เรียนรู้ประวัติศาสตร์ผ่านพืชพรรณธรรมชาติกันสักหน่อย เรื่องเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องไกลตัว เพราะพืชหลายชนิดที่เราเห็นกันทุกวันนี้ เมื่อค้นบันทึกอย่างถี่ถ้วน จะพบว่าสามารถพาเราย้อนไปไกลได้ถึงประวัติศาสตร์ยุคโบราณกันเลยทีเดียว น่าเสียดายที่เรื่องราวเหล่านี้ไม่ค่อยปรากฎให้เห็นในตำราเรียนมากนัก แต่ด้วยปัจจุบันข้อมูลข่าวสารบนโลกออนไลน์นั้นเข้าถึงง่ายเพียงปลายนิ้ว หลายคนจึงอาจจะรู้จักกับ หญ้าฝรั่น (Crocus Saffron) ในฉายาที่ว่าเป็นเครื่องเทศที่ราคาแพงที่สุดในโลกรูปภาพโดย Dominik Resĕk : Unsplashหญ้าฝรั่น อ่านว่า ย่า-ฝะ-หรั่น ปัจจุบันเป็นข่าวอึกทึกครึกโครมสะเทือนแวดวงพืชพรรณทั่วโลก ด้วยราคาต่อกิโลกรัมที่มีมูลค่าสูงกว่าทองคำน้ำหนักหนึ่งบาท บางชนิดมีมูลค่าสูงพอกับเพชรเม็ดเป้ง เป็นวัตถุดิบชั้นสูงที่ราคาสูงตาม แต่หากรู้ถึงกรรมวิธีการปลูก สรรพคุณ และประวัติความเป็นมาของมันแล้วจะหายงง ว่าทำไมมันจึงเป็นพืชที่ราคาสูงขนาดนี้หญ้าฝรั่นเป็นพืชที่แพร่หลายไปยังภูมิภาคต่าง ๆ แต่ละพื้นที่ใช้ประโยชน์จากหญ้าฝรั่นต่างกัน ในยุคกรีกโรมัน หญ้าฝรั่นไม่ใช่พืชที่หากันได้ง่าย ๆ ต้องส่งข้าราชบริพารขึ้นไปเก็บบนยอดเขาสูง เฉพาะพวกขุนน้ำขุนนางและชนชั้นปกครองเท่านั้นที่จะได้ใช้ประโยชน์จากหญ้าฝรั่น ส่วนใหญ่จะใช้ทำยา และใช้ปรุงอาหารเลี้ยงแขกต่างเมือง จะนำมาใช้ฟุ่มเฟือยไม่ได้ เพราะส่วนที่สามารถนำมาใช้ได้คือเกสรดอกหญ้าฝรั่นที่เป็นเกสรตัวเมียเท่านั้น และต้องเกณฑ์แรงงานมาเด็ดเกสรเป็นเรื่องเป็นราว ดอกหญ้าฝรั่น 200,000 ดอก จะให้เกสรที่ใช้ประโยชน์ได้เพียง 1 กิโลกรัมเท่านั้น เรียกว่าเด็ดกันยันสว่างไปเลยทีเดียวรูปภาพโดย Mister Starman : Unsplashการแย่งชิงหญ้าฝรั่นในสมัยนั้นไม่ต่างกับการแย่งชิงทองคำหรือเพชรพลอย มีเรื่องเล่าว่าหญ้าฝรั่นสูญพันธุ์ไปในยุโรประยะหนึ่ง ก่อนที่จะกลับเข้ามาอีกครั้งโดยพวกครูเสด นอกจากจะใช้ทำยาแล้ว พวกแขกมัวร์ยังใช้หญ้าฝรั่นในการดองเหล้า แต่งสีอาหารและขนมหวานให้สวยงามน่ารับประทาน ชาวสเปนดั้งเดิมใช้หญ้าฝรั่นผสมลงในน้ำอบ และแต่งกลิ่นเครื่องหอมในห้องหับให้รู้สึกผ่อนคลายรูปภาพโดย Xtendo : Pixabayหญ้าฝรั่นที่มีคุณภาพราคาประมาณกิโลกรัมละ 400,000 บาท ส่วนใหญ่เป็นหญ้าฝรั่นที่มาจากอิหร่าน ในหนึ่งปีสามารถเก็บดอกหญ้าฝรั่นได้ครั้งเดียวคือช่วงฤดูใบไม้ร่วงเท่านั้น และเมื่อได้ดอกสดมาแล้ว ต้องเด็ดเฉพาะยอดเกสรตัวเมีย นำไปคั่วเพื่อสะกัดน้ำมันหอมระเหย จากนั้นนำไปตากแห้งแล้วบรรจุส่งจำหน่าย ปัจจุบันถือเป็นอุตสาหกรรมส่งออกที่สำคัญของอิหร่าน เป็นอาชีพที่สร้างรายได้มหาศาล ยิ่งมีที่ดินปลูกมากเท่าไร ยิ่งทำกำไรได้มากเท่านั้นหญ้าฝรั่นในบ้านเราแพร่หลายมานานแล้ว แต่ด้วยราคาที่สูงมาก ชาวบ้านจึงไม่นิยมนำมาใช้ประโยชน์ ระยะหนึ่งหญ้าฝรั่นใช้ย้อมสีจีวร แต่มาแพร่หลายในแวดวงอาหาร ต้นตระกูลบุนนาคนำเข้ามาจากเปอร์เซีย นำมาใช้หุงข้าวบุหรี่หรือข้าวหมกไก่เปอร์เซีย เพราะนอกจากจะให้สีสันที่สวยงามแล้ว ยังให้กลิ่นที่หอมหวนชวนรับประทานเป็นอย่างยิ่ง หญ้าฝรั่นจึงเป็นวัตถุดิบชั้นสูงที่นิยมใช้ในรั้วในวัง หรือตระกูลผู้รากมากดีเพียงเท่านั้นในอดีตรูปภาพโดย Xtendo : Pixabayปัจจุบันหญ้าฝรั่นยังคงครองแชมป์เครื่องเทศราคาสูงที่สุดในโลก ด้วยสรรพคุณที่ครอบคลุมทั้งการเป็นวัตถุดิบในครัว และใช้เป็นสมุนไพรรักษาโรคได้หลายชนิด ทั้งบำรุงสายตา ต้านอนุมูลอิสระ ต้านมะเร็ง และรักษาสารพัดโรค ส่วนใหญ่ที่เราเห็นวางขายตามร้านขายยา เป็นหญ้าฝรั่นที่ปลูกตามแถบอินเดียซึ่งมีราคาถูกกว่า ใครอยากลองนำมาใช้บำรุงร่างกายหรือปรุงอาหาร ลองจับจ่ายซื้อหากันได้ แอบเห็นว่าในร้านค้าออนไลน์ก็เริ่มวางจำหน่ายบ้างแล้ว เชื่อว่าจะเป็นพืชที่มีสรรพคุณล้ำค่าไม่แพ้ราคาอย่างแน่นอนรูปภาพหน้าปกโดย Mahdi Dastmard : Unsplash