9 วิธีลดขยะ จากเทศกาลช่วงปลายปี เพื่อลดผลกระทบในสิ่งแวดล้อม เขียนโดย ภัคฒ์ชาลิสา จำปามูล ช่วงเทศกาลปลายปีเป็นช่วงเวลาที่หลายคนรอคอย ทั้งการเฉลิมฉลอง การเดินทาง และการใช้เวลาร่วมกันกับคนรอบตัว แต่เบื้องหลังบรรยากาศแห่งความสุขนั้น มักมาพร้อมกับปริมาณขยะที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจากการบริโภคที่มากกว่าปกติ ไม่ว่าจะเป็นอาหาร ของขวัญ หรือบรรจุภัณฑ์ใช้แล้วทิ้ง หากเราไม่ทันสังเกต ขยะเหล่านี้จะกลายเป็นภาระต่อชุมชนและสิ่งแวดล้อมในระยะยาว ซึ่งการเริ่มมองเทศกาลผ่านมุมของการใช้ทรัพยากรอย่างมีสติ จึงเป็นจุดตั้งต้นสำคัญของการลดผลกระทบที่เกิดขึ้นทุกปีโดยไม่รู้ตัว แต่ถ้าเราเปลี่ยนคำถามจากจะฉลองอย่างไรให้สนุกที่สุด มาเป็นจะฉลองอย่างไรให้ไม่ทิ้งรอยแผลไว้กับโลก ภาพของเทศกาลจะเปลี่ยนไปทันทีนะคะ ซึ่งการลดขยะไม่ใช่เรื่องของข้อห้ามหรือความยุ่งยาก แต่คือการออกแบบการใช้ชีวิตให้พอดีและรับผิดชอบมากขึ้น ตั้งแต่การตัดสินใจเล็กๆ น้อยๆ ไปจนถึงการสร้างบรรยากาศการมีส่วนร่วม เมื่อแนวคิดนี้ถูกนำมาใช้จริงในชีวิตประจำวัน เทศกาลปลายปีจะยังคงเต็มไปด้วยความสุข พร้อมกับสร้างผลกระทบเชิงบวกที่มองเห็นได้จริงต่อสิ่งแวดล้อมและสังคมค่ะ และต่อไปนี้คือแนวทางค่ะ 1. วางแผนก่อนซื้อและก่อนจัดงาน รู้ไหมคะว่า การวางแผนก่อนซื้อและก่อนจัดงานเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญที่สุดในการลดขยะช่วงเทศกาลปลายปี เพราะขยะจำนวนมากไม่ได้เกิดจากการใช้งาน แต่เกิดจากการซื้อเกินความจำเป็น ดังนั้นหากเราเริ่มจากการตั้งคำถามง่ายๆ ว่าสิ่งไหนจำเป็นจริง สิ่งไหนแค่ซื้อเพราะบรรยากาศเทศกาล จะช่วยตัดขยะออกไปได้ตั้งแต่ต้นทาง การทำรายการสิ่งของและอาหารที่ต้องใช้ตามจำนวนคนจริง ช่วยลดของเหลือทิ้งและลดต้นทุนไปพร้อมกัน นอกจากนี้การกำหนดรูปแบบงานให้ชัดเจนตั้งแต่แรก เช่น งานเล็ก งานใหญ่ หรือเน้นกินร่วมกันแบบเรียบง่าย จะทำให้การตัดสินใจซื้อมีทิศทาง ไม่หลุดกรอบ และไม่ก่อขยะโดยไม่ตั้งใจนะคะ และการวางแผนล่วงหน้าช่วยให้เราเลือกใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าและปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้นได้ เพราะเราสามารถเลือกภาชนะที่ใช้ซ้ำได้ คำนวณอาหารให้เหมาะสม และเตรียมระบบแยกขยะไว้ก่อนเริ่มงาน แทนการแก้ปัญหาหลังขยะกองเต็ม การคิดล่วงหน้าว่าอาหารส่วนเกินจะจัดการอย่างไร หรือของตกแต่งจะนำกลับมาใช้ต่อได้หรือไม่ คือการออกแบบงานที่รับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริงค่ะ เมื่อเราเปลี่ยนมุมมองจากจัดให้เยอะไว้ก่อน เป็นจัดให้พอดีและมีแผนรองรับ เทศกาลปลายปีจะยังคงสร้างความสุข โดยไม่ทิ้งภาระขยะไว้ให้ชุมชนและธรรมชาติในระยะยาวนะคะ 2. เลือกของขวัญที่ใช้ได้จริงหรือใช้ซ้ำได้ การเลือกของขวัญที่ใช้ได้จริงหรือใช้ซ้ำได้ เป็นอีกหนึ่งวิธีสำคัญในการลดขยะจากเทศกาลปลายปีค่ะ เพราะของขวัญจำนวนมากมักถูกใช้งานเพียงช่วงสั้นๆ ก่อนจะถูกเก็บหรือทิ้งไปโดยไม่รู้ตัว หากเราเปลี่ยนแนวคิดจากการให้ของขวัญที่เน้นความสวยงามหรือกระแส มาเป็นของที่ตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวัน จะช่วยลดทั้งปริมาณขยะและทรัพยากรที่สูญเสียไปโดยไม่จำเป็น ของขวัญอย่างแก้วน้ำ ขวดน้ำ กล่องอาหาร ผ้า หรืออุปกรณ์ดูแลสุขภาพ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นตัวอย่างของของที่ผู้รับสามารถนำไปใช้ต่อได้จริง และไม่กลายเป็นภาระต่อสิ่งแวดล้อมหลังเทศกาลค่ะ ซึ่งการเลือกของขวัญที่ใช้ซ้ำได้ยังสะท้อนความใส่ใจและความรับผิดชอบต่อสังคมมากกว่าการให้เพียงตามธรรมเนียมค่ะทุกคน โดยเราอาจเลือกของขวัญที่มีอายุการใช้งานยาว ผลิตจากวัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม หรือสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ในหลายโอกาส รวมถึงของขวัญประเภทประสบการณ์ เช่น เวิร์กช็อป คอร์สเรียน หรือบัตรกำนัล ที่ไม่สร้างขยะจับต้องได้เลย เมื่อการให้ของขวัญเปลี่ยนจากให้เพื่อครบเป็นให้เพื่อเกิดประโยชน์จริง เทศกาลแห่งการให้จะยังคงความหมายและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้อย่างชัดเจนค่ะ 3. ลดการใช้บรรจุภัณฑ์ใช้ครั้งเดียว การลดการใช้บรรจุภัณฑ์ใช้ครั้งเดียวเป็นหัวใจสำคัญของการจัดการขยะในช่วงเทศกาลปลายปีค่ะ เพราะพลาสติก กล่องโฟม และบรรจุภัณฑ์แบบใช้แล้วทิ้งมักเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดจากการซื้ออาหาร ของขวัญ และการเดินทาง หากเราเริ่มจากการเลือกซื้อสินค้าที่มีบรรจุภัณฑ์น้อย หรือสามารถรีไซเคิลได้ จะช่วยลดขยะตั้งแต่ต้นทางอย่างเห็นผลนะคะ ซึ่งการพกถุงผ้า กล่องอาหาร และขวดน้ำส่วนตัว แม้จะเป็นพฤติกรรมเล็กๆ น้อยๆ แต่เมื่อทำอย่างต่อเนื่อง จะช่วยลดขยะจำนวนมากที่ไม่จำเป็นต้องเกิดขึ้นเลย และในมุมมองของการบริโภคอย่างรับผิดชอบ การหลีกเลี่ยงบรรจุภัณฑ์ใช้ครั้งเดียวไม่ใช่เรื่องของความยุ่งยาก แต่เป็นการเปลี่ยนวิธีคิดจากความสะดวกเฉพาะหน้า ไปสู่ผลกระทบระยะยาวต่อสิ่งแวดล้อม โดยเราสามารถเริ่มได้จากการเลือกซื้ออาหารหรือเครื่องดื่มจากร้านที่ยอมรับภาชนะส่วนตัว หรือปฏิเสธอุปกรณ์ที่ไม่จำเป็น เช่น ช้อนส้อมพลาสติก หลอด หรือถุงซ้อนหลายชั้น ซึ่งการตัดสินใจเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้มีส่วนช่วยลดภาระการจัดการขยะของชุมชน และทำให้เทศกาลแห่งความสุขไม่กลายเป็นช่วงเวลาที่สร้างรอยแผลให้สิ่งแวดล้อมในระยะยาวค่ะ 4. ใช้ภาชนะและอุปกรณ์แบบใช้ซ้ำในงานเลี้ยง การใช้ภาชนะและอุปกรณ์แบบใช้ซ้ำในงานเลี้ยง เป็นวิธีลดขยะที่เห็นผลชัดเจนที่สุดวิธีหนึ่งในช่วงเทศกาลปลายปีค่ะ เพราะงานเลี้ยงเพียงครั้งเดียวสามารถสร้างขยะจากจาน ช้อน แก้ว และภาชนะใช้แล้วทิ้งได้จำนวนมาก หากเราเปลี่ยนมาใช้ภาชนะที่ล้างและนำกลับมาใช้ซ้ำได้ จะช่วยลดขยะทันทีตั้งแต่ต้นทาง และยังลดค่าใช้จ่ายระยะยาวจากการไม่ต้องซื้อของใช้แล้วทิ้งซ้ำๆ ซึ่งการเตรียมภาชนะให้เพียงพอต่อจำนวนแขก และเลือกแบบที่แข็งแรง ปลอดภัยต่ออาหาร เป็นการออกแบบงานเลี้ยงที่คำนึงถึงทั้งผู้ร่วมงานและสิ่งแวดล้อมไปพร้อมกันค่ะ และการใช้ภาชนะใช้ซ้ำยังช่วยยกระดับคุณภาพและภาพลักษณ์ของงานเลี้ยงให้ดูเป็นระเบียบและใส่ใจรายละเอียดมากขึ้นด้วย โดยเราสามารถใช้จานชามจริง แก้วน้ำ หรือผ้าเช็ดปากผ้า แทนกระดาษและพลาสติก โดยวางแผนจุดล้างหรือจุดรวบรวมภาชนะหลังใช้งานไว้ล่วงหน้าได้ เมื่อระบบถูกออกแบบตั้งแต่ต้น ความยุ่งยากจะลดลงอย่างมาก และแขกก็สามารถมีส่วนร่วมได้โดยไม่รู้สึกฝืน การเลือกใช้ภาชนะและอุปกรณ์แบบใช้ซ้ำจึงไม่ใช่เรื่องเล็ก แต่เป็นการเปลี่ยนวิธีจัดงานให้สร้างความสุขโดยไม่ทิ้งขยะไว้เบื้องหลังค่ะ 5. จัดการอาหารอย่างรอบคอบ การจัดการอาหารอย่างรอบคอบเป็นปัจจัยสำคัญในการลดขยะช่วงเทศกาลปลายปีค่ะ เพราะขยะอาหารมักเกิดจากการเตรียมอาหารมากเกินความจำเป็นหรือขาดการวางแผนล่วงหน้า หากเราเริ่มจากการประเมินจำนวนผู้ร่วมงานให้ใกล้เคียงความจริง เลือกเมนูที่เหมาะกับรูปแบบงาน และคำนวณปริมาณอาหารต่อคนอย่างมีหลักการ จะช่วยลดทั้งอาหารเหลือทิ้งและต้นทุนโดยไม่กระทบความอิ่มหรือความสุขของผู้ร่วมงาน การเลือกเมนูที่สามารถเก็บต่อได้ หรือปรับเปลี่ยนเป็นเมนูถัดไปได้ง่าย ยังช่วยยืดอายุการใช้งานของอาหารและลดการสูญเสียโดยไม่จำเป็นนะคะ และในมุมของความปลอดภัยของอาหาร