กรุงมะนิลา กลายเป็นเมืองร้างจากมาตรการล็อกดาวน์

Philippines: กรุงมะนิลา เมืองหลวงของฟิลิปปินส์กลายเป็นเมืองร้าง จากมาตรการล็อกดาวน์เข้มข้นเป็นเวลาสองสัปดาห์ ที่รัฐบาลฟิลิปปินส์บังคับใช้ตั้งแต่วันก่อน เพื่อควบคุมการระบาดระลอกใหม่ของโควิด-19

ภาพที่บันทึกจากอากาศยานไร้คนขับหรือโดรน จะเห็นได้ว่ากรุงมะนิลาในตอนนี้มีสภาพเหมือนเป็นเมืองร้าง ถนนสายต่าง ๆ ว่างเปล่าไร้ยวดยานและผู้คน 

แม้แต่ถนนเอปีฟานีโอ เด ลอส ซันโตส ถนนกึ่งวงแหวนซึ่งถือเป็นถนนสายสำคัญในย่านเมโทรมะนิลา ก็มียวดยานแทบจะนับคันได้ และต่างเป็นรถที่ได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่เป็นกรณีพิเศษให้สามารถสัญจรได้ โดยจะมีด่านตรวจของเจ้าหน้าที่ตรวจตราตามจุดต่าง ๆ เพื่อให้แน่ใจว่ามีเพียงบุคลากรการแพทย์และเจ้าหน้าที่ด่านหน้าที่ออกมาปฏิบัติหน้าที่ 

ส่วนชาวบ้านทั่วไปจะต้องอยู่แต่ภายในบ้านหรืออาคารเท่านั้น รวมถึงยังใช้มาตรการเคอร์ฟิวห้ามออกนอกเคหะสถาน 8 ชั่วโมงในตอนกลางคืน แต่อนุญาตให้ธุรกิจจำเป็นดำเนินกิจการได้ในระยะ 2 สัปดาห์ข้างหน้า

ผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขออกมาเตือนก่อนหน้านี้ว่า หากไม่เริ่มต้นล็อกดาวน์กรุงมะนิลาอีกครั้ง การปะทุขึ้นของยอดติดเชื้อโควิดกลายพันธุ์ Delta จะทำให้สาธารณสุขของเมืองหลวงฟิลิปปินส์ล่มสลาย หลังจากช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ฟิลิปปินส์พบผู้ติดเชื้อโควิดกลายพันธุ์ Delta กว่า 330 ราย และเกรงว่าจะกลายเป็นสายพันธุ์หลักในประเทศ 

ขณะที่เมื่อวันอาทิตย์ (9 สิงหาคม) พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ทั่วประเทศ 9,671 คน เพิ่มยอดผู้ติดเชื้อสะสมเป็นกว่า 1.66 ล้านคน และมีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 287 คน มากที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 9 เมษายนที่ผ่านมา เพิ่มยอดผู้เสียชีวิตพุ่งเป็นกว่า 29,000 คนแล้ว

อย่างไรก็ดี หลายฝ่ายแสดงความกังวลว่า มาตรการล็อกดาวน์และจำกัดพื้นที่รอบใหม่ ที่มีเป้าหมายปกป้องเศรษฐกิจกรุงมะนิลาที่คิดเป็นสัดส่วน 1 ใน 3 ของทั้งประเทศ อาจจะทำให้เศรษฐกิจทรุดหนักกว่าเดิม จากที่มาตรการครั้งก่อนของฟิลิปปินส์ ซึ่งรวมถึงการห้ามเด็กและเยาวชนออกมาทำกิจกรรมนอกบ้าน ทำให้ชาวฟิลิปปินส์หลายล้านคนต้องตกงาน