ประเภทของหัวชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า ชาร์จแบบไหนคุ้มกว่ากัน

ในยุคที่ประชากรโลกเริ่มหันมาใช้รถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น ไม่ว่าจากเหตุผลทางเศรษฐกิจหรือเหตุผลด้านสิ่งแวดล้อมก็ได้ รัฐบาลและบริษัทเอกชนในไทยก็เริ่มมีความตื่นตัวและตระหนักถึงจำนวนผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าที่มากขึ้น ในตอนนี้ประเทศไทยมีสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าแล้วกว่า 800 แห่ง โดยแต่ละแห่งก็มีอัตราค่าบริการที่แตกต่างกันออกไป ทำให้ประชาชนมีสิทธิเลือกผู้ให้บริการที่มากขึ้น แต่แน่นอนว่ารถยนต์ไฟฟ้าแต่ละรุ่นแต่ละยี่ห้อต่างรองรับหัวชาร์จแบตเตอรี่ที่ต่างกัน

หัวชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าสามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ ด้วยกันได้แก่ AC หัวชาร์จสำหรับไฟฟ้ากระแสสลับ และ DC หัวชาร์จสำหรับไฟฟ้ากระแสตรง

หัวชาร์จ AC แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ AC Type 1 ซึ่งมีขนาดของแรงดันไฟฟ้า 250 โวลต์ และ AC Type 2 ที่แบ่งย่อยออกได้อีก 2 แบบ คือแบบ 1 Phase ซึ่งมีขนาดของแรงดันไฟฟ้า 250 โวลต์ และ 3 Phase ซึ่งมีขนาดของแรงดันไฟฟ้า 480 โวลต์ โดยหัวชาร์จ AC ทุกแบบจะใช้เวลาในการชาร์จอยู่ที่ 40-60 นาที แปรผันตรงตามขนาดของแบตเตอรี่

หัวชาร์จ DC แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ DC CHAdeMO ซึ่งมีขนาดของแรงดันไฟฟ้า 600 โวลต์ และ DC Combined Charging System ที่แบ่งย่อยออกได้อีก 2 แบบ คือแบบ CCS Type 1 ซึ่งมีขนาดของแรงดันไฟฟ้า 600 โวลต์ และ CCS Type 2 ซึ่งมีขนาดของแรงดันไฟฟ้า 1,000 โวลต์ โดยหัวชาร์จ DC ทุกแบบจะใช้เวลาในการชาร์จอยู่ที่ 4-15 ชั่วโมง แปรผันตรงตามขนาดของแบตเตอรี่ 

จะเห็นได้ชัดว่าหากรถยนต์ไฟฟ้าของเราสามารถรองรับหัวชาร์จได้ทั้งแบบ AC และ DC การชาร์จกับหัวชาร์จ AC จะใช้เวลาน้อยกว่าและคุ้มกว่าเมื่อเลือกชาร์จกับสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่คิดราคาเป็นนาที (ยังไม่คำนึงถึงส่วนต่างของราคา)

นอกจากนี้ยังมีหัวชาร์จประเภท GB/T ที่มีขนาดของแรงดันไฟฟ้า 750 โวลต์ ซึ่งเป็นหัวชาร์จที่ถูกพัฒนาเพื่อใช้เองในประเทศจีน เนื่องจากประชากรในประเทศจีนหันมาใช้รถยนต์ไฟฟ้ากันเป็นจำนวนมาก ในตอนนี้ประเทศจีนเป็นอันดับต้น ๆ ของโลกที่มีประชากรใช้รถยนต์ไฟฟ้ามากที่สุด

ข้อมูลจาก www.nissan.co.th

ภาพจาก Mikes-Photography/pixabay