"โอ๊ยแม่...เร่งอะไรนักหนา หนูพร้อมแล้ว"เสียงโอดครวญจากลูกสาววัยรุ่นถึงผู้เป็นแม่ แต่ถึงกระนั้นก็ยอมเดินตามขึ้นรถโดยดี แต่ไม่วายมีเสียงบ่นลอดมาให้พอชื่นหู "ปุบปับทัวร์อีกแล้วสิเนี่ย" วันนี้ฟ้าสวย อากาศดี ฉันผู้เป็นแม่นึกครึ้มอยากพาครอบครัวออกไปนอกบ้านด้วยกันบ้าง ทุกวันนี้แม้เห็นหน้ากันทุกวัน แต่ละคนก็มีหน้าที่วุ่นกับภาระงานของตัวเอง จะมีบ้างก็แค่พากันไปห้างสรรพสินค้าเดินซื้อของ การได้ออกมาพบเจอสิ่งแปลกใหม่มันก็ช่วยเติมพลังชีวิตได้ดีเหมือนกันนะ เฮ้อ..ดูท่าต้องรบกับเจ้าสมาร์ทโฟนในมือลูกสาวกันยกใหญ่แน่ แผนการเดินทางของเราวันนี้มุ่งสู่จังหวัดอยุธยา จังหวัดที่ไม่ไกลจากกทม. เดินทางสะดวก ความตั้งใจแรกคิดว่าคงไปวัด ไหว้พระขอพร เพราะทัวร์เรามาแบบปุบปับ กระทันหัน "คุณๆๆๆ..ข้างหน้าทำไมสวยจัง ทั้งตึกทั้งต้นไม้ดูร่มรื่น เลี้ยวเลย เลี้ยวเข้าไปดู"ที่แห่งนี้คือ พิพิธภัณฑ์..ศิลป์แผ่นดิน ARTS OF THE KINGDOM ป้ายบอกเราไว้ว่าอย่างนั้น "สวัสดีครับ...เข้ามาเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ เลี้ยวขวาจอดรถได้เลยครับ ทางเราจะมีรถบริการนำส่งถึงตึกในส่วนพิพิธภัณฑ์ เชิญครับ" หลังจากรถได้พาเราพร้อมผู้เยี่ยมชมท่านอื่นๆอีกเต็มคันรถมาถึง อาคารที่สร้างได้อย่างทันสมัยแต่คงความสวยงามแบบไทยๆ ทำให้เรารู้ได้ว่า คงมีแต่พวกเราที่มาพิพิธภัณฑ์แห่งนี้แบบไม่มีข้อมูลใดๆ (ต้องขึ้นข้อความต่อท้าย...เป็นพฤติกรรมไม่เหมาะสมไม่ควรเลียนแบบ555) เข้ามายังตัวอาคารเราทุกคนต้องตะลึงงันกับแผ่นไม้แกะสลักแผ่นใหญ่มากตั้งอยู่กลางห้องรับรองซึ่งจัดไว้เป็นห้องจำหน่ายตั๋ว ด้านหลังมีพนักงานสองท่านแต่งกายสุภาพพูดจานิ่มนวลประดุจดังชาววัง จนเราต้องหันกลับมาถามสมาชิกว่าพวกเราควรเข้าไปไหม เจ้าลูกสาวที่ดูจะตื่นตาตื่นใจกับความสวยงามของสถานที่ถึงขั้นลากพ่อไปถ่่่่่่่ายรูป เซลฟี่กันอย่างสนุกสนาน ก็ตอบกลับมาว่า "เข้าสิแม่ มาถึงแล้ว โห...สวยมาก เห็นของจริงถึงรู้ว่าใหญ่โต อลังการมาก แต่ดูจากรูปที่หนูถ่ายไม่น่าประทับใจเท่านะแม่ " แค่เห็นท่าทางของลูกที่ตื่นเต้นพูดจนน้ำไหลไฟดับผิดกับตอนอยู่บ้านที่เอาแต่ก้มหน้าดูจอ ฉันก็ไม่ลังเลที่จะซื้อตั๋วในทันที"ผู้ใหญ่ราคาเต็ม เด็กนักเรียนครึ่งราคาคะ ทางเราต้องขออนุญาตช่วยเก็บสัมภาระไว้ที่ตู้เก็บจะมีกุญแจล็อคได้ นำติดตัวไปแค่กระเป๋าสตางค์ กล้อง มือถือ งดนำเข้านะค่ะ"เจ้าลูกสาวดูอิดออดนิดหน่อยเวลายื่นมือถือมาเก็บ ท่าทางเหมือนใจจะขาดเวลาห่างจากคนรัก ดูแล้วก็น่าขำ ในส่วนนี้ไม่ต้องห่วงเรื่องความปลอดภัย เขามีเจ้าหน้าที่คอยเฝ้าดูแล และตู้เก็บก็เป็นแบบใสมองเห็นได้ทั่วทั้งตู้ หายห่วงได้ พอพ้นจากห้องเก็บของ ก็มาถึงส่วนจัดแสดง ด้านหน้าทางเข้ามีเจ้าหน้าที่คอยอธิบายถึงการใช้เครื่องฟังบรรยาย พูดถึงเจ้าเครื่องนี้ เป็นอะไรที่แปลกใหม่มากกับการเข้าพิพิธภัณฑ์ของพวกเรา ปกติจะได้แค่อ่านข้อมูลตามป้ายข้างๆผลงาน แต่ตัวเครื่องนี้จะช่วยบอกประวัติ ความหมาย และสิ่งน่ารู้ต่างๆของผลงานจัดแสดงตามตัวเลขที่เขาระบุไว้หน้าชิ้นงาน เมื่อเรากดตัวเลขก็จะมีเสียงบรรยายทำให้เรารู้ลึก เข้าถึงผลงานแต่ละชิ้นดีขึ้นมาก เด็กๆดูสนุกสนานกับเจ้าเครื่องนี้มาก จากปกติพิพิธภัณฑ์ทั่วไปมักจะเดินดูไม่นานก็ผ่านเลย ที่สำคัญเห็นเจ้าลูกสาวดูจะเพลิดเพลินสนใจจนลืมเรื่องมือถือไปแล้วกระมัง ...ช่างดีเสียจริงๆในจุดจัดแสดงคงไม่มีภาพถ่ายมาให้ได้ชมกันเพราะเป็นข้อห้าม ซึ่งน่าเสียดายมาก แต่เชื่อเถอะว่าถ้าคุณได้ลองมาเยี่ยมชมด้วยตาคุณเองแล้วจะไม่ผิดหวังแน่นอน พวกเราได้เก็บเกี่ยวความรู้ ความเข้าใจทั้งในเรื่องวัตถุประสงค์ของมูลนิธิสงเสริมศิลปาชีพ ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถว่าพระองค์ทรงทำเพื่อประชาชนมากมายนัก ทรงให้โอกาสลูกชาวบ้านแสดงฝีมือ ได้เรียนรู้เพิ่มเติมศิลปะดั้งเดิมของบรรพบุรุษและนำมาต่อยอด รักษาไว้ให้ดำรงอยู่อวดสายตาชาวโลก แม้แต่คนไทยเองอย่างพวกเรา ยังได้ความรู้ใหม่ๆเลย เช่น วิธีการถมทอง เคยได้ยินมานานตอนเรียน พึ่งจะได้ยลโฉมความงาม และวิธีการทำจากวิดิทัศน์ที่จัดแสดง เอ๊ะ...หรือว่าตอนเรียนเราเองที่ไม่ตั้งใจนะ ..แต่ยังไงก็แล้วแต่ที่แห่งนี้ช่วยให้เราได้รู้และภาคภูมิใจว่า คนไทยมีฝีมือมากขนาดไหน ทางเจ้าหน้าที่ยังเล่าให้พวกเราฟังว่าท่านทรงชุบชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้านบางคนให้กลับมามีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นอีกด้วย เมื่อมาเยือนที่แห่งนี้แล้วคุณจะทึ่งเหมือนพวกเราครอบครัวปุบปับทัวร์ ขนาดมาแบบไม่มีแพลนใดๆยังเก็บเกี่ยวความสุข ความประทับใจ และความภาคภูมิใจกลับไปเต็มกระเป๋า ดังคำที่ว่า "สิบปากว่าไม่เท่าหนึ่งตาเห็น"