รีเซต

อิตาลีคุมโอมิครอนไม่อยู่ยอดติดเชื้อพุ่ง 2 เท่าใน 2 วัน จ่องัดกฏคุมเข้ม

อิตาลีคุมโอมิครอนไม่อยู่ยอดติดเชื้อพุ่ง 2 เท่าใน 2 วัน จ่องัดกฏคุมเข้ม
TNN ช่อง16
24 ธันวาคม 2564 ( 09:28 )
71
อิตาลีคุมโอมิครอนไม่อยู่ยอดติดเชื้อพุ่ง 2 เท่าใน 2 วัน จ่องัดกฏคุมเข้ม

วันนี้ ( 24 ธ.ค. 64 )สถาบันสุขภาพแห่งชาติ หรือไอเอสเอส (ISS) ของอิตาลี แถลงในวันพฤหัสบดีตามเวลาท้องถิ่นว่า ไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ “โอมิครอน” กำลังระบาดอย่างรวดเร็วในอิตาลี พร้อมเปิดเผยข้อมูลเบื้องต้นของผลสำรวจเร่งด่วน พบว่า มีผู้ติดเชื้อโอมิครอนร้อยละ 28 ในวันที่ 20 ธันวาคมที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นจากผลการสำรวจในวันที่ 6 ธันวาคม ซึ่งมีเพียงร้อยละ 0.19 เท่านั้น เมื่อเทียบรายงานสองชิ้นนี้ จะพบว่า ผู้ติดเชื้อไวรัสโอมิครอนเพิ่มขึ้นสองเท่าในทุก 2 วัน สอดคล้องกับสถานการณ์ที่พบและเกิดขึ้นในประเทศยุโรปอื่น ๆ เช่นกัน

ซิลวิโอ บรูซาเฟอร์โร ประธานไอเอสเอส กล่าวว่า แม้ว่าจะเป็นเพียงผลเบื้องต้น แต่การประมาณดังกล่าว ก็ยืนยันถึงความเร็วในการระบาดของไวรัสโอมิครอน ซึ่งน่าจะกลายเป็นสายพันธุ์หลักในระยะเวลาอันสั้นนี้

ข้อมูลดังกล่าว รายงานต่อรัฐบาลในช่วงเช้า ซึ่งคาดว่าจะมีการตัดสินใจอย่างใดอย่างหนึ่งเกี่ยวกับการใช้มาตรการใหม่เพื่อควบคุมการระบาดของไวรัส ในการประชุมคณะรัฐมนตรีในช่วงบ่ายของวันพฤหัสบดีตามเวลาท้องถิ่น

ไอเอสเอส บอกว่า การวิเคราะห์ครั้งนี้ อยู่บนพื้นฐานของการตรวจหาเชื้อแบบ สวอบประมาณ 2,000 ครั้ง ใน 18 ภูมิภาคของอิตาลี และผลสุดท้ายจะเผยแพร่ในวันที่ 29 ธันวาคม พร้อมระบุเพิ่มเติมว่า การสำรวจแบบรวดเร็วครั้งใหม่จะดำเนินการอีกครั้งในวันที่ 3 มกราคม

ด้านสำนักนายกรัฐมนตรีอิตาลี แถลงในวันพฤหัสบดีว่า อิตาลีเตรียมใช้มาตรกาคุมเข้มอีกครั้งเพื่อพยายามควบคุมจำนวนผู้ติดเชื้อโควิดที่กำลังเพิ่มขึ้น ซึ่งรวมทั้งการบังคับสวมหน้ากากอนามัยในที่โล่งแจ้ง ในสถานที่สาธารณะต่าง ๆ เช่นโรงละคร, โรงภาพยนตร์และสนามกีฬาอีกครั้ง

ทั้งนี้ อิตาลี ซึ่งเป็นประเทศตะวันตกชาติแรกที่เผชิญหน้ากับการระบาดของไวรัสโควิดเมื่อต้นปีที่แล้ว พบผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตรายใหม่กำลังเพิ่มสูงขึ้นในช่วงไม่กี่สัปดาห์มานี้ แต่จำนวนผู้ติดเชื้อรายวันถือว่ายังอยู่ในระดับต่ำกว่าประเทศยุโรปอื่น ๆ เช่นอังกฤษและเยอรมนี โดยในวันพุธที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิตจากโควิด 146 ราย เมื่อเทียบกับ 153 รายในวันก่อนหน้า ขระที่ ผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นเป็น 36,293 ราย จาก 30,798 รายในวันก่อน

ภาพจาก :  รอยเตอร์

 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง