พายุถล่มแคนาดารุนแรงสุดในรอบศตวรรษ เสียชีวิตแล้ว 1 ราย

วันนี้( 17 พ.ย.64) เกิดน้ำท่วมครั้งรุนแรงที่เมืองเมอร์ริตต์ จังหวัดบริทิช โคลัมเบียในแคนาดาเมื่อวานนี้ ทำให้จมบาดาลทั้งเมือง จนต้องอพยพประชาชนหมดทั้งเมือง 8,000 คน หลังจากน้ำในแม่น้ำท่วมสูงล้นตลิ่งทะลักเข้าท่วมเมือง และยังซัดสะพานข้ามแม่น้ำพังไป 2 แห่ง ระดับน้ำท่วมสูง 1.22 เมตร พัดพารถยนต์หลายคันลอยไปกับน้ำท่วม นอกจากนี้ยังเกิดหิมะตกลงมาซ้ำเติมเมืองนี้อีกด้วย

เจ้าหน้าที่ทางการจังหวัดบริติช โคลอมเบีย ยืนยันผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 1 คน และสูญหายอีกอย่างนาอย 2 คน หลังจากที่เกิดดินถล่มใส่ถนนทางหลวงสาย 99 ระหว่างเมืองเพมเบอร์ตัน และโลเอต โดยขณะนี้ยังคงต้องปิดทางหลวงดังกล่าว แต่มีรายงานรถยนต์อีกราว 50 คนที่ยังคงตกค้างอยู่ 

ด้านตำรวจแคนาดาคาดว่า มีผู้ถูกทับอยู่ใต้โคลนถล่ม แต่ยอมรับว่า ยังไม่สามารถระบุจำนวนแน่นอนของคนและรถที่สูญหายไป หลังจากเกิดโคลนถล่มได้ 

มีรายงานอีกว่าประชาชนหลายร้อยคน ต้องถูกอพยพทางเฮลิคอปเตอร์จากทั่วทั้งจังหวัดบริติช โคลอมเบีย หลังจากที่ติดอยู่ในบ้านนาน 2 วันจากฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก จนทำให้น้ำ ดินโคลน และหินถล่มลงมาตามรายทาง ซึ่งผู้อยู่ในเหตุการณ์คนหนึ่งระบุว่า เหมือนเป็นคลื่นยักษ์สึนามิพัดถล่มเมืองเลยทีเดียว

ทั้งนี้ เกิดฝนตกหนักมากในจังหวัดบริทิช โคลัมเบีย ติดชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิก ทางตะวันตกของแคนาดา นาน 2 วัน ในวันอาทิตย์และวันจันทร์โดย ร็อบ เฟลมิง รัฐมนตรีคมนาคมและโครงสร้างพื้นฐานของจังหวัด ระบุว่า นี่คือพายุที่รุนแรงที่สุดในรอบศตวรรษ 

นอกจากช่วยคนแล้ว บรรดาเกษตรกรและสมาชิกชุมชนต่างๆเข้าช่วยเหลือวัวราว 50 ตัวจากฟาร์มแห่งหนึ่งในเมืองอับบอตส์ฟอร์ด ของรัฐบริติช โคลัมเบีย ด้วยการใช้เรือ และเจ็ตสกี

นายเฮนรี บรวน  นายกเทศมนตรีเมืองอับบอตส์ฟอร์ด  บอกว่า ภูมิใจที่ชุมชนต่างๆช่วยกันแก้ไขปัญหาฉุกเฉิน แต่ท้องถิ่นยังต้องการความช่วยเหลือจากรัฐบาลกลาง ส่วนที่กรุงออตตาวา นายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโด  เปิดเผยว่า รัฐบาลเสรีนิยม เป็นห่วงสถานการณ์น้ำท่วมอย่างยิ่ง และจัดหาความช่วยเหลือไปแล้ว