สทนช. ชี้ไทยเจอพายุ 7 ลูก ทำฝนตกหนักลากยาว ปริมาณฝน พ.ย.สูงเป็นประวัติการณ์

นายไพฑูรย์ เก่งการช่าง รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ หรือ สทนช. เปิดเผยว่า พื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา เผชิญกับสถานการณ์น้ำท่วมที่ยาวนานกว่าปกติในปีนี้ แม้ว่าหน่วยงานได้เตรียมพร้อมระบายน้ำจากเขื่อนใหญ่ล่วงหน้าตั้งแต่เดือนมกราคม 68 แต่สภาพอากาศแปรปรวนปีนี้ ไทยได้รับอิทธิพลทางอ้อมจากพายุถึง 6 ลูก ได้แก่ พายุวิภา คาจิกิ หนองฟ้า ตาปะฮ์ รากาซา และบัวลอย 

ส่งผลให้ร่องความกดอากาศและหย่อมความกดอากาศต่ำมีกำลังแรง ทำให้ปริมาณฝนตกจำนวนมากตลอดฤดู และมีน้ำไหลเข้าสะสมในเขื่อนอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับการระบายน้ำของเขื่อนต้องประเมินสถานการณ์ท้ายน้ำควบคู่กันไป ในหลายช่วงเวลาจึงต้องลดการระบายน้ำเพื่อช่วยหน่วงน้ำไว้ในเขื่อน ไม่ให้ไหลไปสมทบในพื้นที่ที่มีระดับน้ำสูงอยู่แล้ว ทำให้เขื่อนใหญ่หลายแห่งมีปริมาณน้ำจำนวนมากในช่วงปลายฤดูฝน โดยเฉพาะเขื่อนภูมิพล

ขณะเดียวกัน ช่วงปลายเดือนตุลาคมปีนี้กลับมีฝนตกหนักต่อเนื่อง โดยเฉพาะ 31 ตุลาคม - 9 พฤศจิกายน ซึ่งถือเป็นช่วงสิ้นสุดฤดูฝนแล้ว ยังมีพายุคัลแมกีเคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทยโดยตรง ทำให้ปริมาณฝนเดือนพฤศจิกายนสูงสุดเป็นประวัติการณ์ จนต้องเพิ่มการระบายน้ำจากเขื่อนเจ้าพระยาอีกครั้ง สูงสุดถึง 2,900 ลบ.ม. ต่อวินาที เป็นเหตุให้เกิดน้ำท่วมในหลายจังหวัดด้านท้ายเขื่อน ขณะนี้ ทุกหน่วยงานยังคงเร่งบริหารจัดการน้ำอย่างเต็มที่ เพื่อให้สามารถเข้าฟื้นฟูพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบได้โดยเร็วที่สุด