ส้มตำเป็นเมนูที่แพร่หลาย คนจำนวนมากชอบรับประทาน เป็นอาหารที่มีประโยชน์ มีส่วนผสมง่ายๆ ไม่มาก รสชาติอร่อย บางท่านปรุงมาทานเพื่อลดน้ำหนัก รับประทานเพื่อสุขภาพที่ดีก็ได้ เพราะเป็นเมนูผัก เป็นอาหารที่รับประทานกันทุกภาคของประเทศ มีวิธีการทำโดยการใช้ครกตำ ปรุงให้มีรสเผ็ด เปรี้ยว เค็ม หวาน วัตถุดิบที่ใช้ในการตำส้มตำ คือ มะละกอดิบ พริก กระเทียม มะเขือเทศ ผลมะนาว และปรุงรสด้วยน้ำตาลปี๊บ น้ำปลา น้ำมะนาว น้ำปลาร้า ปูเค็ม และอื่นๆตามชอบ ผู้เขียนเป็นผู้ที่ชื่นชอบรับประทานส้มตำ และจะตำส้มตำรับประทานเองอยู่บ่อยครั้ง แต่ในบางครั้งที่มีความต้องการรับประทานส้มตำก็ไม่สามารถทำได้เพราะหาซื้อส่วนประกอบประเภทผักได้ไม่ครบ และในบางฤดูผักก็จะมีราคาค่อนข้างแพง เช่น มะนาว ผู้เขียนมีความชื่นชอบ รักในการปลูกผักและมีความรู้อยู่พอสมควร จึงได้ปลูกผักที่เป็นส่วนประกอบของเมนูโปรด "ส้มตำ" เอาไว้ในสวนภายในบ้านการปลูกผักให้งามเจริญเติบโตดี ออกผมที่สมบูรณ์ ผลดก ผักที่มีสุขภาพแข็งแรง ไม่เป็นโรค สามารถเก็บเกี่ยวไว้รับประทานได้นาน ผู้ปลูกก็ต้องรู้จักวิธีดูแล วิธีการปลูก การใช้ดินปลูก เพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้อ่านได้ปลูกผักไว้รับประทานเองอย่างมีความสุข มะละกอดิบ ส่วนประกอบหลักที่ขาดไม่ได้ ผู้เขียนมีความตั้งใจมาแบ่งปันประสบการณ์ในการเพาะพันธุ์จากเมล็ด การดูแล การให้น้ำให้ปุ๋ย ระยะเวลาในการเก็บเกี่ยว และโรคที่เกิดกับต้นมะละกอ การปลูกต้นมะละกอ จะเริ่มจากการเตรียมเพาะพันธุ์เมล็ดที่มีคุณภาพ โดยหาซื้อได้จากร้านขายเมล็ดพันธุ์พืช เลือกสายพันธุ์ที่ผู้ปลูกต้องการ ขั้นตอนการเพาะเมล็ดง่ายๆไม่ยุ่งยากเตรียมดินเพาะ โดยผู้ปลูกใช้พีทมอสเป็นดินเพาะ ใส่ลงถุงเพาะชำขนาด 4 x 8 นิ้ว เคาะถุงให้ดินแน่นพอประมาณฝังเมล็ดพันธุ์มะละกอลงในถุงเพาะชำ 3 เมล็ด ให้ลึกประมาณ 0.5 ซม.รดน้ำให้ชุ่ม 2 ครั้ง เช้าและเย็น ทุกวัน ตั้งไว้ในที่มีแสงแดดรำไร ประมาณ 10-14 วัน ต้นกล้ามะละกอจะเริ่มมีใบ 2-3 ใบ ให้เลือกต้นที่แข็งแรงเอาไว้เพียงต้นเดียว และเมื่อต้นกล้ามีอายุ 45-60 วัน ก็ให้ย้ายปลูกลงดิน พื้นที่ที่ใช้ปลูกควรเป็นดินร่วน ระบายน้ำได้ดี ต้องกำจัดวัชพืชที่มีในบริเวณลงปลูกให้หมด การให้ปุ๋ยจะใส่ปุ๋ย 15-15-15 เดือนละ 1 ครั้ง ใส่ประมาณ 1 ช้อนแกง และเมื่อมะละกอออกดอกจะให้ปุ๋ยตัวท้ายสูงเป็น 13-13-21 เดือนละ 1 ครั้ง เมื่อใส่ปุ๋ยแล้วต้องรดน้ำให้ชุ่ม ไม่ใส่ปุ๋ยชิดลำต้น ใส่ห่างจากลำต้นพอประมาณ*ผู้ปลูกสามารถใส่ปุ๋ยคอกร่วมกับปุ๋ยเคมีได้ตามความต้องการ เมื่อต้นมะละกอที่แข็งแรงสมบูรณ์ มีอายุได้ 6-8 เดือน ก็จะเริ่มเก็บผลมาประกอบอาหารได้ สามารถมีผลมะละกอไว้รับประทานได้นานถึง 2 ปี มะละกอผลดิบสามารถนำไปประกอบอาหารได้หลากหลายเมนู มะละกอผลสุกอร่อยมีรสชาติหวานหอม ผลมะละกอมีประโยชน์ มีวิตามิน และแร่ธาตุต่อร่างกาย เช่น วิตามินซี วิตามินเอ วิตามินบี1 วิตามินบี2 ธาตุแคลเซียม ธาตุโซเดียม ธาตุฟอสฟอรัส ธาตุเหล็ก โปรตีน ต้นมะละกอยังสามารถปลูกเป็นไม้ประดับ เพิ่มความสวยงามในสวนของเราได้อีกด้วย ภาพโดย : Jinnyj(นักเขียน)