การจัดการอาหารอย่างรอบคอบยังต้องคำนึงถึงการเก็บรักษาและการนำกลับมาใช้ใหม่อย่างเหมาะสมด้วย โดยอาหารที่เหลือควรถูกจัดเก็บทันเวลา แยกใส่ภาชนะสะอาด ปิดสนิท และแช่เย็นตามหลักสุขาภิบาลอาหาร เพื่อลดความเสี่ยงต่อการปนเปื้อนและการเจ็บป่วยจากอาหารเป็นพิษ นอกจากนี้การวางแผนล่วงหน้าว่าอาหารส่วนเกินจะถูกแจกจ่าย แบ่งปัน หรือแปรรูปอย่างไร ซึ่งเป็นการจัดการที่รับผิดชอบต่อทั้งผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม เมื่ออาหารทุกจานถูกคิดให้พอดีและปลอดภัย เทศกาลแห่งการเฉลิมฉลองจะไม่สร้างภาระขยะและความเสี่ยงต่อสุขอนามัยในระยะยาวค่ะ 6. แยกขยะตั้งแต่ต้นทาง การแยกขยะตั้งแต่ต้นทางเป็นกลไกสำคัญที่ทำให้การลดขยะในช่วงเทศกาลปลายปีเกิดผลจริง ที่ไม่ใช่แค่การทิ้งให้ถูกถัง แต่เป็นการเพิ่มโอกาสให้ขยะถูกนำกลับมาใช้ประโยชน์ได้อย่างเหมาะสม หากเรายังทิ้งขยะปะปนกันตั้งแต่แรก ขยะรีไซเคิลจำนวนมากจะกลายเป็นขยะทั่วไปทันที ดังนั้นการเตรียมระบบแยกขยะล่วงหน้า เช่น การกำหนดถังสำหรับขยะเปียก ขยะรีไซเคิล และขยะทั่วไป พร้อมป้ายสื่อสารที่เข้าใจง่าย จะช่วยลดความสับสนและทำให้ทุกคนมีส่วนร่วมได้โดยไม่รู้สึกยุ่งยากค่ะ และในมุมมองด้านการจัดการสิ่งแวดล้อม การแยกขยะตั้งแต่ต้นทางช่วยลดภาระของระบบกำจัดขยะปลายทาง ทั้งหลุมฝังกลบและเตาเผา โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลที่ปริมาณขยะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ขยะเปียกสามารถนำไปจัดการแยกต่างหาก ขยะรีไซเคิลมีมูลค่าและสามารถกลับเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจหมุนเวียนได้ ขณะที่ขยะทั่วไปจะถูกจำกัดปริมาณให้น้อยที่สุด เมื่อเราออกแบบการแยกขยะให้เป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมตั้งแต่ต้น เทศกาลแห่งความสุขจะไม่ทิ้งภาระสะสมไว้ให้ชุมชนและสิ่งแวดล้อมในระยะยาวค่ะ 7. ใช้วัสดุตกแต่งที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม การใช้วัสดุตกแต่งที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมช่วยลดขยะจากเทศกาลปลายปีได้ตั้งแต่ขั้นตอนการเตรียมงาน เพราะของตกแต่งจำนวนมากมักถูกใช้เพียงช่วงสั้นๆ ก่อนจะถูกทิ้ง หากเราเลือกวัสดุที่ย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ หรือสามารถนำกลับมาใช้ซ้ำได้ จะช่วยลดทั้งปริมาณขยะและการใช้ทรัพยากรใหม่โดยไม่จำเป็น วัสดุอย่างใบไม้ ดอกไม้แห้ง กิ่งไม้ เชือกปอ หรือผ้า สามารถนำมาประยุกต์เป็นของตกแต่งที่เรียบง่ายแต่สื่อบรรยากาศเทศกาลได้ชัดเจน โดยไม่สร้างภาระต่อสิ่งแวดล้อมหลังงานจบค่ะ และการเลือกใช้วัสดุตกแต่งอย่างมีสติยังช่วยลดต้นทุนและเพิ่มคุณค่าให้กับงานมากขึ้น และเราสามารถนำของตกแต่งจากปีก่อนกลับมาใช้ใหม่ ปรับรูปแบบหรือจัดวางใหม่ให้เข้ากับธีมปัจจุบัน แทนการซื้อของใหม่ทุกปี การหลีกเลี่ยงวัสดุที่รีไซเคิลยาก เช่น พลาสติกผสม กลิตเตอร์ หรือโฟม จะช่วยให้การจัดการหลังงานง่ายและปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น เมื่อของตกแต่งถูกเลือกด้วยแนวคิดการใช้ซ้ำและการย่อยสลาย เทศกาลแห่งความสุขจะยังคงสวยงาม โดยไม่ทิ้งขยะสะสมไว้ในระยะยาวนะคะ 8. สนับสนุนร้านค้าและกิจกรรมที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม การสนับสนุนร้านค้าและกิจกรรมที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม เป็นอีกหนึ่งวิธีลดขยะจากเทศกาลปลายปีที่ส่งผลได้ไกลกว่าระดับบุคคลค่ะ เพราะการเลือกใช้บริการของเราเป็นสัญญาณสำคัญต่อระบบการผลิตและการจัดการขยะ หากเราหันไปเลือกซื้ออาหาร เครื่องดื่ม หรือของขวัญจากร้านที่ลดบรรจุภัณฑ์ ใช้วัสดุย่อยสลายได้ หรือเปิดโอกาสให้ลูกค้านำภาชนะส่วนตัวมาใช้ จะช่วยลดขยะตั้งแต่ต้นทาง และกระตุ้นให้ผู้ประกอบการเห็นความสำคัญของการปรับตัวด้านสิ่งแวดล้อมมากขึ้น และการสนับสนุนร้านค้าและกิจกรรมที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม คือ การช่วยสร้างมาตรฐานใหม่ให้สังคม เมื่อร้านที่รับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมได้รับการสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง แนวทางการลดขยะและการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าจะกลายเป็นเรื่องปกติ ที่ไม่ใช่ทางเลือกเฉพาะกลุ่ม โดยเราอาจเริ่มจากการสอบถามนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมก่อนตัดสินใจใช้บริการ หรือเลือกเข้าร่วมกิจกรรมที่มีระบบจัดการขยะชัดเจน เมื่อการบริโภคของเราเชื่อมโยงกับความรับผิดชอบ เทศกาลแห่งการเฉลิมฉลองจะช่วยขับเคลื่อนสังคมไปสู่ความยั่งยืนได้อย่างเป็นรูปธรรมนะคะ 9. ชวนคนรอบตัวมีส่วนร่วมในการลดขยะ การชวนคนรอบตัวมีส่วนร่วมในการลดขยะเป็นกุญแจสำคัญ ที่ทำให้การจัดการขยะช่วงเทศกาลปลายปีเกิดผลอย่างยั่งยืนค่ะ เพราะต่อให้เราปรับพฤติกรรมเพียงลำพัง