TASCOเจาะตลาดมาร์จิ้นสูง ยอดขายปีหน้า1.3ล้านตัน
ทันหุ้น – TASCO มั่นใจยอดขายยางมะตอยทั้งปี 2564 ได้ตามเป้า 1.25 ล้านตัน ส่วนปีหน้าตั้งเป้ายอดขาย 1.25-1.3 ล้านตัน เน้นเจาะตลาดที่สามารถทำกำไรระดับสูง ขณะที่ยังติดตามราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกต่อเนื่อง พร้อมตั้งงบลงุทน 600-700 ล้านบาท ซื้อน้ำมันดิบเติมสต๊อกไม่น้อยกว่า 4 ลำเรือ ลำเรือละ 8 แสนบาร์เรล ย้ำกลยุทธ์ล็อกเป้าเฉพาะลูกค้าชั้นดีทั้งใน-ต่างประเทศ
นายชัยวัฒน์ ศรีวรรณวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทิปโก้แอสฟัลท์ จำกัด (มหาชน) หรือ TASCO เปิดเผยว่า บริษัทได้ปรับกลยุทธ์การผลิต การเลือกเจาะตลาดทั้งในประเทศและตลาดต่างประเทศ รองรับต้นทุนราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่เร่งตัวสูงขึ้นต่อเนื่องจากไตรมาส 3/2564 โดยจะเลือกจำหน่ายยางมะตอยให้กับบริษัทลูก หรือตัวแทนจำหน่ายในต่างประเทศโดยเฉพาะจีน, ออสเตรเลีย, เวียดนาม, รวมถึงในประเทศไทย ซึ่งไม่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19
ขณะเดียวกันบริษัทได้ปรับกลยุทธ์การผลิตด้วยการปิดโรงกลั่นในงวดไตรมาส 4/2564 ประมาณ 149 วัน เพื่อบริหารจัดการต้นทุนการดำเนินงาน และปริมาณยางมะตอยให้สอดคล้องกับความต้องการใช้ และราคาขายยางมะตอยที่แม้จะเร่งตัวขึ้นแตะ 450 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน สอดคล้องกับราคาน้ำมัน แต่บริษัทอาจจะมีผลขาดทุนจากการประกันความเสี่ยงราคาน้ำมันอยู่บ้าง เบื้องต้นบริษัทมั่นใจว่าจะมียอดขายยางมะตอยทั้งปี 2564 ที่ 1.2-1.25 แสนตัน
*เป้ายอดขาย 1.25-1.3 ล้านตัน
ทั้งนี้บริษัทตั้งงบลงทุนทั้งปี 2565 ประมาณ 600-700 ล้านบาท เพื่อซื้อน้ำมันดิบเข้ามาเติมสต๊อกไม่ต่ำกว่า 4 ลำเรือ ลำเรือละ 8 แสนบาร์เรล โดยจะเริ่มวางแผนจัดซื้อตั้งแต่ไตรมาส 1/2565 เป็นต้นไป โดยตั้งเป้ายอดขายทั้งปี 2565 ที่ 1.25-1.3 ล้านตัน โดยจะยังคงกลยุทธ์เลือกเจาะตลาดที่สามารถทำกำไรได้ในระดับสูง ทั้งในจีน, ออสเตรเลีย, กัมพูชา, เวียดนาม, รวมถึงในประเทศ ซึ่งจะยังคงเน้นการสร้างลูกค้าใหม่ผ่านบริษัทรับเหมาก่อสร้าง ควบคู่กับการบริหารจัดการกำลังการผลิตให้สอดคล้องกับยอดขายในแต่ละช่วง เพื่อรักษาอัตรากำไรให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม
“บริษัทยังคงใช้นโยบายเลือกตลาดขาย เพราะบริษัทไม่ต้องการเน้นปริมาณขายแต่จะมุ่งเน้นกำไรมากกว่า บริษัทจะไม่ขายในตลาดเทรดดิ้งเพราะเป็นตลาดที่มีการแข่งขันสูง ขณะที่บริษัทเลือกขายให้กับลูกค้าที่สามารถขายได้ราคาสูงกว่าตลาดเทรดดิ้ง ส่วนน้ำมันดิบที่เป็นวัตถุดิบหลักนั้น บริษัทยังมีสต๊อกน้ำมันที่ราคาถูกอยู่มากพอที่จะเฉลี่ยต้นทุนวัตถุดิบให้ไม่สูงเท่าราคาตลาดโลก ขณะเดียวกันราคายางมะตอยก็เริ่มปรับตัวขึ้นสอดคล้องกับต้นทุนน้ำมันแล้ว”
*เคาะเป้า 21.50 บาท
บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) คาดการณ์แนวโน้มผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 4/2564 ของ TASCO จะฟื้นตัวดีขึ้น หนุนจากราคายางมะตอยตลาดต่างประเทศที่ปรับตัวสูงขึ้น ปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 455ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน เพิ่มขึ้น 16% QTD รวมถึงราคาในประเทศปรับขึ้นประมาณ 10% QTD คาดว่าจะเป็นปัจจัยหนุนให้กำไรในงวดไตรมาส 4/2564 ดีขึ้น เบื้องต้นคงประมาณการกำไรทั้งปี 2564 ที่ 2,443 ล้านบาท ลดลง 31% YoY
ทั้งนี้ ผู้บริหารให้ข้อมูลว่า ณ ปัจจุบันบริษัทมีสต๊อกน้ำมันดิบเพียงพอที่จะกลั่นเป็นยางมะตอยได้ถึงไตรมาส 1/2565 โดยจะวางแผนจัดซื้อน้ำมันดิบใหม่ภายในไตรมาส 1/2565 คาดว่ากรณีการแซงก์ชั่นระหว่างสหรัฐกับเวเนซุเอลา จะคลี่คลายลงหลังเวเนซุเอลาจัดให้มีการเลือกตั้งในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน 2564 นี้ เนื่องจากน้ำมันดิบที่ได้จากเวเนซุเอลา มีความเหมาะสมที่จะกลั่นยางมะตอยมากกว่าน้ำมันดิบที่ได้จากแหล่งอื่น รวมถึงมีราคาต่ำกว่าอีกด้วย จึงคงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเหมาะสม 21.50 บาท