เมื่อเข้าสู่เดือนพฤษภาคม ซึ่งเป็นช่วงฤดูเพาะปลูกข้าวนาปี ชาวนาที่หมู่บ้านโซนซาด-ไผ่ล้อม ต.ดงใหญ่ อ.พิมายจ.นครราชสีมา ต่างก็พากันเริ่มไถนาและหว่านข้าวอย่างคึกคัก วันนี้เจ๊เชอเลยจะพาทุกท่าน ไปชมการหว่านข้าวนาปีที่หมู่บ้านแห่งนี้กันค่ะ ซึ่งถือว่าเป็นขั้นตอนหัวใจหลักในการทำนาเลยน้า กว่าจะได้ผลผลิตเป็นข้าวให้คนไทยได้กินกัน ก็ต้องผ่านขั้นตอนเตรียมดิน และการหว่านข้าวก่อนทั้งนั้น ถ้าท่านใดยังไม่เคยเห็นบรรยากาศการหว่านข้าวนาปี ตามเรามาชมกันเลยค่า ในวันที่ 11 พฤษภาคม ของทุกปี ชาวนาทุกคนจะถือฤกษ์ดีวันพืชมงคล ซึ่งเป็นวันที่มีพระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ สำหรับเริ่มลงมือไถปรับพื้นที่แปลงนา และไถหว่านเมล็ดพันธุ์ข้าว เพราะด้วยความเชื่อที่สืบทอดต่อกันมาตั้งแต่บรรพบุรุษว่า ถ้าหว่านเมล็ดข้าวในช่วงนี้ จะทำให้ข้าวเจริญเติบโตงอกงามดี มีความอุดมสมบูรณ์ และได้ผลผลิตที่สูง เมื่อเริ่มมีฝนตกลงมาพอให้หน้าดินชุ่ม ๆ หน่อย ก็จะเป็นสัญญาณบอกชาวนาว่า จะต้องเริ่มปลูกข้าวนาปีแล้วน้า ชาวนาหลาย ๆ หมู่บ้าน ต่างก็ออกมาไถปรับที่ดินในแปลงนา โดยเครื่องมือที่ใช้นั้นจะเป็นรถแทรกเตอร์ บางบ้านก็จะใช้รถไถเดินตาม สำหรับการเตรียมแปลงนาก่อนการหว่านนั้น มีอยู่ 3 ขั้นตอนด้วยกัน คือ- ไถดะ เป็นการไถดินครั้งแรก แล้วจะตากแดดทิ้งไว้ให้ดินแห้งประมาณ 1-2 สัปดาห์ เพื่อกำจัดวัชพืช โรค และแมลงศัตรูข้าว ที่อาศัยอยู่ในดิน- ไถแปร หรือ ไถพรวน เป็นการไถพลิกหน้าดิน และย่อยขนาดก้อนดินให้เล็กลง- ไถคราด เป็นการไถย่อยดินให้เล็กลงกว่าเดิมอีก และปรับระดับพื้นนาให้มีความสม่ำเสมอพร้อมหว่าน เมื่อทำการไถเตรียมแปลงนาเสร็จเรียบร้อยแล้ว อีก 1 สัปดาห์ถัดมา ก็จะเริ่มเข้าสู่ขั้นตอนการหว่านเมล็ดข้าวแล้วค่ะ ซึ่งชาวนาที่หมู่บ้านนี้ จะปลูกข้าวด้วยวิธีการหว่านเมล็ดข้าวแบบแห้ง ๆ โดยไม่ต้องแช่ข้าวปลูกก่อน ลงไปในแปลงนาที่ไถเตรียมไว้แล้ว และไม่ต้องรอให้ฝนตกก่อน หรือที่เรียกว่า หว่านข้าวแห้ง บางพื้นที่เรียก หว่านแห้ง ซึ่งอัตราเมล็ดข้าวที่ใช้ในการหว่านแห้ง จะอยู่ประมาณ 20 กิโลกรัมต่อไร่ จึงเป็นวิธีที่นิยมมากในปัจจุบัน เนื่องจากประหยัดเวลา ประหยัดน้ำ และไม่ต้องใช้คนหว่านเยอะ ส่วนในการหว่านข้าวนั้น พ่อเราบอกว่า จะต้องหว่านให้ข้าวกระจายกันออกไป ไม่ควรหว่านติดกันมากและหว่านห่างเกินไป เพราะจะทำให้ต้นข้าวงอกได้ไม่ดี หรือตอนงอกออกมาต้นข้าวจะมีขนาดเล็กนั่นเอง สมัยเป็นวัยรุ่น เราเคยตามพ่อไปหว่านข้าว ขอบอกว่าหว่านยากจริง ๆ คือต้องหว่านให้เมล็ดข้าวกระจายตัว ดังนั้นคนหว่านข้าวจะต้องมีทักษะและประสบการณ์การหว่านด้วยนะคะ ไม่ใช่ว่าใครไปหว่านก็ได้ 555 เมื่อหว่านเสร็จแล้ว จากนั้นก็จะทำการไถคราดกลบดินกับเมล็ดข้าวอีกครั้ง โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ดินแตกร่วนซุย ทำให้เมล็ดข้าวคลุกเคล้าลงในดิน มีการแทงหน่อแตกยอดขึ้นมาได้ง่าย อีกทั้งยังป้องกันไม่ให้นกและหนูมาทำลายกัดกินเมล็ดข้าวที่หว่านได้อีกด้วย จากนั้นก็รอให้ฝนตกใส่แปลงนา ข้าวก็จะเริ่มงอกแล้วค่ะทุกคน สำหรับปีนี้เราก็หวังว่า ฝนฟ้าคงจะตกต้องตามฤดูกาล หว่านเสร็จแล้วมีฝนตกลงมา ให้ชาวนาบ้านเราได้ชื่นใจและมีความสุข ที่ได้เห็นต้นข้าวซึ่งลงมือปลูกด้วยหัวใจ เริ่มงอกขึ้นมาเจริญงอกงาม ไปจนถึงได้ผลผลิตที่ดีในฤดูกาลเก็บเกี่ยว หากบทความเป็นประโยชน์กับผู้อ่าน รบกวนแชร์เรื่องราวดี ๆ ในการหว่าน ของชาวนาหมู่บ้านเรา ให้ท่านอื่นได้อ่านกันด้วยนะคะ ^^ รูปปกและรูปประกอบโดยผู้เขียน