ขยะโดยรวมก็ยังคงเกิดขึ้นหากคนรอบข้างไม่เข้าใจหรือไม่เห็นความสำคัญ การสื่อสารอย่างเรียบง่าย เช่น การอธิบายเหตุผลในการใช้ภาชนะซ้ำ การแยกขยะ หรือการเตรียมอาหารให้พอดี จะช่วยให้คนในครอบครัว เพื่อน หรือผู้ร่วมงานเข้าใจและพร้อมปรับตัวไปด้วยกัน โดยไม่รู้สึกว่าถูกบังคับหรือเพิ่มภาระ ซึ่งการทำให้เห็นเป็นตัวอย่างมักได้ผลมากกว่าการบอกนะคะ โดยเราสามารถเริ่มจากการลงมือทำจริง เช่น พกภาชนะส่วนตัว แยกขยะให้เห็นชัด หรือเลือกของขวัญที่ใช้ซ้ำได้ เมื่อคนรอบตัวเห็นผลลัพธ์และความสะดวกจากพฤติกรรมเหล่านี้ การมีส่วนร่วมจะเกิดขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ การลดขยะจึงไม่ใช่เรื่องของคนใดคนหนึ่ง แต่เป็นวัฒนธรรมเล็กๆ ที่ค่อยๆ เติบโตในครอบครัว ที่ทำงาน และชุมชน ทำให้เทศกาลแห่งความสุขไม่ทิ้งภาระไว้ให้สิ่งแวดล้อมในระยะยาวค่ะ ที่โดยสรุปแล้วการลดขยะในช่วงเทศกาลปลายปี ไม่ใช่การลดทอนความสุขหรือจำกัดการเฉลิมฉลองค่ะ แต่เป็นการเปลี่ยนวิธีคิดต่อการใช้ทรัพยากรให้มีความหมายมากขึ้น เมื่อเรามองเห็นความเชื่อมโยงระหว่างการตัดสินใจเล็กๆ น้อยๆ ในแต่ละวันกับปริมาณขยะที่เกิดขึ้น ภาพรวมของปัญหาจะชัดเจนทันที เพราะขยะจำนวนมากไม่ได้เกิดจากความจำเป็น แต่เกิดจากความเร่งรีบและการขาดการวางแผน หากเราเริ่มออกแบบการใช้ทรัพยากรตั้งแต่ต้นทาง เทศกาลยังคงเต็มไปด้วยความสุข ขณะเดียวกันก็ไม่เพิ่มภาระให้ระบบจัดการขยะและสิ่งแวดล้อมของชุมชนค่ะ และภาพใหญ่ของการลดขยะคือการขยับจากวัฒนธรรมการใช้แล้วทิ้ง ไปสู่การใช้ซ้ำ ใช้อย่างพอดี และเลือกอย่างมีความรับผิดชอบต่อผลกระทบที่ตามมา เพราะการจัดงาน การซื้อของ การกิน และการท่องเที่ยว ล้วนเป็นกิจกรรมที่ส่งผลต่อทรัพยากรโดยตรง เมื่อหลายคนเริ่มปรับพฤติกรรมพร้อมกัน ผลลัพธ์จะไม่ได้หยุดอยู่แค่ถังขยะที่ลดลง แต่จะส่งสัญญาณไปถึงผู้ผลิต ผู้ประกอบการ และระบบบริการให้ปรับตัวตาม แนวคิดเรื่องความยั่งยืนจึงค่อยๆ กลายเป็นมาตรฐานใหม่ของการใช้ชีวิตในช่วงเทศกาลค่ะ ซึ่งการนำแนวคิดนี้ไปใช้จริงก็ไม่จำเป็นต้องสมบูรณ์แบบในครั้งเดียวค่ะ แต่ให้เริ่มจากสิ่งที่ทำได้และทำอย่างสม่ำเสมอ พร้อมทั้งสื่อสารให้คนรอบตัวเข้าใจและมีส่วนร่วม เมื่อการลดขยะกลายเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิต ไม่ใช่ภาระหรือข้อบังคับ เทศกาลปลายปีจะเป็นช่วงเวลาที่สร้างคุณค่าได้มากกว่าความสนุกชั่วคราว แต่เป็นการทิ้งร่องรอยเชิงบวกไว้ให้ทั้งสังคมและสิ่งแวดล้อมในระยะยาวค่ะ สำหรับผู้เขียนนั้นปีนี้จะทำอาหารจากผักตามฤดูกาลค่ะ เพื่อซื้อเท่าที่จำเป็นและเน้นเก็บจากที่มีอยู่มาเสริม ส่วนการจัดการขยะนั้น จริงๆ เรื่องนี้ผู้เขียนจะไม่เคยมีปัญหาตลอดชีวิตค่ะ ไม่ว่าจะเทศกาลไหนก็ตาม และพยายามบอกต่อหลานๆ เรื่องนี้ด้วยค่ะ ปกติผู้เขียนไม่บอกว่าขยะนี้รีไซเคิลได้ แต่จะบอกแทนว่าขยะแบบนี้ขายได้เงิน เดี๋ยวขายแล้วเรามาแบ่งกันซื้อขนม แค่นี้ก็วิ่งถือขยะมาถามทั้งวันแล้วค่ะ และในส่วนของเศษอาหารนั้นผู้เขียนนำไปทิ้งที่สวนค่ะ ก็ได้ประโยชน์กลายเป็นปุ๋ยให้พืชไป สำหรับการตกแต่งสถานที่ก็ไม่ได้มีอะไรมากค่ะ มีไฟประดับหลอดสีเหลืองที่เป็นโซล่าเซลล์ ใช้ฟางอัดก้อนมาทำที่นั่งล้อมวง จาน ชามและส้อม ผู้เขียนใช้จานจริงที่ใช้ซ้ำได้ค่ะ ปกติน้อยมากที่จะซื้อจานกระดาษหรือพลาสติก นับครั้งได้เลยค่ะ คือผ่านไป 5 ปี นับครั้งได้เลยว่าซื้อตอนไหนบ้าง หนึ่งครั้งยังถือว่าเยอะว่า โดยตอนนี้ก็ไม่ได้มีจานส้อนกระดาษติดบ้านค่ะ จึงไม่ได้กังวลเรื่องจานช้อนแบบใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้งเป็นขยะ เพราะสิ่งแวดล้อมที่อยู่รอบตัวเราสามารถส่งผลต่อสุขอนามัยของเราได้ และการมีขยะเพิ่มขึ้นในช่วงเทศกาล ถือเป็นอีกช่วงเวลาที่เราทุกคนต้องหันมาร่วมด้วยช่วยกัน จึงอยากเชิญชวนคนไทยทุกคนหันมาช่วยกันลดขยะในช่วงเทศกาลค่ะ ซึ่งตัวอย่างแนวทางว่ามีอะไรบ้างนั้น ผู้เขียนก็ได้นำเสนอไว้แล้วนะคะ #วิธีลดขยะ #ZeroWaste #การจัดการขยะ #ลดมลพิษ #ลดปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม เครดิตรูปภาพประกอบบทความ รูปภาพทำหน้าปก ถ่ายภาพโดย Senivpetro จาก FREEPIK และออกแบบหน้าปกโดยผู้เขียน ใน Canva รูปภาพประกอบเนื้อหา: 1-3 ถ่ายภาพโดยผู้เขียน และภาพที่ 4 ถ่ายภาพโดย Prostooleh จาก FREEPIK เกี่ยวกับผู้เขียน ภัคฒ์ชาลิสา จำปามูล จบการศึกษา: พยาบาลศาสตรบัณฑิต จากวิทยาลัยพยาบาลศรีมหาสารคาม กระทรวงสาธารณสุข และสาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต (อนามัยสิ่งแวดล้อม) จากมหาวิทยาลัยขอนแก่น มีความสนใจและประสบการณ์เกี่ยวกับ: สุขภาพ จิตวิทยาเชิงบวก การบำบัดน้ำเสียและกำจัดสิ่งปฏิกูล 10 ข้อดีของการคัดแยกขยะ ทำไปเพื่ออะไรบ้าง ต่อสิ่งแวดล้อม 10 จุดสังเกตขยะรีไซเคิล มีลักษณะเป็นแบบไหน สามารถเก็บขายได้ การหมักปุ๋ยใต้ดิน จากเศษอาหารภายในบ้าน ลดปัญหาขยะเปียก เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !