ชงครม.ของบ1หมื่นล้านบาทอุ้มชาวไร่อ้อย2แสนราย
“สุริยะ”ชงครม.ของบหมื่นล้านบาทอุ้มชาวไร่อ้อย ทั้งช่วยปัจจัยการผลิต 6,500 ล้านบาทได้ทุกคน อีก 3,500 ล้านบาท ช่วยผู้ที่ส่งอ้อยสดเข้าหีบโรงงานน้ำตาล
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า เตรียมเสนอขอวงเงินช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อยสำหรับฤดูการผลิตปี 2562/63 วงเงินรวมประมาณ 10,000 ล้านบาท ในที่ประชุมครม.วันที่ 21 เมษายน แบ่งเป็น 2 วงเงิน วงเงินแรก 6,500 ล้านบาท เพื่อเป็นปัจจัยการผลิตสำหรับชาวไร่อ้อยทุกรายที่จดทะเบียนเป็นชาวไร่อ้อยและทำสัญญาส่งอ้อยเข้าโรงงานน้ำตาลก่อนเปิดหีบ มีจำนวนรวมประมาณ 200,000 ราย และวงเงินที่สอง 3,500 ล้านบาท เป็นเงินช่วยเหลือชาวไร่อ้อยที่ตัดอ้อยสดส่งเข้าโรงงานน้ำตาลทุกตันอ้อย โดยช่วยเหลือเป็นเงินในอัตราตันละ 93 บาท
“เงินดังกล่าวจะเป็นการช่วยให้ชาวไร่อ้อยมีสภาพคล่องที่เพิ่มขึ้นในฤดูการผลิตปี 62/63 ที่ราคาอ้อยขั้นต้นอยู่ที่ 750 บาทต่อตันถือเป็นราคาที่ค่อนข้างต่ำ ซึ่งเงินนี้จะทำให้ชาวไร่ได้นำไปบำรุงและดูแลอ้อยในฤดูใหม่ต่อไปและยังเป็นการส่งเสริมการตัดอ้อยสดของชาวไร่”นายสุริยะกล่าว
นายนราธิป อนันตสุข หัวหน้าสำนักงานสหพันธ์ชาวไร่อ้อยแห่งประเทศไทยและหัวหน้าสำนักงานสมาคมชาวไร่อ้อยเขต7 กล่าวว่า ชาวไร่อ้อยทั่วประเทศต่างรอวงเงินดังกล่าว เพื่อนำมาเสริมสภาพคล่องตั้งแต่ก่อนเปิดหีบอ้อยฤดูหีบปี 62/63 เพราะต้นทุนสูงขึ้น ประกอบกับรัฐส่งเสริมให้ตัดอ้อยสดตามมติครม.เมื่อปี 61 ขณะเดียวกันหลังปิดหีบแล้วผลผลิตอ้อยเองก็ลดลงเหลือเพียง 74.89 ล้านตันต่ำสุดรอบ 10 ปี ซึ่งทำให้ระบบอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายของไทยสูญเสียรายได้รวมแสนล้านบาท
“ขณะนี้ชาวไร่อ้อยเองก็กังวลที่ราคาน้ำตาลทรายตลาดโลกกลับมาลดต่ำ 9-10 เซนต์ต่อปอนด์จากที่เคยสูงถึง 15 เซนต์ต่อปอนด์เพราะโควิด-19ที่ทำให้การใช้น้ำตาลทั่วโลกลดลงไปมากเราก็หวังว่าเมื่อโควิด-19 คลี่คลายราคาน้ำตาลทรายจะกลับมาสูงกว่าเพราะไม่เช่นนั้นจะกระทบให้ราคาอ้อยขั้นต้นฤดูผลิตปี 63/64 ตกต่ำอีกปีหนึ่งได้อีก”นายนราธิปกล่าว
นายนราธิป กล่าวว่า ส่วนกรณีการตัดอ้อยสด เพื่อแก้ไขปัญหามลพิษฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน (พีเอ็ม 2.5) ตามที่สำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (สอน.) เสนอไว้ในฤดูการผลิตปี 63/64 ที่กำหนดให้ลดปริมาณอ้อยไฟไหม้เหลือ 20% ปริมาณอ้อยสด 80% ของปริมาณอ้อยเข้าหีบทั้งหมดนั้นเป็นไปตามกรอบมติครม.วันที่ 11 มิ.ย. 62 แต่ชาวไร่อ้อยเองได้เสนอที่จะขอให้ลดปริมาณอ้อยไฟไหม้เหลือ 40% อ้อยสดปริมาณ 60%
“ความเห็นชาวไร่อ้อยกับรัฐยังไม่ตรงกันในเรื่องของอ้อยไฟไหม้แต่ก็คงต้องทำตามที่รัฐกำหนดไปก่อนหากไม่ได้อย่างไรก็คงต้องมาดูปัจจัยต่างๆ โดยในฤดูหีบ 62/63 ที่เปิดหีบ 1 ธันวาคม 62 จนถึงวันที่ 25 มีนาคม 2563 มีปริมาณอ้อยไฟไหม้ 37,183,474 ตัน หรือคิดเป็น 49.65 % ก็ถือว่าใกล้เคียงเป้าหมายที่ตั้งไว้ 50%”นายนราธิปกล่าว