'ลุงป้อม' ห่วงคน กทม. เร่งฟื้นฟูคลองลาดพร้าว คลองเปรมฯ แสนแสบ ยกระดับคุณภาพชีวิต
เมื่อวันที่ 25 มีนาคม ที่ห้องประชุม ชั้น 2 มูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารจัดการสิ่งก่อสร้างรุกล้ำลำน้ำสาธารณะ ครั้งที่ 1/2565 ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ทั้งนี้ ที่ประชุมได้ติดตามเรื่องสืบเนื่อง ตามข้อสั่งการประชุมคณะกรรมการบริหารจัดการสิ่งก่อสร้างรุกล้ำลำน้ำสาธารณะ ครั้งที่ 1/2564 เมื่อวันที่ 8 เมษายน 2564 รายงานผลการดำเนินงานคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนการดำเนินการฟื้นฟูและพัฒนาพื้นที่คลองลาดพร้าว คลองเปรมประชากร และคลองแสนแสบ รายงานผลการดำเนินงานคณะอนุกรรมการจัดทำแผนแม่บทโครงสร้างพื้นฐานระบบคลองและการพัฒนาชุมชนริมคลองเปรมประชากร รายงานผลการดำเนินงานคณะอนุกรรมการด้านกฎหมายและการขับเคลื่อนการพัฒนาคลอง และรายงานผลการดำเนินงานอนุกรรมการด้านประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้
ที่ประชุมมีเรื่องเพื่อทราบ รายงานความก้าวหน้าและปัญหาอุปสรรคโครงการก่อสร้างเขื่อนและพัฒนาที่อยู่อาศัยริมคลองลาดพร้าว รายงานความก้าวหน้าและปัญหาอุปสรรค โครงการก่อสร้างเขื่อนและการพัฒนาที่อยู่อาศัยคลองเปรมประชากร และรับทราบการพัฒนาคลองแสนแสบและคลองสาขา
ที่ประชุมมีเรื่องพิจารณา การปรับแผนแม่บทโครงสร้างพื้นฐานระบบคลองและการพัฒนาชุมชนริมคลองเปรมประชากรในพื้นที่ที่มีปัญหาให้สอดคล้องกับสภาพพื้นที่ และการเจรจาสร้างความเข้าใจและดำเนินการกับผู้รุกล้ำที่ยังไม่ให้ความร่วมมือ
พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า การประชุมในวันนี้เพื่อขับเคลื่อนการบริหารจัดการสิ่งก่อสร้างรุกล้ำลำน้ำสาธารณะ ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการฯขับเคลื่อนงานในด้านต่างๆ ให้คณะอนุกรรมการแต่ละด้านรายงานความก้าวหน้าในการดำเนินงาน รวมทั้งปัญหาอุปสรรคที่เกิดขึ้นเพื่อที่ประชุมจะได้ร่วมกันพิจารณาแนวทางในการแก้ไข และแนวทางในการดำเนินงานเพื่อให้โครงการบรรลุวัตถุประสงค์ และเป็นไปตามกรอบระยะเวลาดำเนินงาน การประชุมในวันนี้เป็นการประชุม ครั้งที่ 2 ของคณะกรรมการชุดนี้ ซึ่งมีความคืบหน้าไปมาก ผมขอสรุปและให้แนวทางการปฏิบัติเพิ่มเติม ดังนี้ 1) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จัดเจ้าหน้าที่ตำรวจลงพื้นที่คลองเปรมประชากรร่วมกับกองทัพบก กรุงเทพมหานคร สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) กรมธนารักษ์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเจรจาสร้างความเข้าใจกับผู้รุกล้ำที่ไม่ให้ความร่วมมือและต่อต้านโครงการ อย่างต่อเนื่อง 2) ชุมชนที่มีการรื้อย้ายและเข้าดำเนินการในพื้นที่แล้ว แต่ยังมีผู้ที่ไม่ให้ความร่วมมือหรือมีการคัดค้านโครงการ ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันเจรจาสร้างความเข้าใจ และพิจารณาการใช้มาตรการด้านกฎหมายควบคู่กัน เพื่อไม่ให้เกิดความล่าช้า และ 3) กรมธนารักษ์ในฐานะเจ้าของพื้นที่เร่งดำเนินการส่งมอบพื้นที่และเร่งรัดการดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง