ธปท.ลุยโครงการปิดหนี้ไว KBANK–KTB โอกาสลด NPL

#ธปท. #ทันหุ้น - ธปท.เดินหน้าโครงการ “ปิดหนี้ไว ไปต่อได้” ช่วยลูกหนี้รายย่อย NPL กว่า 1.9 ล้านบัญชี มูลหนี้รวมกว่า 4.3 หมื่นล้านบาท ส่งต่อ SAM และ ARI AMC รับบทบริหารโครงสร้างหนี้แบบผ่อนปรน เริ่มดำเนินการมกราคม 2569 ด้านนักวิเคราะห์มองหนุนลด NPL ในระบบ เพิ่ม Coverage Ratio ธนาคารใหญ่ SCB–KBANK–KTB ได้ประโยชน์ แนะ “ซื้อ” KBANK เป้า 190 บาท, KTB เป้า 32 บาท ด้าน BAM–JMT รับแรงหนุนธุรกิจบริหารหนี้คึกคัก
นายวิทัย รัตนากร ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท เปิดเผยว่า โครงการ “ปิดหนี้ไว ไปต่อได้” เป็นมาตรการเฉพาะกิจที่จะดำเนินการเพียงครั้งเดียว โดยเน้นหนี้เสียที่ไม่มีหลักประกัน ซึ่งกลุ่มเป้าหมายคือลูกหนี้รายย่อยที่มีภาระหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPLs) ทุกประเภทสินเชื้อจากธนาคารพาณิชย์ทุกแห่งรวมกันไม่เกิน 100,000 บาทต่อราย ณ วันที่ 30 กันยายน 2568 ซึ่งมีจำนวนประมาณ 1.6 ล้านบัญบัญชี หรือ 1.2 ล้านราย ภาระหนี้ประมาณ 43,600 ล้านบาท โดยบริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด (SAM) จะรับซื้อหนี้ของลูกหนี้กลุ่มเป้าหมายข้างต้นมาปรับโครงสร้างหนี้แบบผ่อนปรนเพื่อให้ลูกหนี้กลับมาจ่ายชำระหนี้ได้
ทั้งนี้ ลูกหนี้ที่เข้าร่วมโครงการจะได้รับการปรับโครงสร้างหนี้แบบผ่อนปรนมากกว่าปกติเพื่อลดภาระหนี้ อาทิเช่น ยกเว้นดอกเบี้ยคงค้างทั้งหมดและค่าธรรมเนียม ลดยอดเงินต้นบางส่วน เป็นต้น ทำให้ลูกหนี้สามารถกลับมาจ่ายชำระได้และปิดจบหนี้ได้เร็วขึ้น รวมทั้งกลับมามีประวัติการชำระหนี้ในเครดิตบูโรที่ดีขึ้นและมีโอกาสเข้าถึงสินเชื่อในระบบได้อีกครั้ง
*ช่วยลูกหนี้รายย่อย
โดยมี 2 มาตรการ ได้แก่ 1.จ่ายปิดจบ ให้ลูกหนี้จ่ายชำระหนี้บางส่วนเพื่อปิดจบหนี้ในทันที และ 2.ผ่อนชำระหนี้เป็นงวด ให้ลูกหนี้ผ่อนชำระเป็นระยะเวลาสูงสุดถึง 3 ปีและจะได้รับการยกเว้นดอกเบี้ยเงินกูในระหว่างที่เข้าร่วมมาตรการ หากปฏิบัติได้ตามเงื่อนไข
สำหรับลูกหนี้ของสถาบันการเงินเฉพาะกิจ (SFIs) จะได้รับการช่วยเหลือผ่านกลไกการขายและโอนหนี้ให้กับบริษัท บริหารสินทรัพย์อารีย์ จำกัด (ARI-AMC) เพื่อปรับโครงสร้างหนี้แบบผ่อนปรนอีก 3.3 แสนบัญชี ซึ่งกระทรวงการคลังจะดำเนินการภายใต้หลักการและแนวทางการช่วยเหลือที่สอดคล้องกัน
“เมื่อรวมทั้งสิ้นโครงการ “ปิดหนี้ไว ไปต่อได้” จะช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อยได้มากถึง 1.9 ล้านบัญชี โดยจะเริ่มทยอยโอนหนี้จากธนาคารพาณิชย์ไปยัง SAM ได้ประมาณเดือนธันวาคม และ SAM จะเริ่มบริหารอย่างเป็นทางการ 5 มกราคม 2569 เบื่องต้นคาดหวังว่าจะประสบความสำเร็จกว่า 30%”
*ลด NPL ทั้งแบงก์-นอนแบงก์
นายตฤณ สิทธิสวัสดิ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ระบุ มาตรการดังกล่าวจะช่วยลดปริมาณหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ในระบบสถาบันการเงิน ช่วยให้ Coverage Ratio ดีขึ้นลดความเสี่ยงในการตั้งสำรองในอนาคต
เบื้องต้นคาดว่าโครงสร้าง Revenue Sharing ระหว่าง SAM กับสถาบันการเงิน จะเอื้อประโยชน์กับ NPL ที่มีการตั้งสำรองไปแล้ว รวมถึงอาจมีการเพิ่มเงื่อนไขที่น่าจูงใจขึ้นจากปกติ ทำให้ธนาคารพาณิชย์ยอมขาย NPL ให้กับ SAM เต็มจำนวนของมาตรการฯ ดังกล่าว
“โครงการดังกล่าว ถือเป็นกลไกเร่งกระบวนการขายหนี้เสียให้เร็วขึ้น และด้วยเงื่อนไขที่ยืดหยุ่นมากๆ จะช่วยให้ลูกหนี้ที่เข้าโครงการ จะสามารถกลับมาขอสินเชื่อใหม่จากธนาคารได้เร็วกว่ากระบวนการผ่อนชำระปกติ ซึ่งหากอ้างอิงจากบทสัมภาษณ์หากลูกหนี้ผ่อนชำระตรงเวลาประมาณ 3-6 เดือนก็สามารถปรับสถานะได้”
*แบงก์ใหญ่ได้ประโยชน์
สำหรับ หุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ที่ลูกหนี้สินเชื่อไม่มีหลักประกันจำนวนมาก ได้แก่ SCB, KBANK และ KTB มีโอกาสที่จะถ่ายโอนหนีเสียอออกจากธนาคารได้ แนะนำ “ซื้อ” KBANK ราคาเหมาะสม 190 บาท และ KTB ราคาเหมาะสม 32 บาท
ส่วนบริษัทบริหารสินทรัพย์ที่เป็นหนึ่งในกลไกสำคัญในการแก้หนี้อย่าง BAM ที่ถือหุ้นใน ARI AMC ในสัดส่วน BAM 50% ซึ่งจะได้รับโอนลูกหนี้จาก SFI ราคาเหมาะสม 9 บาท และ JMT ซึ่งมีโอกาสในการเข้าไปร่วมบริหาร NPL กับ SAM ซึ่ง IAA Consensus ให้ค่าเฉลี่ยราคาที่ 11.80 บาท
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
