ชาวสงขลาโวยขายเสื้อกีฬาหาหาเงินเข้ากองทุน100 ล้าน ชาวบ้านเดือดร้อน

ชาวสงขลาโวยถูกบังคับซื้อเสื้อตัวละ 220-270 บาท สนองนโยบายสงขลาเมืองกีฬา ประเดิม 1 ล้านตัว หาเงิน 100 ล้าน เข้ากองทุนพัฒนากีฬา ก่อนส่งกลับชุมชน พัฒนาด้านการกีฬาผ่านชมรมกีฬาแต่ละอำเภอ
รายงานข่าวจากจังหวัดสงขลาเมื่อวันที่ 27 มิถุนายนนี้ว่า จังหวัดสงขลาชูนโยบาย สงขลาเมืองกีฬา หรือ Songkhla Sport City เป็นเมืองกีฬา สร้างนักกีฬาเข้าสู่การแข่งขันในระดับชาติและระดับโลก โดยได้จัดกิจกรรมเพื่อหารายได้ ในการจัดกิจกรรมลงสู่ชุมชนเพื่อตอบสนองนโยบายได้อย่างรวดเร็วมากขึ้น คณะกรรมการการกีฬาจังหวัดสงขลา โดยผู้ว่าราชการจังหวัดในฐานะประธานกรรมการกีฬาจังหวัดสงขลา จึงได้จัดตั้งกองทุนคณะกรรมการกีฬาจังหวัดสงขลา
เพื่อนำเงินรายได้จากการจัดกิจกรรมต่างๆเข้าบัญชีกองทุนคณะกรรมการการกีฬาจังหวัดสงขลาเพื่อส่งเสริมสนับสนุนงบประมาณให้กับนักกีฬาบุคลากรทางการกีฬาและบริจาคด้านสาธารณะประโยชน์โดยมีเงื่อนไขผู้ลงนามจำนวน 2 ใน 3 คือนายอำพล พงษ์สุวรรณ รอง ผวจ.สงขลา นายสุพิศ พิทักษ์ธรรม รองอธิบดีกรมฝนหลวง ประธานจัดหารายได้กองทุนกีฬาจังหวัดสงขลา นายไพศาล กชกรจารุพงศ์ หัวหน้าสำนักงานคณะกรรมการกีฬาจังหวัดสงขลา
อย่างไรก็ตามมีรายงาน หลังประกาศนโยบายดังกล่าว ได้มีการจัดหางบประมาณโดยการจำหน่ายเสื้อกีฬา ประกอบด้วย เสื้อคอกลมในราคาตัวละ 220 บาท และเสื้อคอปก ราคาตัวละ 270 บาท จะมีการจำหน่ายผ่าน 16 อำเภอของจังหวัดสงขลา เพื่อนำร่องสงขลาเมืองกีฬา โดยการรณรงค์ให้ชาวสงขลา พร้อมใจกันสวมเสื้อสงขลาเมืองกีฬาในทุกวันพุธ อีกทั้ง เป็นการส่งเสริม กระตุ้น และผลักดันจังหวัดสงขลาให้เป็นเมืองกีฬาในอนาคต
แต่ปรากฏว่า การจำหน่ายเสื้อดังกล่าวนั้น สร้างความกังวลใจให้กับผู้นำชุมชนหลายพื้นที่ เนื่องจากมีการจำหน่ายผ่านอำเภอ แต่ในความสมัครใจนั้นมีผู้สนใจน้อยมาก เนื่องจากปัญหาทางเศรษฐกิจ แต่บางพื้นที่ได้มีการจัดโควต้า ขอความร่วมมือที่เหมือนบังคับซื้อไปยัง อบต.ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ตั้งแต่ 20-50 ตัว ต่อคน อบต.บางแห่งได้โควต้า 200 ตัว ทั้งที่มีพนักงานเพียง 20 คน บางคนก็ขอความร่วมมือ บางคนขอความอนุเคราะห์ แต่ทั้งหมดถูกมองว่าเป็นการสร้างภาระให้กับชาวบ้าน ที่มีปัญหาในเรื่องค่าครองชีพ ทำให้มองว่าการหารายได้เช่นนี้เป็นการซ้ำเติมจากปัญหาทางเศรษฐกิจหรือไม่
นายอำพล พงษ์สุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา กล่าวว่า แนวคิด สงขลาเมืองกีฬา นั้น จำเป็นต้องมีการระดมทุน สำหรับใช้ในการพัฒนาการกีฬา โดยเฉพาะในระดับท้องถิ่น ซึ่งเริ่มด้วยการจำหน่ายเสื้อ ไปยังทั้ง 16 อำเภอ จำนวน 1 ล้านตัว ทั้งนี้ส่วนหนึ่งก็เพื่อให้ประชาชนคนสงขลา ร่วมกันสวมใส่ ร่วมแสดงพลัง ความเป็นสงขลาเมืองกีฬา ส่วนหนึ่งก็เพื่อจัดหารายได้ เข้าสู่กองทุน และรายได้ในกองทุนนี้ ก็จะถูกกระจายลงสู่หมู่บ้านและชุมชน เพื่อพัฒนาทางด้านกีฬา ตามโครงการที่แต่ละหมู่บ้าน แต่ละชุมชนเขียนโครงการผ่านชมรมกีฬาเข้ามา ที่มีอยู่แล้วทั้ง 16 อำเภอ
โดยขณะนี้เสื้อสงขลาเมืองกีฬานั้น เริ่มมีการสวมใส่ในหน่วยงาน ทั้งส่วนราชการ ห้างร้านต่างๆ ซึ่งในแต่ละอำเภอนั้น นายอำเภอจะเป็นเจ้าภาพ นำเสื้อสงขลาเมืองกีฬา จำหน่ายในพื้นที่ ส่วนบริษัท โรงงาน เอกชนนั้น ทางจังหวัดจะได้ขอความร่วมมือในการร่วมซื้อเสื้อประชาสัมพันธ์โครงการฯ ทั้งนี้ไม่ได้เป็นการบังคับซื้อแต่อย่างใด