สำรวจราคาหน้ากากอนามัยรับมือ Covid-19 ระรอกใหม่!

        ปัจจุบันปัญหาขาดแคลนหน้ากากอนามัยหรือ ขาดตลาดนั้น ไม่ได้มีให้เห็นแล้ว อาจจะด้วยการปรับตัวของตลาดทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย ที่ทำให้ดีมานด์และซัพพลายเริ่มสมดุลกัน ประกอบกับสถานการณ์โควิดทั่วโลกเองก็เริ่มคลี่คลายลงบ้าง การใช้ชีวิตของประชาชนก็กลับมาเป็นปกติ แต่ยังอยู่ภายใต้ความระมัดระวัง แม้จะไม่ได้ถึงขั้นล็อกดาวน์ตามเมืองต่างๆเหมือนช่วงที่สถานการณ์รุนแรงก็ตาม 

        ในช่วงที่ผ่านมาต้องยอมรับว่าคนไทยคุ้นชินกับการใช้ชีวิตแบบ New Normal หรือ จะเรียกได้ว่าเป็นวิถีแบบ Next  Normal ก็ได้ เพราะกิจกรรมที่ถือเป็นเรื่องปกติใหม่ ยังต้องเรียนรู้และปรับตัวกันอีกเรื่อยๆ ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในพื้นที่ภาคเหนือบ้านเรา ทำให้หลายคนกลับมากังวลว่าการแพร่ระบาดคราวนี้จะกลับมาโหมกระหน่ำกันอีกระรอก ขณะเดียวกันสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5  ก็เริ่มวนกลับมาอีกครั้ง ดังนั้นหน้ากากอนามัยจึงกลายเป็นสิ่งจำเป็นต้นๆในชีวิตประจำวันของเราไปแล้ว 

 หน้ากากอนามัยมีทั้งหมด 5 แบบ แล้วแต่ลักษณะการใช้งาน 

1. หน้ากากอนามัยสำหรับใช้ทางการแพทย์

        หน้ากากอนามัยประเภทนี้ผลิตขึ้นจากผ้าหรือพอลิโพรไพลีน ซึ่งเป็นพลาสติกที่มีความปลอดภัยต่อผู้ใช้ช่วยป้องกันโรคที่เกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ ป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อไวรัสจากคนสู่คนได้ถึง 99%  นิยมใช้การในโรงพยาบาล และองค์กรสาธารณสุขต่าง ๆ  

2. หน้ากากอนามัยแบบกันฝุ่นทั่วไป หรือหน้ากากผ้า

        หน้ากากแบบนี้มีให้เลือกด้วยกัน 2 แบบ แบบแรกผลิตจากผ้าฝ้าย ใช้สําหรับป้องกันฝุ่นละออง และป้องกันการกระจายของน้ำมูกหรือน้ำลายจากการไอ จาม แต่ไม่สามารถกรองเชื้อโรคที่มีขนาดเล็กมาก ๆ ได้ แบบที่สองผลิตจากใยสังเคราะห์ซ้อนทบชั้นกัน กรองฝุ่น ช่วยป้องกันเชื้อโรคจําพวกเชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อรา

3. หน้ากากอนามัย N95

        หน้ากากชนิดนี้มีลักษณะครอบลงไปที่บริเวณปาก และจมูกอย่างมิดชิด มีประสิทธิภาพสูงกว่าแบบทั่วไป ช่วยป้องกันเชื้อโรคที่มีขนาดเล็กมาก ๆ ได้ นิยมใช้ในวงการแพทย์ที่ต้องการความปลอดภัยจากการติดเชื้อสูง เช่น การป้องกันเชื้อวัณโรค หรือเชื้อแอนแทรกซ์ และบุคลากรที่ทำงานเกี่ยวกับสารเคมีก็นิยมใช้เช่นกัน

4. หน้ากากอนามัย ประเภท FFP1

        ประสิทธิภาพใกล้เคียงกับ N95 สามารถช่วยป้องกันทั้งฝุ่น เชื้อแบคทีเรีย และเชื้อไวรัสได้อย่างมีประสิทธิภาพสูง ดัก จับอนุภาคขนาดเล็ก PM 2.5 และ PM10 ไม่น้อยกว่า 94% 

5. หน้ากากอนามัยคาร์บอน

        คุณสมบัติไม่ต่างจากหน้ากากอนามัยทางการแพทย์แต่จะมีความพิเศษมากขึ้นมาเพราะมีชั้น Carbon ที่สามารถกรองกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ได้ดีกว่าแบบทั่วไป มีความหนาเส้นใยสังเคราะห์ถึง 4 ชั้น สามารถกรองเชื้อแบคทีเรียได้ถึง 95%

10 อันดับหน้ากากอนามัยที่ขายดีในปีที่ผ่านมา 

        อย่างที่ทราบกันว่าปัจจุบันหน้ากากอนามัยหาซื้อได้ง่ายขึ้น ไม่สะดวกก็สั่งซื้อกันได้ตามร้านค้าออนไลน์ ซึ่งจากการสำรวจของเว็บไซต์ ipricethailand.com พบว่าในปีที่ผ่านมามีหน้ากากอนามัยที่ได้ได้รับความนิยมและขายดีที่สุด บนแพลตฟอร์มร้านค้าออนไลน์ อาทิ Shoppee ,Lazada ทั้งหมด 10 อันดับ ดังนี้ 

