ยูเครนประกาศ 'ภาวะฉุกเฉิน' เฝ้าระวังความตึงเครียดกับรัสเซีย
เคียฟ, 24 ก.พ. (ซินหัว) -- เมื่อวันพุธ (23 ก.พ.) รัฐสภายูเครนเห็นชอบร่างกฎหมายที่บังคับใช้ภาวะฉุกเฉินในทุกภูมิภาคของประเทศ ยกเว้นภูมิภาคโดเนตสก์และภูมิภาคลูกันสก์ เป็นเวลา 30 วัน เริ่มตั้งแต่วันที่ 24 ก.พ. เป็นต้นไป ท่ามกลางสถานการณ์ความตึงเครียดกับรัสเซีย
รายงานระบุว่าภาวะฉุกเฉินที่บังคับใช้ใน 22 ภูมิภาคของยูเครน ซึ่งยกเว้นสองภูมิภาคข้างต้นที่เกิดข้อพิพาทและมีปฏิบัติการร่วมทางทหาร ได้สั่งห้ามการประชุมและการประท้วงขนาดใหญ่ ห้ามบุคลากรทางทหารเปลี่ยนที่อยู่อาศัย และห้ามผลิตสื่อสารสนเทศที่อาจทำให้สถานการณ์ในประเทศไม่มั่นคงกฎหมายใหม่ยังกำหนดข้อจำกัดเสรีภาพในการเคลื่อนไหว การตรวจสอบยานพาหนะ สถานที่และของใช้ส่วนตัวของประชาชน รวมถึงใช้มาตรการเคอร์ฟิวหากจำเป็น นอกจากนั้นยังจัดให้มีการอพยพประชาชนออกจากสถานที่ที่เป็นอันตรายต่อชีวิตสภาความมั่นคงและการป้องกันประเทศแห่งชาติยูเครนเป็นผู้เสนอให้รัฐสภาประกาศใช้ภาวะฉุกเฉินทั่วประเทศ เนื่องจากรัสเซียสั่งสมกำลังทหารใกล้ชายแดนยูเครนมากขึ้นก่อนหน้านี้ในวันเดียวกัน หน่วยพิทักษ์ชายแดนของยูเครน (SBGS) บังคับใช้หลายมาตรการพิเศษในภูมิภาคที่มีพรมแดนติดกับรัสเซีย เบลารุส และภูมิภาคที่ติดกับทะเล ทั้งข้อจำกัดการเคลื่อนย้ายยานพาหนะส่วนตัวและอุปกรณ์ลอยน้ำ เที่ยวบินของเครื่องบินเบาและยานพาหนะทางอากาศไร้คนขับ รวมถึงข้อจำกัดการถ่ายทำและถ่ายภาพวัตถุบางประเภทอนึ่ง นับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปีก่อน ยูเครนและประเทศตะวันตกบางแห่งตั้งข้อครหาว่ารัสเซียสั่งสมกำลังทหารใกล้ชายแดนยูเครนและอาจมีเจตนา "รุกราน" แต่รัสเซียปฏิเสธและกล่าวว่าตนมีสิทธิระดมกำลังทหารภายในพรมแดนของตนเพื่อการปกป้องดินแดน เนื่องจากองค์กรสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ หรือนาโต (NATO) ทำกิจกรรมอันเป็นภัยคุกคามความมั่นคงในที่ชายแดนของรัสเซีย