รีเซต

สมศักดิ์ ชง ครม.เสนอ บ.ประกันภัย คืนเบี้ยส่วนหนึ่งช่วยสังคม ชี้เคอร์ฟิวอุบัติเหตุลด

สมศักดิ์ ชง ครม.เสนอ บ.ประกันภัย คืนเบี้ยส่วนหนึ่งช่วยสังคม ชี้เคอร์ฟิวอุบัติเหตุลด
มติชน
28 เมษายน 2563 ( 12:54 )
125
สมศักดิ์ ชง ครม.เสนอ บ.ประกันภัย คืนเบี้ยส่วนหนึ่งช่วยสังคม ชี้เคอร์ฟิวอุบัติเหตุลด

 

เมื่อวันที่28 เมษายน ที่ห้องประชุมกระทรวงยุติธรรม นายสมศักดิ์​ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยว่า การประชุมคณะรัฐมนตรีประจำวันที่​ 28 เมษายน​ 2563 ยังคงเป็นการประชุมแบบวิดิโอคอนเฟอเรนซ์ ตนได้เสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีว่าบริษัทประกันภัยที่มีมูลค่าประกันภัยกว่า​ 20,000 ล้านบาท​ต่อปี​ ควรช่วยเหลือสังคม เนื่องจากมาตรการเคอร์ฟิวทำให้ประชาชนอาศัยอยู่กับบ้าน อุบัติเหตุทางรถยนต์บนท้องถนนก็ลดลงการเจ็บป่วยน้อยลง บริษัทประกันควรคืนส่วนหนึ่งของเบี้ยประกัน เพื่อช่วยสังคมอีกทาง จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้ให้หน่วยงานที่ดูแลไปประชุมหารือและดำเนินการให้เหมาะสม

 

นายสมศักดิ์ ยังกล่าวอีกว่า. พล.อ.ประยุทธ์​ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้แสดงความเป็นห่วง​ 2 ประเด็น คือ​ 1.​ การเยียวยาผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตเหตุการณ์จ่าคลั่งกราดยิงกลางเมืองนครราชสีมา โดยตนได้สอบถามไปยังนายเรืองศักดิ์​ สุวารี​ อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ได้ทราบว่า​ เวลานี้การจ่ายเงินเยียวยามีความคืบหน้าไปมากแล้ว โดยมีผู้เสียชีวิต​ 30 ราย​ ช่วยเหลือเยียวยาไปแล้ว​ 27 ราย เป็นเงิน​ 2,940,000 บาท งดจ่าย​ 1 ราย​ จ.ส.อ.จักรพันธ์ ถมมา​ (ผู้ก่อเหตุ) และชะลอ​ 2 ราย​ ระหว่างรอผลการสอบสวนคือ​ (พ.อ.อนันต์โรจน์  กระแส​ ผู้บังคับบัญชา​ และนางอนงค์​ มิตรจันทร์​ แม่ยาย)

 

ส่วนผู้บาดเจ็บทั้งสิ้น​ 68 ราย​ พิจารณาให้ความช่วยเหลือแล้ว​ 55 ราย แบ่งเป็นอนุมัติเยียวยาแล้ว​ 47 ราย​ เป็นเงิน 1,433,586.50 บาท​ งดจ่าย​ 8 ราย เพราะไม่เข้าเกณฑ์ตามกฏหมายและอยู่ระหว่างรวบรวมเอกสาร​ 13 ราย รวมเป็นเงินทั้งสิ้นในการช่วยเหลือเหยื่ออาญาทั้งเสียชีวิตและบาดเจ็บ​ จำนวน 4,373,586.50 บาท

 

นายสมศักดิ์ กล่าวต่อว่า สำหรับในประเด็นที่​ 2 นายกรัฐมนตรียังสั่งการให้เดินหน้าในการตัดวงจรเครือข่ายยาเสพติด​ โดยขอให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด หรือ​ ป​​.ป.ส. สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินหรือ​ ปปง. กรมสรรพากร กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ​ และสำนักงานอัยการ​สูงสุด ได้บูรณาการภายใต้แนวทางของกระทรวงยุติธรรมที่ได้มอบหมายไว้ เพื่อขยายผลการปราบปรามยาเสพติด ไปสู่การยึดทรัพย์นายทุนและเครือข่ายให้มีประสิทธิภาพ