ในวันที่ชีวิตเจอเรื่องราวมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่ทำให้ดีใจ หรือเรื่องที่ต้องเจ็บปวดและทำให้ท้อแท้ บทความนี้ไม่ใช่การรีวิวหรือแนะนำสิ่งของ แต่คือการแบ่งปันข้อคิดที่เราตกผลึกมาแล้วว่าสามารถช่วย ฮีลตัวเอง ได้จริง เพื่อให้ทุกคนได้มีมุมมองใหม่ ๆ และใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขมากขึ้น เราเชื่อว่าทุกคนมีทั้งด้านดีและไม่ดีปะปนกันไป ไม่มีใครดีสุดโต่งหรือร้ายกาจไปเสียทั้งหมด แต่ละคนต่างมีเฉดสีเทา ๆ ที่แตกต่างกันไป และบางครั้งเราอาจเผลอมองข้ามการกระทำของตัวเองไป จนลืมไปว่าสิ่งที่เราทำนั้นถูกต้องหรือไม่ เราอาจเป็นได้ทั้งผู้กระทำและผู้ถูกกระทำ ดังนั้น การหยุดคิดและทบทวนตัวเองจึงเป็นสิ่งสำคัญ 1. พลังของคำว่า “ขอโทษ” และ “ขอบคุณ” ทำไมสองคำนี้ถึงจำเป็นต่อชีวิตประจำวันของเรา เมื่อไหร่ก็ตามที่เรารู้ตัวว่าทำผิดไม่ว่าจะกับใครก็ตาม เราต้องใช้คำว่า “ขอโทษ” อย่างจริงใจ และแก้ไขสิ่งที่ผิดพลาดให้ถูกต้อง โดยไม่นำอายุหรือตำแหน่งมาเป็นข้ออ้าง ผู้ใหญ่ขอโทษเด็กได้ และเด็กก็ขอโทษผู้ใหญ่ได้เช่นกัน ในทางกลับกัน เมื่อมีใครช่วยเหลือหรือทำสิ่งดี ๆ ให้เรา เราต้องรู้จัก “ขอบคุณ” ให้ติดเป็นนิสัย ซึ่งจะช่วยสร้างสัมพันธภาพที่ดีต่อกัน คำสองคำนี้ถือเป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยเปิดใจและเชื่อมความสัมพันธ์ของคนเราให้แน่นแฟ้นขึ้น 2. คำพูดเป็นนาย กายเป็นบ่าว เมื่อเราพูดอะไรออกไปแล้วคำพูดจะย้อนกลับคืนมาไม่ได้ ดังนั้นก่อนพูดต้องคิดให้รอบคอบ คำพูดเปรียบเสมือนดาบสองคม หากไตร่ตรองดีแล้วก็จะเกิดผลดี แต่หากพูดโดยไม่ระมัดระวังก็อาจกลายเป็นดาบที่ทิ่มแทงได้ ในยุคที่โลกออนไลน์เข้ามามีบทบาทมากขึ้น นิ้วมือของเราก็เป็นแหล่งผลิตคำได้เช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในโลกโซเชียลที่เราไม่รู้ว่าใครเป็นใคร หลายครั้งที่มีการวิพากษ์วิจารณ์เกิดขึ้นอย่างรุนแรง หรือที่เรียกกันว่า “นักเลงคีย์บอร์ด” การพิมพ์ข้อความโดยไม่คิดหน้าคิดหลังอาจทำเพื่อความสนุกมือ แต่สำหรับคนที่ถูกกระทำเขาอาจจดจำและเจ็บปวดไปอีกนาน ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือการเสียชีวิตของศิลปินหลายท่านที่ต้องเผชิญกับคอมเมนต์ที่รุนแรง ดังนั้นก่อนจะพูดหรือพิมพ์อะไรออกไป ขอให้หยุดคิดสักนิด หาข้อมูลให้ดีก่อนแล้วค่อยแสดงความคิดเห็น 3. กระจกสะท้อนตัวเรา: การยอมรับและรักตัวเอง บางครั้งลองมองเข้าไปในกระจกแล้วถามตัวเองว่า “สิ่งที่เราทำอยู่นี้เหนื่อยไหม” “มีความสุขหรือเปล่า” หากเหนื่อยมากก็ลองพักสักหน่อย แล้วค่อย ๆ คิดว่ามีสิ่งใดที่เราทำผิดพลาดไป ถ้าแก้ไขได้ก็ควรแก้ และหากปัญหามาจากคนรอบข้างเพราะยังต้องทำงานด้วยกัน "ถ้าเราเปลี่ยนแปลงคนอื่นไม่ได้ ก็เปลี่ยนแปลงที่ตัวเรา" ไม่ว่าคนอื่นจะมองข้ามหรือต่อว่าเราอย่างไร เราก็ต้องทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุดและให้คุณค่ากับตัวเองให้มากที่สุด นอกจากนี้ “กระจก” อีกบานหนึ่งก็คือฟีดแบ็กจากคนในครอบครัวและเพื่อนสนิท หากคำแนะนำนั้นเป็นคำติเพื่อก่อก็ควรนำมาปรับปรุง เพราะบางครั้งเราอาจมองไม่เห็นตัวเองในบางมุม สุดท้ายที่สุดนี้ ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคน ไม่ว่าชีวิตจะเจอกับเรื่องอะไรมา อย่างน้อยขอให้คุณค่าและให้เกียรติตัวเอง หากมีสิ่งใดบกพร่องก็แก้ไข ส่วนสิ่งที่ดีอยู่แล้วก็ทำต่อไป เชื่อเถอะว่ามันจะต้องมีคนเห็นคุณค่าความดีของเรา และพร้อมที่จะให้อภัยในสิ่งที่เราเคยผิดพลาดไป ซึ่งกันและกัน ปรับที่คนอื่นไม่ได้ก็ปรับมุมมองเปลี่ยนความคิดที่ตัวเรา เครดิต ภาพที่1 Pexels by Kaique Rocha , ภาพที่2 Pexels by cottonbro , ภาพที่3 Pexels by fauxels , ภาพที่4 Pexels by Ilyasick ภาพปกตกแต่งโดย canva โดย creator Hometownsomi เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !