(Photo by Benjamin Davies on Unsplash)ไม่ใช่สิ่ มันต้อง “ใจเป็นนาย กายเป็นบ่าว” ไม่ใช่หรอแล้วความหมายของมัน ก็คือ ทุกอย่างล้วนขึ้นอยู่ที่ จิตใจ ถ้าจิตใจเราดี กายย่อมดี แล้วเราก็จะเป็นสุข ใช่สุดเลยครับ !!!(Photo by Pixabay from Pexels)แต่ตอนที่เราต้องเจอกับความทุกข์ มีใครทำได้บ้างไหม ผมคนหนึ่งสารภาพเลยว่ายากมาก เพราะจิตที่ทุกข์ มันทำให้เราวนเวียนอยู่แต่ความคิดแย่ๆ เรื่องเก่าๆ ที่ผ่านมาแล้ว ในเมื่อจิตมันเป็นแบบนี้ กายจะเหลือหรอครับ ที่จริงผมก็ยังเชื่อว่าใจ ยังเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้เราผ่านพ้นปัญหาและอุปสรรคในชีวิต แต่มันจะมีบางช่วงที่ใจเรายังอ่อนแอ จนยากที่จะพึ่งพา กายเราจึงมีหน้าที่ เข้ามาช่วยทุ่นแรงใจในตอนนี้(Photo by burak kostak from Pexels)ใครยังนึกไม่ออก ลองนึกถึงตอนที่เพิ่งอกหักใหม่ๆ จิตใจเราก็จะเศร้าฉิบ บอกตัวเองไม่คิดๆ และแม้จะบอกตัวเองซ้ำๆ ว่าใจเป็นนาย กายเป็นบ่าวนะ ใจเป็นนาย กายเป็นบ่าวนะ แต่เชื่อเหอะ !!! เผลอแปร๋บเดียว แมร่ง เรื่องราว ภาพเก่าๆ ก็จะเข้ามาในหัว ที่ตรงนั้นเคยไปกับเธอคนนี้, ที่ตรงนี้เคยมากับเขาคนนั้น หรือถ้าเป็นเวลานี้ เรากำลังทำอะไรด้วยกันอยู่นะนาฬิกาชีวิต มันดูจะจับจด กับเรื่องอดีต แล้วแบบนี้ เราจะพึ่งใจเราได้อย่างไร ตอนนี้เราจึงต้องกลับด้าน เปลี่ยนเป็นเอา "กายเป็นนาย ใจเป็นบ่าว" แทน ในเมื่อใจไม่นำ เราต้องใช้กายนำ โดยการ ขยับเขยื้อน เคลื่อนไหวร่างกาย ให้มันได้เดิน ได้ออกกำลัง ได้ออกเดินทาง หรือแม้แต่การทำงานให้หนักขึ้น ก็ช่วยได้เหมือนกัน อะไรก็ได้ที่ทำให้ร่างกายได้เคลื่อนไหว แทนที่ต้องมานั่งคิดที่จะเปลี่ยนความคิดตัวเอง(Photo by Sebastian Voortman from Pexels)แม้จิตใจเราอาจจะยังคงคิดวนเวียน แต่การเคลื่อนไหวร่างกาย มันจะขยับให้เราไปพบเจอสิ่งใหม่ๆ ประสบการณ์ใหม่ๆ หรือแม้แต่ปัญหาใหม่ๆ เหมือนเป็นการใส่ input ใหม่ๆ ให้สมองได้รับรู้ และให้หัวใจได้รู้สึกสัมผัสถึงสิ่งรอบตัว ที่กายได้พาใจมาเจอลองใช้พลังของร่างกายที่แข็งแรงอยู่ช่วงนี้ ก้าวข้ามผ่านจิตใจที่บอบช้ำ จนถึงวันที่เวลามาหา...“ใจเรา” ก็จะเข้มแข็งขึ้นได้เองครับ ไปขยับร่างกายกันครับ….ยังมีข้อคิดเพื่อการเรียนรู้ให้ชีวิตดีขึ้นอีกนะครับ ตามไปอ่านได้ที่ > นิยมเล่าเป็นเรื่อง