รีเซต

AWC กำไรสุทธิ Q3/68 ทะลุ 1,148 ล้านบาท  โรงแรมลักชัวรี-แลนด์มาร์ก ‘Jurassic World’ หนุน

AWC กำไรสุทธิ Q3/68 ทะลุ 1,148 ล้านบาท  โรงแรมลักชัวรี-แลนด์มาร์ก ‘Jurassic World’ หนุน
ทันหุ้น
12 พฤศจิกายน 2568 ( 13:19 )

AWC กำไรสุทธิ Q3/68 ทะลุ 1,148 ล้านบาท  โรงแรมลักชัวรี-แลนด์มาร์ก 'Jurassic World' หนุน

#ทันหุ้น #SET #AWC เปิดประสบการณ์ความพิเศษ พร้อมรายงานกำไรสุทธิไตรมาส 3/2568 เติบโตต่อเนื่องสู่ 1,148 ล้านบาท ด้วย “Jurassic World: The Experience” แลนด์มาร์กใหญ่ระดับโลกแห่งแรกที่เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ เดสติเนชั่น สนับสนุนการท่องเที่ยวยั่งยืนของประเทศไทย

บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AWC รายงานผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2568 ที่เติบโตแข็งแกร่ง โดยมีรายได้รวม 5,193 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน กำไรจากการดำเนินงาน (EBITDA) อยู่ที่ 2,509 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.5% จากปีก่อนหน้า และมีกำไรสุทธิ 1,148 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน สะท้อนความสำเร็จของกลยุทธ์สร้างความแข็งแกร่งผ่านความสมดุลของพอร์ตอสังหาริมทรัพย์คุณภาพสูง เพื่อขับเคลื่อนการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว

กลุ่มโรงแรมและการบริการมีรายได้จากทรัพย์สินที่เปิดดำเนินงานปกติรวม 2,800 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า โดยได้รับแรงหนุนจากรายได้ของทรัพย์สินใหม่ที่เปิดในปีนี้ รวมทั้งการเติบโตที่โดดเด่นของโรงแรมในกลุ่มรีสอร์ตระดับลักชัวรี โดยเฉพาะในจังหวัดสุราษฎร์ธานี (เกาะสมุย) ขณะที่กลุ่มไลฟ์สไตล์มีรายได้ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มในช่วง 9 เดือนแรกปี 2568 เติบโตต่อเนื่อง 10.9% จากปีก่อนหน้า

ส่วนกลุ่มธุรกิจศูนย์การค้าได้รับแรงหนุนจากความสำเร็จของ “Jurassic World: The Experience” ที่สร้างประสบการณ์ความสุขรูปแบบพิเศษครั้งแรกของโลก ณ เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ โดยทำให้รายได้จากธุรกิจศูนย์การค้าเติบโตโดดเด่น 44% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน มียอดจำหน่ายบัตรเข้าชมมากกว่า 200,000 ใบภายในระยะเวลาเพียง 3 เดือน

นอกจากนี้ การขยายพอร์ตโฟลิโออย่างต่อเนื่องยังส่งผลให้มูลค่าทรัพย์สินรวมของบริษัทเพิ่มขึ้นเป็น 215,550 ล้านบาทในไตรมาส 3/2568 เติบโตมากกว่า 2 เท่าจากช่วงเปิด IPO และเพิ่มขึ้น 10.4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน สะท้อนถึงการเติบโตอย่างยั่งยืนทั้งในเชิงปริมาณและคุณภาพ

AWC ยังเดินหน้าขับเคลื่อนกลยุทธ์ Sustainable Growth-led Strategy เพื่อสร้างการเติบโตระยะยาวผ่านการเพิ่มมูลค่าทรัพย์สินคุณภาพ ทั้งจากการเติบโตแบบ Organic Growth และ Inorganic Growth โดยเร่งแปลงทรัพย์สินที่อยู่ระหว่างการพัฒนา (Developing) ให้กลายเป็นทรัพย์สินดำเนินงาน (Operating)

ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2568 บริษัทได้เพิ่มทรัพย์สินดำเนินงานเข้าสู่พอร์ตคุณภาพหลายแห่ง เช่น

  • โรงแรมมีเลีย พัทยา โฮเต็ล ประเทศไทย
  • โรงแรมจูบีลี เพรสทีจน์ รัชดาภิเษก
  • โรงแรมพัทยา แมริออท รีสอร์ต แอนด์ สปา
  • และโครงการ Jurassic World: The Experience

โดยมีมูลค่าทรัพย์สินรวมกว่า 10,000 ล้านบาท ซึ่งช่วยสร้างกระแสเงินสดให้กับบริษัทแม้อยู่ในภาวะตลาดที่ไม่แน่นอน นอกจากนี้ บริษัทยังเดินหน้าปรับกลยุทธ์ทางการตลาดและเพิ่มประสิทธิภาพทรัพย์สินในช่วงเริ่มต้นดำเนินงาน (Ramp-Up) ให้เข้าสู่ระดับการดำเนินงานเต็มรูปแบบ (BAU) เพื่อผลักดันอัตราผลตอบแทนกำไรจากการดำเนินงาน (EBITDA Yield) ให้เติบโตอย่างต่อเนื่องในระยะยาว

AWC ยังคงมีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง โดยมีอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อส่วนของผู้ถือหุ้นอยู่ที่ 0.91 เท่า ซึ่งดีกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรม

สรุป:
AWC แสดงศักยภาพการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งรายได้และกำไร แม้ภาวะเศรษฐกิจโลกยังไม่แน่นอน โดยได้รับแรงหนุนจากกลยุทธ์พัฒนาอสังหาริมทรัพย์คุณภาพสูงและการสร้างประสบการณ์ระดับโลกผ่านโครงการ “Jurassic World: The Experience” ซึ่งไม่เพียงสนับสนุนรายได้ของบริษัท แต่ยังเป็นส่วนหนึ่งของการผลักดันการท่องเที่ยวยั่งยืนของประเทศไทยด้วย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง