“...สวัสดีค่ะ วันนี้พี่ของขวัญจะมารีวิวแหล่งเรียนรู้ของเด็ก ๆ ในจังหวัดขอนแก่น กันค่ะ นั่นก็คือ พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยา มหาวิทยาลัยขอนแก่น หรือที่เด็ก ๆ อย่างหนูเรียกกันติดปากว่า พิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ มข. นั่นเองค่ะ อย่าลืมกดไลค์ กดแชร์ กดติดตามเป็นกำลังใจให้หนูกันเยอะ ๆ นะคะ...” แม่ได้แต่อมยิ้ม แล้วก็อดที่จะหัวเราะไปกับความช่างพูด ช่างเจรจาของลูกสาววัย 4 ขวบคนนี้ไม่ได้ เกือบทุกครั้งที่ได้ของเล่นใหม่ หรือการได้ไปสถานที่ใหม่ ๆ ลูกสาวแม่จะพูดบรรยายเสียงเจื้อยแจ้วแบบนี้แทบทุกครั้ง สงสัยจะจำมาจากช่องยูทูปเด็กที่เคยดูเป็นแน่ใช่แล้วค่ะ...วันนี้เราสองแม่ลูกจะพาทุกคนมาทำความรู้จักกับ “พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยา อพ.สธ. มหาวิทยาลัยขอนแก่น” (Natural History Museum) แหล่งเรียนรู้สำหรับทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่มหาวิทยาลัยขอนแก่นค่ะ พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาฯ เกิดขึ้นมาภายใต้แนวคิดการนำเสนอผลงานวิจัยในโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี (อพ.สธ.) ซึ่งการศึกษาวิจัยนี้ครอบคลุมพื้นที่ 3 จังหวัดของภาคอีสาน คือ จังหวัดขอนแก่น จังหวัดชัยภูมิ และจังหวัดอุบลราชธานี โดยการจัดแสดงมี 2 ชั้น ชั้นล่างคือโซน A-F ชั้น 2 เป็นโซน G-J และมีพื้นที่สวนหย่อมขนาดใหญ่กลางแจ้ง อยู่บริเวณวงล้อมกึ่งกลางอาคาร จัดให้เป็นสวนจำลองยุคดึกดำบรรพ์ มีไดโนเสาร์ตัวโตสองตัวยืนตระหง่านท่ามกลางแมกไม้โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ จึงเป็นที่มาของชื่อเรียกติดปากของเด็ก ๆ ที่เข้ามาที่นี่ว่า “พิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ มข.” นั่นเองค่ะก่อนจะเข้าสู่พื้นที่จัดแสดงของแต่ละโซน บริเวณด้านหน้าหลังจากผ่านประตูอาคารเข้าไป ฝั่งซ้ายมือจะเป็นจุดประชาสัมพันธ์และจำหน่ายตั๋วเข้าชม โดยราคาค่าเข้าชม ผู้ใหญ่จะอยู่ที่ 40 บาท เด็ก 10 บาท ราคาเดียวกันทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ฝั่งขวามือจะเป็นร้านขายของที่ระลึก น้ำ ขนม สำหรับเด็ก ๆ และผู้เยี่ยมชม โดยในการเข้าชมพิพิธภัณฑ์ช่วงวันหยุด จะมีนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยขอนแก่น ที่ได้รับการอบรม มายืนเป็นมัคคุเทศก์ประจำในแต่ละโซน คอยอธิบายเรื่องราวความรู้ให้กับผู้เข้าชมค่ะการเข้าชมจะเริ่มที่ประตูทางซ้ายมือ ถัดจากจุดจำหน่ายตั๋ว โดยจะมีสติ๊กเกอร์ที่เป็นรอยเท้าของพี่ไดโนเสาร์นำทางให้เด็ก ๆ ได้เดินตามไปทีละโซน มาค่ะเด็ก ๆ ...เดินตามรอยเท้าพี่ไดโนเสาร์ ไปกันเล้ยย....ชั้น 1 เริ่มต้นกันที่ โซน A คือ บริเวณโถงต้อนรับและประชาสัมพันธ์ จุดนี้จะมีการฉายวีดีทัศน์แนะนำความเป็นมาของพิพิธภัณฑ์ฯ มีผังนิทรรศการภายในแบบถาวร และถัดไปเป็นโซน B ที่เป็นการจัดแสดงนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และโครงการอนุรักษ์พันูุกรรมพืชฯ (อพ.สธ.) โดยจะมีการนำเสนอภาพพระราชกรณียกิจของพระองค์ แสดงเนื้อหาที่มา เป้าหมาย วัตถุประสงค์ ผังองค์กร กรอบการดำเนินงาน และกิจกรรมของ อพ.สธ.ทั้งหมดโซน C นิทรรศการผลงานการสนองพระราชดำริ อพ.สธ.ของมหาวิทยาลัยขอนแก่น ซึ่งจัดแสดงงานวิจัยของมหาวิทยาลัยขอนแก่นที่ดำเนินงานวิจัยภายใต้ชุดโครงการ อพ.สธ.-มข. และเป็นผลงานวิจัยการค้นพบชนิดพันธุ์ใหม่ ของพืช สัตว์ จุลินทรีย์ การวิจัยความหลากหลายของทรัพยากร และการนำไปใช้ประโยชน์ที่สำคัญ ๆ ในพื้นที่ปกปักพันธุกรรมพืชในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พร้อมทั้งมีการจำลองพื้นที่ดำเนินการศึกษาวิจัยของมหาวิทยาลัยขอนแก่นโซน D นิทรรศการกำเนิดสุริยจักรวาล นำเสนอเรื่องราวการกำเนิดจักรวาล ระบบสุริยะ และการกำเนิดของโลก ซึ่งเป็นจุดกำเนิดของสิ่งมีชีวิตทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นพืชหรือสัตว์ ในรูปแบบของการฉายภาพยนตร์ให้ความรู้ เรื่อง การกำเนิดเอกภพโลกและแผ่นดินอีสานโซน E นิทรรศการวิวัฒนาการของภาคอีสาน เริ่มตั้งแต่การเปลี่ยนแปลงของเปลือกโลก การยกตัวของพื้นดินขึ้นจากทะเล การเกิดภูเขาเพชรบูรณ์ ดงพญาเย็น และพนมดงรัก การเป็นถิ่นที่อยู่อาศัย (Habitat) ของไดโนเสาร์ ประวัติศาสตร์สำคัญในยุคต่าง ๆ ของภูมิภาคอีสาน นำเสนอการใช้ทรัพยากร พร้อมแบบจำลองแสดงการทำเหมืองเกลือหิน และการขุดเจาะก๊าซธรรมชาติ ในภาคอีสาน และการจัดแสดงหินมีค่า สินแร่ ที่สำคัญในภาคอีสานจากนั้นจะเป็น โซน F นิทรรศการสรรพสิ่งล้วนพันธุ์ เป็นการนำเสนอโครงสร้างของระบบนิเวศและสังคมป่าแบบต่าง ๆ ที่พบในภาคอีสาน โดยเรียงลำดับตามระดับความสูงจากระดับน้ำทะเล เริ่มจาก 1) ป่าบุ่งป่าทาม 2) ที่ราบ เช่น ทุ่งกุลาร้องไห้ 3) ป่าเต็งรัง 4) ป่าเบญจพรรณ 5) ป่าดิบแล้ง และ 6) ป่าสนเขา โดยอธิบายองค์ประกอบ โครงสร้าง พรรณไม้เด่น และสัตว์ป่าที่พบมากในป่าแต่ละประเภท พร้อมทั้งมีการจำลองตัวอย่างได้อย่างสมจริง เด็ก ๆ ชอบโซนนี้มากพอขึ้นมาชั้นสอง คือ โซน G เป็นนิทรรศการเปิดโลกมหัศจรรย์สิ่งมีชีวิต มุมที่สะดุดตาน่าสนใจของเด็ก ๆ คือ สิ่งมีชีวิตขนาดเล็กอย่างแมลง ด้วยการจัดแสดงที่น่าสนใจ มีแว่นขยายให้เด็ก ๆ ได้ลองส่อง สำรวจแมลงตัวเล็ก ๆ ที่ลอยอยู่ในของเหลวกลางขวด ซึ่งเป็นเทคนิคพิเศษจากการผสมสารเคมี มีทั้งแมลงน้ำ แมลงที่อยู่ในป่าและแมลงเกษตร ตัวอย่างเช่น เหรียญน้ำ มวนวน มวนจิงโจ้น้ำเล็ก มวนคางคก มวนกิ่งไม้ ด้วงน้ำไหล ด้วงสี่ตา ตัวอ่อนแมลงช้างปีกใส ตัวอ่อนแมลงสโตนฟลาย เป็นต้น อีกมุมของสัตว์ที่จัวใหญ่ขึ้นที่นี่จะนำเสนอในรูปแบบของการสตัฟฟ์ ซึ่งมีทั้งสัตว์ป่าอย่างกวาง ลิง สัตว์เลื้อยคลานพวกเต่า สัตว์ปีกหายากแบบนกกระเรียน ที่เป็นสัตว์ใหญ่เป็นช้างทั้งตัวก็มีให้ดูในส่วนของนิทรรศการหมุนเวียนของสัตว์ ในโซน H ให้ชื่อว่าสถาปัตยกรรมธรรมชาติ โมเดลจอมปลวกดูน่าสนใจมาก ทำให้เห็นโครงสร้างทางเดินในรัง ได้เห็นตัวอ่อนและนางพญา โซนนี้ยังรวมเรื่องวิถีชีวิตของคนอีสานที่มีการเลี้ยงไหม แล้วนำไปทอเป็นผ้าไหมอีกด้วย ต่อมาเป็นโซน I ดุลยภาพระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติ มีการนำเสนอเทคโนโลยีที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม จัดแสดงรถพลังงานไฟฟ้า รถไฮโดรเจน การทำเกษตรอินทรีย์ ตามหลักการเศรษฐกิจพอเพียง อีกส่วนหนึ่งคือ โซน J เป็นส่วนจัดกิจกรรมสำหรับเยาวชน เรียกว่า ห้องปฏิบัติการนักชีววิทยาน้อยและศูนย์ข้อมูลลายพิมพ์ดีเอ็นเอ และอีกส่วนหนึ่งที่มีพื้นที่กว้างขวางพอสมควรคือ ส่วนจัดนิทรรศการหมุนเวียน ที่จะมีนิทรรศการต่าง ๆ ที่มีประโยชน์สำหรับเด็ก ๆ หมุนเวียนเปลี่ยนไปเรื่อย ๆหลังจากเด็ก ๆ ชมครบทุกโซน ที่ทางพิพิธภัณฑ์จัดแสดงแล้ว จะมีทางเดินเพื่อกลับลงมาชั้นล่าง และมีรอยเท้าพี่ไดโนเสาร์นำทางไปที่ทางออกที่ชั้น 1 เช่นเดิมค่ะ แต่ก่อนที่จะถึงทางออก ระหว่างทางจะมีโซนพักผ่อนสำหรับเด็ก ๆ หรือผู้เยี่ยมชม ที่เหน็ดเหนื่อยจากการเดิน ให้มานั่งพักผ่อนกันก่อนกลับบ้านค่ะ นอกจากจะมีของเล่น อาทิ กระบะทรายค้นหากระดูกไดโนเสาร์ ลานของเล่นเสริมทักษะเสริมพัฒนาการสำหรับเด็ก ในบางสัปดาห์ทางพิพิธภัณฑ์ยังจัดกิจกรรมพิเศษสำหรับเด็กและมีพี่ ๆ นักศึกษามหาวิทยาลัยขอนแก่นมาพาเด็ก ๆ ทำกิจกรรมสนุก ๆ และได้ความรู้อีกด้วยค่ะสำหรับครอบครัวไหนที่จะพาเด็ก ๆ มาเยี่ยมชมแหล่งเรียนรู้ พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยา มหาวิทยาลัยขอนแก่น สามารถติดตามข้อมูลข่าวสาร ความเคลื่อนไหวกิจกรรมได้ที่ Face Book: https://www.facebook.com/naturalhistotrymuseumkku/ เชื่อว่าที่นี่ น่าจะเป็นพื้นที่เรียนรู้ดี ๆ ที่เด็ก ๆ และผู้ปกครองมาแล้ว ต้องเรียกร้องอยากกลับมาอีกแน่นอนค่ะ พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยา มหาวิทยาลัยขอนแก่นที่อยู่และเบอร์ติดต่อ123 ถ.มิตรภาพ ตำบลในเมือง อำเภอเมืองขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น 40002โทรศัพท์ : 043-009 700 ต่อ 45596โทรสาร : 043-202 155เว็บไซต์ : https://rspg.kku.ac.th/อีเมล : zocon@live.comFace Book: https://www.facebook.com/naturalhistotrymuseumkku/วันและเวลาทำการวันอังคาร - อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ตั้งแต่เวลา 10.00 - 20.00 น.ค่าเข้าชม ชาวไทย และชาวต่างชาติ: ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 10 บาทข้อมูลสำหรับผู้พิการมีบริการรถวีลแชร์หรือรถเข็นสำหรับผู้พิการสิ่งอำนวยความสะดวกมีลานจอดไว้ไว้บริการ สามารถจอดได้ตั้งแต่รถจักรยานยนต์ไปจนถึงรถโค้ช จำนวน 3 ลานจอดรถ เรื่อง ภาพและกราฟฟิก โดยผู้เขียน