ทุกวันนี้ที่เราอาศัยอยู่ในบ้านที่สะดวกสบาย มีน้ำ มีไฟ มีแอร์ และมีน้ำร้อน ใช้ปรับอุณหภูมิไล่ตั้งแต่เลือกความร้อนแบบอุ่น ๆ ระดับที่ 1 จนถึงปรับระดับไปที่ระดับที่ 5-6 ได้แบบร้อนสุด ๆ ร้อนลวกผิว แต่ก็ยังมีอีกซีกโลกหนึ่งที่ขึ้นชื่อว่าเป็นสถานที่ ๆ เลวร้ายสุด ๆ จนเราเรียกได้ว่าบ้านเป็นสถานที่ ๆ ปลอดภัยน้อยที่สุดเลยก็ว่าได้ เพราะสถานที่เหล่านั้นถูกปกครองไปด้วยอาชญากรรมยา และยาเสพติดมากมาย จนเรียกได้ว่าเป็นสวรรค์ของโจรเลยก็ได้Mafia City ย่านสลัมเล็ก ๆ ของเฮติที่เต็มไปด้วยขยะและอาชญากรเมืองหลวงที่ใหญ่ที่สุดของเฮติ เป็นสถานที่ ๆ เรียกว่า Mafia City เป็นย่านสลัมเล็ก ๆ ที่ถูกปกครองโดยแก๊งมากมาย ผู้ปกครองก็มีประวัติไม่ดีเท่าไร เป็นสถานที่ ๆ ระบบน้ำเสียไม่ดีเท่าไร น้ำในเมืองดังกล่าวเต็มไปด้วยขยะ และของเสียมากมาย สภาพบ้านเมืองข้างทางก็มีแต่ขยะไม่ต่างจากสลัม แถมยุงก็เยอะสุด ๆ คนที่นี่ถ้าไม่ตายด้วยโรคไข้เลือดออก ก็จะตายด้วยโรคเอดส์ และไม่ต้องกลัวนะคะว่าเพราะยาเสพติด เจอได้ทุกบ้านค่ะ คดีลักพาตัว และลักขโมยก็เต็มไปหมด จนเจ้าหน้าที่เฮติไม่ค่อยสนใจจะจัดการเท่าไร เรียกว่าไม่อยากเข้าไปยุ่งจะดีกว่าประชาชนส่วนมากเป็นคนว่างงาน และมากกว่า 80% ที่อ่านหนังสือไม่ออก ในปี 2004 ที่ผ่านมาทางการ UN ได้ส่งทหารพันกว่าคนข้าไปจัดการปัญหาภายในมากมาย ตั้งแต่การฆ่าแมลง กำจัดขยะ และจัดการปัญหายาเสพติด รวมถึงให้ความรู้เด็ก ๆ และประชาชน เหตุการณ์ต่าง ๆ ก็เริ่มสงบลง จนกระทั่งปี 2010 ได้เกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ ทำให้บ้านเมืองระส่ำระสายอีกครั้ง ทำให้นักโทษที่ถูกขังคุกเมื่อ 6 ปีก่อน สบโอกาส แหกคุกมาได้กว่า 3,000 คน และก็ทำให้พื้นที่แห่งนี้กลับมาเป็นพื้นที่ ๆ อันตรายอีกครั้งบราซิลเมืองแห่งยาเสพติดและฆาตกรรมในอดีตทุกคนรู้จักชายหาดที่มีสีสันของประเทศบราซิลมั้ยคะ ที่เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นชายหาดโคปาคาบานา หรือเทศกาลคาร์นิวัลที่โด่งดัง แม้จะมีชื่อเสียงในด้านดี ๆ ในการต้อนรับคนต่างชาติเข้ามา แต่ข้างๆตัวเมืองขนาดใหญ่กลับเป็นสถานที่ๆอันตรายมากๆ ชนิดที่ว่าไม่น่ามาลองเลย เพราะมันคือชุมชนสลัมหรือชุมชนแออัดตามเชิงเขา มันเคยเป็นโครงการสู่การสร้างเมืองแห่งอนาคตมาก่อน สร้างไปสร้างมา ก็กลายเป็นโครงการที่รัฐบาลเลิกให้ความสนใจในที่สุด เมื่อรัฐบาลเลิกให้ความสนใจ ก็กลายเป็นการสร้างบ้านไม้บ้านปูนฉาบอิฐแบบไม่สนใจกันเลยว่า ที่ไหนคือที่ไหน มีอะไรก็จับวาง เชิงเขานี้เลยเต็มไปด้วยหมู่บ้านและเพราะโครงสร้างของเนินเขาที่สูง จนมองเห็นเมืองริโอและเมืองสำคัญที่สุด สถานที่แห่งนี้จึงกลายเป็นจุดศูนย์กลางในจุดที่พักของการส่งออกโคเคนไปทั่วยุโรป ขายเหมือนสินค้า OTOP กลายเป็นเมืองของยาเสพติด และเส้นสายเบอร์หนึ่งที่ขาดไปไม่ได้เลย ก็คือ นาร์โคส แต่น่าเสียดายที่ช่องทางอาชีพของเจ้าพ่อยาเสพติด และนักค้าโคเคนไม่ยาวนานเท่าไร เพราะโดนตำรวจยิงตายเมื่อปี 2005 ที่ผ่านมาคุณรู้หรือเปล่าว่าเทศกาลบอลลูนสุดอลังการที่จัดขึ้นมานั้นในประเทศบราซิลนั้น ได้ทำให้รัฐบาลบราซิลปวดหัวมากแค่ไหน เพราะเมืองริโอ เดอจาเนโรที่จัดนั้นนับว่าเป็นเมืองที่อันตราย จนถูกขนานนามว่าเป็นเมืองแห่งฆาตรกรรมในอดีต เมืองนี้เคยเป็นเมืองที่เจริญรุ่งเรืองถึงขีดสุดเมื่อปี 1950 เป็นเมืองใหญ่แห่งอุตสาหกรรมยานยนต์ ก่อนที่ผลกำไรบริษัทจะดิ่งเหวลงเรื่อย ๆ เมื่อบริษัทผลิตอะไหล่ยานยนต์ และส่งออกรถยนต์อย่างประเทศญี่ปุ่นเข้ามาตีตลาด และทำให้อุตสาหกรรมยานยนต์ที่เคยรุ่งเรือง กลายเป็นซากแห่งประวัติศาสตร์มาก่อน และตั้งแต่ปี 2000 เมืองก็ถูกทิ้งร้างไม่มีใครเข้ามาดูแล จนกลายเป็นตึกร้างไม่มีที่ผู้พักอาศัย ไม่ว่าจะเป็นตึกสูง โรงงานต่าง ๆ บ้านคนมากมาย จนเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม ปี 2013 บริษัทรถยนต์ที่อยู่นานที่สุดก็ได้ประกาศล้มละลาย หลังจากมีหนี้สินถึง 180 ล้านล้านดอลลาร์ พนักงานที่ทำงานอยู่ อยู่ดี ๆ ก็กลายเป็นคนที่ว่างงานและตกงาน ความยากจนเกิดขึ้นไปทั่วเมือง แน่นอนว่าคดีอาชญากรรมก็พุ่งขึ้นมาด้วยอย่างหยุดยั้งไม่ได้ จนทำให้ชาวบ้านเวลาไปไหนมาไหน ต้องพกปืนออกจากบ้าน ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางไปทำงาน จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ และ FBI พากันพูดว่า สถิติการก่ออาชญากรรมของเมืองนี้โคตรสูงเลยบอกได้คำเดียวว่าเมืองนี้ถ้าไม่จำเป็นอย่าเข้ามาจะดีกว่าบทความที่น่าสนใจอื่นๆ : มาเรียนรู้ประวัติศาสตร์จีนนอกตำราเรียนดีกว่าฝึกนิสัยเหล่านี้แล้วเงินล้านจะเป็นของคุณจากการลักพาตัวสู่การฆาตกรรมที่คนติดตามระดับประเทศขอขอบคุณ เครดิตรูปภาพ หน้าปกรูปภาพประกอบที่ 1 โดย Sammy-Williams / 2 โดย TheDigitalArtist/ 3 โดย sammisreachers