    1.3M หน้ากากอนามัย Nexcareราคา 90 บาท /3 ชิ้น

    2.3M หน้ากากอนามัย รุ่น N95 8210V63 บาท  /1ชิ้น

    3.3M หน้ากากอนามัย รุ่น VFlex 910560 บาท /1ชิ้น 

    4.3M หน้ากากอนามัย N9560 บาท  / 1 ชิ้น

    5.GQ หน้ากากอนามัย กันน้ำ109 บาท เท่าเดิม /1 ชิ้น

    6.3M หน้ากากอนามัย รุ่น N95 821060 บาท /1 ชิ้น

    7.3M หน้ากากอนามัย รุ่น 9001V64 บาท  /1 ชิ้น

    8.3M หน้ากากอนามัย รุ่น Aura 9320A60 บาท /1 ชิ้น

    9.3M หน้ากากอนามัย รุ่น 9541V65  บาท / 1 ชิ้น  

    10.Dr. Pong หน้ากากอนามัย รุ่น Nano Zinc 145  บาท  /1 ชิ้น

        
        อย่างไรก็ตาม ในช่วงหลายวันที่ผ่านมาจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ได้เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะที่จังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งหลังจากที่มีข่าวอย่างเป็นทางการออกมาจึงทำให้ประชาชนกลับมากังวลอีกครั้ง และเป็นห่วงกันว่าราคาหน้ากากอนามัยจะกลับมาพุ่งสูงขึ้นอีกเหมือนเมื่อครั้งโควิด-19 ระบาดใหม่ๆในช่วงต้นปี  เผลอๆอาจจะต้องมีการล็อกดาวน์กันอีกรอบ ซึ่งมีการแชร์กันบนโลกออนไลน์ เกี่ยวกับราคาหน้ากากอนามัยที่พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วภายหลังจากข่าวพบผู้ติดเชื้อที่สมุทรสาคร 

        โดยมีผู้ใช้ทวิตเตอร์หลายราย โพสต์ข้อมูลว่า ราคาหน้ากากอนามัยก่อนการแถลงข่าวพบผู้ติดเชื้อโควิด 1 กล่องบรรจุ 50 ชิ้น ราคา 80 บาท แต่หลังจากแถลงข่าวพบผู้ติดเชื้อราคาพุ่งขึ้นเป็น 222 บาท   และผู้ใช้ทวิตเตอร์อีกรายได้มีการกดสั่งซื้อไปในแพลตฟอร์ร้านค้าออนไลน์ และเมื่อจะยืนยันออเดอร์กลับพบว่าราคาปรับขึ้นมาทันที อีก 20 บาทต่อกล่อง  เป็นต้น 

ที่มา: Twitter

        ด้านกรมการค้าภายใน ออกมาให้ข้อมูลว่า เบื้องต้น โรงงานผลิตหน้ากากอนามัยในประเทศมีอยู่ 30 แห่งจากเดิม มีอยู่ 9 แห่ง  ซึ่งขณะนี้ได้สั่งให้เพิ่มกำลังผลิตทันทีที่มีความพร้อมซึ่งในภาพรวมพบว่า วัตถุดิบและกำลังผลิต สามารถป้อนสินค้าเข้าสู่ตลาดได้อย่างเพียงพอความต้องการแม้จะมีดีมานด์เพิ่มขึ้นก็ตาม  พร้อมย้ำว่าห้ามปรับขึ้นราคาและให้ใช้โครงสร้างราคาเดิมที่คณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) กำหนดไว้ คือ หน้ากากอนามัยทางการแพทย์ Surgical mask จำหน่ายชิ้นละ 2.50 บาท และหน้ากากอื่นๆ ทั้งผลิตในประเทศและนำเข้าให้ใช้โครงสร้างราคาเดิม

        ขณะที่ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ย้ำว่าหากพบขายเกินราคาที่ กกร.กำหนด พร้อมจะเอาผิดทันที ไม่เว้นแม้แต่ร้านค้าออนไลน์ ขณะเดียวกันได้สั่งการไปทุกจังหวัดทั่วประเทศตรวจสอบราคาจำหน่ายหน้ากากอนามัย เพื่อป้องกันการฉวยโอกาสขึ้นราคาหรือกักตุน  หากประชาชนพบว่ามีการจำหน่ายหน้ากากอนามัยสูงเกินสมควร ให้แจ้งสายด่วน 1569 หรือพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ

        นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ บอกว่า จากการตรวจสอบขณะนี้ยังไม่พบขายเกิดราคา และยังมีวางจำหน่ายตามตลาดทั่วไป อีกทั้งยังเพียงพอกับความต้องการของประชาชน  ทั้งยังได้แนะนำให้ประชาชนสวมใส่หน้ากากผ้าแทน เพราะสามารถซักและใส่ซ้ำได้ไม่จำเป็นต้องใส่หน้ากากอนามัยทางการแพทย์เพื่อเป็นการลดภาระค่าใช้จ่าย 

เกาะติดข่าวที่นี่