมาสั่งซื้อไก่สดแช่แข็งเพื่อทดแทนผลิตภัณฑ์ไก่ปรุงสุกแปรรูปเนื่องจากราคาย่อมเยากว่า ประกอบกับระยะเวลาในการผลิตสั้นกว่าเนื่องจากไก่ปรุงสุกแปรรูปนั้นต้องสั่งล่วงหน้าประมาณ 3 เดือน เพื่อบริหารจัดการกระบวนการผลิตให้ได้ตามคำสั่ง ดังนั้นจึงทยอยได้รับคำสั่งซื้อเข้ามาอน่างต่อเนื่องทั้งผลิตภัณฑ์ไก่สดแช่แข็ง และไก่ปรุงสุกแปรรูป”
ตรุษจีนหนุนยอด
ขณะเดียวกันบริษัทเริ่มได้รับคำสั่งซื้อชิ้นส่วนไก่สด, และชิ้นส่วนไก่สดแช่แข็งทั้งจากร้านค้าในประเทศ และคู่ค้าจากจีนเพื่อเตรียมจำหน่ายในช่วงเทศกลางตรุษจีนเข้ามาอย่างต่อเนื่อง หนุนจากการที่จีนเริ่มเปิดประเทศ ส่งผลให้ความต้องการบริโภคผลิตภัณฑ์ไก่ในจีนเพิ่มขึ้น รวมถึงการที่นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกเริ่มทยอยเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในไทย กระตุ้นการบริโภคในประเทศให้เติบโตขึ้นอย่างแข็งแกร่ง
“ปีนี้น่าจะเป็นอีกปีหนึ่งที่บริษัทสามารถขายผลิตภัณฑ์ไก่ได้ทุกชิ้นส่วน โดยเฉพาะโครงไก่, เครื่องใน, เท้าไก่, ข้อไก่ ซึ่งจะเพิ่มรายได้ให้บริษัทได้ระดับหนึ่ง เช่นเดียวกับปี 2565 ที่ผ่านมาบริษัทแทบไม่มีผลิตภัณฑ์เหลือทิ้งเลย ทุกชิ้นส่วนสามารถสร้างรายได้ให้บริษัทได้ทั้งสิ้น”
ออเดอร์ดันมาร์จิ้น
ขณะเดียวกันบริษัทในเครือ อาทิ บริษัท แมคคีย์ ฟู้ด เซอร์วิสเซส (ประเทศไทย) จำกัด (MCKEY), บริษัท จีเอฟพีที นิชิเร (ประเทศไทย) จำกัด (GFN)ก็ได้รับคำสั่งซื้อทั้งผลิตภัณฑ์ไก่ปรุงสุกแปรรูป และเนื้อไก่สดแช่แข็งเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะ MCKEY ซึ่งจำหน่ายผลิตภัณฑ์ไก่ให้กับแมคโดนัลด์ เอเชียแปซิฟิก มีคำสั่งซื้อเพิ่มเข้ามาในกลุ่มสินค้าที่มีอัตรากำไรขั้นต้น (Margin) สูงเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
“แมคคีย์เองก็มีการเพิ่มไลน์การผลิตตั้งแต่ไตรมาส 3/2565 ที่ผ่านมา ส่งผลให้สามารถรับคำสั่งซื้อได้มากขึ้น โดยสินค้าของแมคคีย์เองเป็นสินค้าที่มีมาร์จิ้นสูง ส่วน GFNนั้นก็ขายชิ้นส่วนไก่ได้มากขึ้น โดยราคาชิ้นส่วนไก่นั้นดีกว่าไก่ตัว ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนศักยภาพการทำกำไรทั้งปีของบริษัทอย่างมีนัยสำคัญ”
บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ระบุปี 2566 คาดว่ากำไรจะชะลอลง YoY แต่จะยังเป็นระดับกำไรในระดับสูง โดยมีปัจจัยบวกจากราคาขายที่จะยังสูงกว่าอดีต ปริมาณขายทั้งในประเทศและที่เติบโตจากการรับรู้กาลังการผลิตใหม่และปริมาณความต้องการของลูกค้าที่อยู่ในระดับสูง ประเมินราคาเป้าหมาย 17.50 บาทต่อหุ้น มี Upside Gain สูงถึง 37.8% ราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขายด้วย PER66 เพียง 8.3 เท่า คงคำแนะนำ“ซื้อ”