หนังสือที่จะพาไขความลับวิธีคิดของคนรวย เพื่อให้นำมาใช้และปรับเปลี่ยน นำไปสู่การประสบความสำเร็จในอนาคต อีกทั้งยังจะได้เรียนรู้กลยุทธ์เพื่อเพิ่มรายได้และเสริมความมั่งคั่ง ในเล่มยังมีตัวอย่างกรณีศึกษาอีกมากมายที่เกิดขึ้นจริง และการปรับเปลี่ยนวิธีคิดทางการเงินได้พลิกชีวิตของพวกเขาอย่างก้าวกระโดด ตัวของฮาร์ฟหรือผู้เขียนหนังสือเล่มนี้เองก็เคยทำงานหนักมากแต่กลับไม่มีเงินใช้ ลงทุนทำธุรกิจแต่ก็ไม่ประสบผลสำเร็จมากนัก เขาครุ่นคิดอยู่พักใหญ่จนได้พบและรับคำแนะนำจากเพื่อนของพ่อที่ร่ำรวยมากๆ เขาพูดกับฮาร์ฟว่า “ฮาร์ฟ ถ้าคุณยังทำได้ไม่ดีเท่าที่หวัง นั่นหมายความมีบางอย่างที่คุณยังไม่รู้” นี่คือประโยคที่ทำให้ฮาร์ฟฉุกคิดเพราะในตอนนั้นเขาเป็นวัยรุ่นวัยคะนองที่คิดว่าตัวเขาเองรู้ดีทุกเรื่องแล้ว ฮาร์ฟจึงอยากส่งต่อแนวคิดที่ทำให้เขาประสบความสำเร็จมาสู่ผู้อ่านทุกคน และนี่คือแนวคิดในหนังสือเล่มนี้ที่ผู้เขียนชื่นชอบ “ถ้าคุณอยากมีชีวิตที่ดีกว่าเดิม คุณก็ต้องเต็มใจปล่อยวางวิธีคิดและการใช้ชีวิตแบบเดิมๆ แล้วนำวิธีคิดแบบใหม่เข้ามาสู่ชีวิต”การจะเริ่มต้นทำสิ่งต่างๆ เราต้องเป็นแก้วน้ำที่ว่างเปล่าก่อนจึงจะเรียนรู้ได้เต็มที่ และทำให้ชีวิตเราได้ค้นพบและเข้าใจสิ่งใหม่มากขึ้น มีลู่ทางต่างๆมากขึ้น โอกาสที่จะมีชีวิตที่ดีและประสบความสำเร็จก็มากขึ้นตามไปด้วย ตัวผู้เขียนเองก็เคยมีชีวิตที่ติดอยู่ในวังวน ทำทุกอย่างในชีวิตประจำวันเหมือนเดิมทุกวันเพราะไม่กล้าออกจากเซฟโซน แต่เมื่อได้ปรับเปลี่ยนวิธีคิดใหม่ ลองก้าวออกมาทำในสิ่งที่ไม่เคยทำ จึงทำให้ตัวเองได้รู้ว่าการกล้าคิดกล้าทำในสิ่งที่ดี ทำให้หลายๆเรื่องในชีวิตดีขึ้นและมีความสุขอย่างที่ไม่เคยได้รับมาก่อน “แค่การอยู่ถูกที่ถูกเวลามันไม่พอหรอก คุณต้องเป็นคนที่เหมาะสมกับเวลาและสถานที่เหล่านั้นด้วย”เปรียบเปรยได้กับช่างไม้กับเครื่องมือ การมีเครื่องมือที่คุณภาพดีเยี่ยมเป็นสิ่งที่ดี แต่ช่างไม้ก็ต้องใช้เครื่องมือเหล่านี้ได้อย่างช่ำชองด้วย เหมือนกับการที่คนเราอาจมีเงินก้อนใหญ่ในสถานะที่ยังไม่พร้อม เงินนั้นอาจอยู่ได้ไม่นาน และอาจสูญเสียมันไปด้วย ในกรณีของผู้เขียน เคยมีคนรู้จักที่ถูกหวยหลักหมื่นหรือหลักแสน แต่ไม่นานนักเงินนั้นก็หมดไป โดยไม่มีการนำไปต่อยอดหรือลงทุน น่าเสียดายที่เขาได้มีโอกาสรับเครื่องมือมาแต่ไม่สามารถจัดการเครื่องมือนั้นได้ จึงทำให้เครื่องมือนั้นสูญสลายไป “รากก่อให้เกิดผล” สิ่งที่มองไม่เห็นสร้างสิ่งที่มองเห็น หากเปรียบกับต้นไม้ต้นหนึ่ง คนเรามักโฟกัสกับผลลัพธ์(ผล) แต่ความจริงแล้วสิ่งที่ทำให้เกิดผลนั่นคือราก เราเปลี่ยนผลที่อยู่บนต้นแล้วไม่ได้ แต่เราเปลี่ยนแปลงอนาคตของผลได้จากการเปลี่ยนรากไม้ในดินได้ เคยสังเกตไหมว่าเมื่อเราให้ความสำคัญกับผลลัพธ์มากๆ บ่อยครั้งเรามักไม่ค่อยพอใจและยังทำให้เกิดความเครียด ความกดดันตามมา จนลืมไปว่าสิ่งที่จะแก้ไขผลลัพธ์ได้คือ “กระบวนการ” เพราะเมื่อเรามีการดำเนินการที่ดี สุดท้ายแล้วก็จะเกิดผลลัพธ์ที่ดีอย่างไม่ต้องสงสัย “สิ่งที่คุณให้ความสำคัญจะยิ่งเพิ่มขยายผล” เมื่อคุณบ่นแปลว่าคุณกำลังให้ความสนใจกับเรื่องร้ายๆที่พบเจอในชีวิต ทำให้กำลังเสียพลังงานและเวลาไปกับความคิดลบๆ คุณสามารถเลือกได้ว่าจะดึงดูดเรื่องดีๆหรือสิ่งลบๆเข้ามาในชีวิต แนวคิดนี้เป็นแนวคิดที่เปลี่ยนแปลงตัวของผู้เขียนมากที่สุด เพราะเมื่อได้อ่านแล้วผู้เขียนก็นึกขึ้นได้ว่า วันที่เราเจอเรื่องไม่ดีตั้งแต่เริ่มต้นวัน เราก็จะขุ่นมัวใจและเอาแต่โทษว่าวันนี้เป็นวันที่แย่เพราะเราเอาแต่โฟกัสเรื่องแย่ๆ ผู้เขียนจึงเปลี่ยนมุมมองใหม่ และเมื่อเจอเรื่องที่ไม่เป็นดังใจ ก็ปล่อยผ่านไปได้ง่ายขึ้น โฟกัสกับสิ่งดีๆมากขึ้น และสุดท้ายก็พบว่าชีวิตมีพลังบวกมากขึ้น ทำให้ดึงดูดผู้คนและสถานการณ์ดีๆเข้ามามากขึ้นตาม “ลงสนามซะ คุณไม่มีทางรู้หรอกว่าประตูบานไหนจะเปิดรับคุณบ้าง”บางครั้งคุณอาจจะอ่านหนังสือหรือศึกษาหาความรู้มากมาย แต่ไม่เคยได้หาโอกาสในการลงมือทำ ดังนั้นชีวิตจึงไม่มีผลลัพธ์ใดๆเลย คุณควรลงแข่งด้วยทุกสิ่งเท่าที่คุณมี ไม่ว่าจะอยู่ในระดับไหนก็ตาม เพราะการลงมือทำดีกว่าการไม่ทำอะไรเลย ผู้เขียนเองเมื่อจะทำสิ่งใดก็ตาม มักจะรอคอยให้สิ่งนั้นสิ่งนี้พร้อมก่อนและไม่ได้ลงมือทำสักที แนวคิดนี้ทำให้ได้ตระหนักว่า ลงมือทำซะเถอะ ไม่มีสิ่งใดพร้อม100%หรอก เมื่อผู้เขียนได้เริ่มต้นทำบางอย่างก็พบว่าสิ่งที่ทำให้เรียนรู้ได้ดีที่สุดคือการลงมือทำ เพราะชีวิตมักมีสิ่งที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้นเสมอและเมื่อเราผ่านไปได้เราก็จะได้รับประสบการณ์ที่ยิ่งใหญ่ “พัฒนาตัวเองให้ยิ่งใหญ่เหนือกว่าทุกๆปัญหา”หากเอาแต่หลีกเลี่ยง ปัด หรือหันหลังให้กับปัญหาอยู่เสมอ สุดท้ายแล้วพรุ่งนี้ก็จะกลายเป็นวันนี้ ถ้าคุณไม่จัดการกับปัญหาของวันนี้ คุณก็ยังต้องบ่นเรื่องเดิมในวันถัดๆไปอย่างไม่รู้จักจบสิ้น และหากคุณแก้ปัญหาระดับ10ได้และอยู่ในระดับ10 ปัญหาระดับ 7 ก็จะเป็นเรื่องเล็กน้อยสำหรับคุณถ้าคุณเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการรับมือกับปัญหาและเอาชนะอุปสรรคทุกประการ จะมีอะไรที่หยุดยั้งคุณจากความสำเร็จได้อีก? “จำนวนเงินไม่สำคัญ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการทำให้เป็นนิสัย”ฮาร์ฟบอกเล่าเรื่องราวของเอ็มม่า ผู้เข้าร่วมสัมนาคนหนึ่งซึ่งถูกแนะนำให้นำเงินแบ่งไว้ในบัญชีต่างๆ ตอนแรกเธอคิดว่าไม่มีเงินทำแบบนั้นหรอก แต่เธอก็ลองแบ่งเงินหนึ่งดอลลาร์ต่อเดือนไปไว้ในบัญชีต่างๆเหล่านั้น และแบ่งเงินสิบเซ็นต์มาใส่ในบัญชีอิสรภาพทางการเงิน สุดท้ายเอ็มม่าสินใจเก็บเงินเป็นสองเท่าในทุกเดือน จนในเดือนสิบสองก็ได้ฝากไป 2,048 ดอลลาร์ ตัวอย่างนี้ทำให้เห็นว่าการที่เราเก็บเงินอย่างสม่ำเสมอได้สำเร็จเราก็จะมีกำลังใจเพิ่มมากขึ้น และผลลัพธ์ที่ได้จะเป็นรางวัลแก่ความมีวินัยของตัวเรา “ยิ่งคุณเรียนรู้มากขึ้นเท่าไหร่ คุณก็จะหาเงินได้มากขึ้นเท่านั้น และเก็บสะสมเงินได้มากขึ้นด้วย”อย่างไรก็ตาม คนเราควรเรียนรู้และพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ แน่นอนว่าเมื่อศึกษาเรียนรู้แล้วก็ต้องลงมือทำด้วย หากมีช่องทางในการรับเงินเพียงช่องทางเดียวเราก็จะมีรายรับทางเดียว แต่หากลองหาช่องทางทำสิ่งต่างๆมากขึ้นก็จะทำให้รายรับมากขึ้นตาม และขอย้ำเสมอว่าเงินคือสิ่งสำคัญ เงินขับเคลื่อนสิ่งต่างๆในชีวิตเรา ทั้งหมดคือแนวคิดส่วนหนึ่งในหนังสือถอดรหัสลับสมองเงินล้าน ทุกแนวคิดที่กล่าวมาตัวผู้เขียนเองได้นำมาปรับใช้ในชีวิตประจำวันแล้วพบว่าชีวิตเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นในทุกๆด้าน ไม่ใช่แค่ด้านของการเงิน เพราะนิสัยหรือความมีวินัยในเรื่องใดเรื่องหนึ่งเชื่อมโยงกับนิสัยด้านอื่นๆตามไปด้วย ในหนังสือเล่มนี้บางแนวคิดสามารถสังเกตในชีวิตประจำวันได้แต่เรากลับมองข้าม และบางอย่างแค่ปรับเปลี่ยนเพียงเล็กน้อยก็ส่งผลกับชีวิตอย่างมหาศาล เมื่อได้รับแนวคิดดีๆเหล่านี้เพิ่มเติมในชีวิตแล้ว จากนี้เรามาสู้เพื่อชีวิตที่ดีขึ้นและมาสู้เพื่ออิสรภาพทางการเงินไปด้วยกันนะคะภาพและปกโดย : ผู้เขียนตกแต่งจาก canva.comเปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !