ฤดูเกี่ยวข้าวนาปีนาปรัง เดือนไหน วิธีเกี่ยวข้าว ไร่ละกี่บาทในช่วงที่ผู้เขียนเรียนอยู่ชั้นประถมและมัธยมนั้นมีโอกาสได้เห็นการทำนาตลอด ผู้เขียนเป็นลูกชาวนาค่ะ พ่อกับแม่มีอาชีพเป็นเกษตรกรรม แต่ผู้เขียนยังไม่เคยได้ทำนาที่เป็นการลงมือในทุกขั้นตอนด้วยตัวเอง ส่วนใหญ่จะเป็นการช่วยพ่อกับแม่มากกว่า ดังนั้นผู้เขียนจะเห็นตลอดว่าการทำนาชาวนาทำอะไรบ้าง ฤดูกาลเกี่ยวข้าวนาปีนาปรังคือเดือนไหน ชาวนาเกี่ยวข้าวกันยังไงและมีค่าใช้จ่ายกี่บาทฤดูการเกี่ยวข้าวสำหรับนาปีจะเป็นคนละเดือนกันกับนาปรัง คือ การทำนาปีจะเริ่มทำในช่วงเดือนพฤษภาคม ข้าวที่นำมาปลูกในนาปีนี้มีอายุการเก็บเกี่ยวยาว เมื่อเทียบกับชนิดของพันธุ์ข้าวที่นำมาปลูกในช่วงนาปรัง จึงพบว่า การเกี่ยวข้าวสำหรับนาปีจะมีขึ้นในช่วงเดือนพฤศจิกายนของทุกปีไปเรื่อยๆ จนถึงประมาณเดือนธันวาคม ขึ้นอยู่กับว่าใครทำนาก่อนหลัง สำหรับข้าวในนาปรังนั้นจะมีการเกี่ยวข้าวในช่วงเดือนเมษายนของทุกปี ซึ่งถ้าใครเป็นเด็กจะรู้ว่าเป็นช่วงที่ปิดเทอมใหญ่ และเด็กหลายคนจะชอบบรรยากาศในช่วงการเกี่ยวข้าวนาปรังการเกี่ยวข้าวในแต่ละปีจะมีเกิดขึ้นอย่างน้อยจำนวน 2 ครั้ง สำหรับการทำนาที่อำเภอโนนดินแดง จังหวัดบุรีรัมย์ โดยจะเป็นการเกี่ยวข้าวของนาปีและนาปรัง การเกี่ยวข้าวในอดีตนั้นอาศัยการเกี่ยวข้าวด้วยมือเป็นหลักด้วยเคียวเกี่ยวข้าว ผู้เขียนเคยมีประสบการณ์เกี่ยวข้าวด้วยเคียวเกี่ยวข้าวค่ะ ถึงแม้ว่าสมัยนี้คนจะหันมาเกี่ยวข้าวด้วยรถเกี่ยวข้าวกันแล้ว แต่ผู้เขียนก็ยังมีทักษะนี้ติดตัวอยู่ค่ะการเกี่ยวข้าวด้วยเคียวเกี่ยวข้าวนั้นใช้เวลาค่อนข้างมากกว่าจะเสร็จ 1 ไร่ ถ้ามีคนเกี่ยวข้าวประมาณ 4-5 คน อาจจะเสร็จภายในหนึ่งวัน คนที่เกี่ยวข้าวด้วยวิธีนี้จะเหน็ดเหนื่อยและปวดเมื่อยมากค่ะ จากแดดที่ร้อนและจากการก้มลงต่ำเพื่อเกี่ยวข้าวเป็นระยะเวลานานหลายชั่วโมง และค่าใช้จ่ายในการเกี่ยวข้าวแบบนี้ค่อนข้างมาก หลักๆ จะเป็นจ่ายค่าแรงงานต่อวันต่อคน เมื่อเทียบกับการเกี่ยวข้าวด้วยรถเกี่ยวข้าว แถมยังมีขั้นตอนอีกหลายขั้นตอนที่ต้องทำหลังจากเกี่ยวข้าวเสร็จแล้วอีกต่างหาก เช่น การตากข้าว การมัดข้าว การขนข้าวและการนวดข้าว ปัจจุบันยังสามารถพบเห็นการเกี่ยวข้าวแบบนี้ได้โดยเฉพาะพื้นที่นาที่รถเกี่ยวข้าวเข้าถึงยาก!การเกี่ยวข้าวด้วยรถเกี่ยวข้าวดีมากค่ะ ต้องขอบคุณคนที่คิดค้นรถเกี่ยวข้าวมากๆ ที่ทำให้ขั้นตอนในการเกี่ยวข้าวลดลงไปเยอะ ค่าใช้จ่ายน้อยลง ใช้เวลาสั้นลงในการเกี่ยวข้าว แถมคนทำนาเหนื่อยน้อยลง ลดปัญหาด้านสุขภาพจากการที่ต้องก้มเกี่ยวข้าว และอื่นๆ อีกมากมาย การเกี่ยวข้าวด้วยรถเกี่ยวข้าวถือเป็นวิธีการที่ชาวนาเลือกใช้มากที่สุดในปัจจุบันนี้ค่ะการเกี่ยวข้าวด้วยรถเกี่ยวข้าวนั้นจะเหลือขั้นตอนเพียง การตากข้าวและการขนข้าวขึ้นไปเก็บไว้ในยุ้งฉางเท่านั้น เพราะการเกี่ยวข้าวด้วยรถเกี่ยวข้าวนั้นเป็นการรวบรวมเอาขั้นตอนของการเกี่ยวข้าว การขนข้าวและการนวดข้าวไปไว้อยู่ในรถเกี่ยวข้าวเรียบร้อยแล้ว จึงพบว่า การเกี่ยวข้าวด้วยรถเกี่ยวข้าวนั้นสะดวกและรวดเร็วมากๆ ค่ะ ถ้ามีนาอยู่ 6 ไร่ จะใช้เวลาเกี่ยวข้าวไม่ถึง 2 ชั่วโมงเลยค่ะ ซึ่งถ้าใช้คนไปเกี่ยวข้าวด้วยเคียวเกี่ยวข้าวในพื้นที่ขนาดเท่ากันนี้อาจต้องใช้เวลาน่าจะเกือบหนึ่งอาทิตย์ได้สำหรับแค่ขั้นตอนเดียวคือเกี่ยวข้าวออกมาจากต้นเท่านั้น! นี่ยังไม่ได้พูดถึงขั้นตอนอื่นจึงไม่แปลกใจที่เรามักจะได้ยินว่า "การทำนาค่อนข้างลำบาก" เพราะมีขั้นตอนหลายอย่างและต้องใช้แรงงานมากโดยเฉพาะในช่วงเกี่ยวข้าว การเกี่ยวข้าวด้วยรถเกี่ยวข้าว ก็ยังมีข้อเสียบ้างแต่เท่าที่ผู้เขียนได้สังเกตเห็นนั้น ดูเหมือนว่าคนทำนาจะรับได้กับข้อเสียที่เกิดขึ้นจากการเกี่ยวข้าวด้วยรถเกี่ยวข้าวค่ะ เพราะอย่างน้อยก็ไม่ต้องเสียแรงงานมากในการเกี่ยวข้าวด้วยตัวเอง! เหนื่อยน้อยลง มีเวลาเอาไปทำหรือคิดพัฒนาการทำนาให้ดีขึ้นโดยอาจพบว่ามีรวงข้าวบางส่วนจะไม่ถูกเกี่ยวด้วยรถเกี่ยวข้าว เช่น ต้นข้าวที่อยู่ต่ำเกินไป หรืออยู่ติดคันนาหรือถนนมากเกินไป เพราะส่วนที่เกี่ยวข้าวของรถเกี่ยวข้าวจะเข้าไม่ถึง เนื่องจากอาจเกินความเสียหายต่อรถเกี่ยวข้าวได้ ถ้าต้องการฟางข้าวจะต้องมาขนเอาเองซึ่งอยู่ในทุ่งนาซึ่งก็ทำได้ลำบากถ้ามีโคลนตม เพราะการเกี่ยวข้าวด้วยรถเกี่ยวข้าวฟางสดจะตกอยู่ในทุ่งนา จะต้องรอให้แห้งจึงจะสามารถมาเก็บได้ทีหลัง จนในตอนหลังมานี้ถ้าใครขับรถผ่านไปแถวทุ่งนาในช่วงฤดูหลังเก็บเกี่ยวข้าวจะพบเห็นรถอัดฟางข้าวรับจ้างอัดฟางข้าวเป็นก้อน ข้าวเปลือกที่ได้จากการเกี่ยวข้าวด้วยรถเกี่ยวข้าวจะเป็นข้าวเปลือกสด ข้าวส่วนนี้สามารถนำไปขายได้เลย โดยขายให้กับโรงสีใกล้บ้าน ร้านที่รับซื้อข้าวเปลือกหรือขายให้คนใดคนหนึ่งในชุมชน เพราะมีบางคนที่ไม่มีนาแล้วต้องการข้าว เขาจะอาศัยการซื้อข้าวเปลือกสดแล้วเอาไปตากและสีเอง ทำให้มีข้าวไปไว้กินตลอดทั้งปีในราคาที่ถูกกว่าเมื่อเทียบกับว่าไปซื้อข้าวสารที่ตลาดโดยตรงเมื่อพบว่ารวงข้าวมีสีเขียวปนเหลืองอ่อนเราจะสามารถเกี่ยวข้าวได้ แต่ก็มีชาวนาบางคนที่รอให้ข้าวมีสีเหลืองกลางๆ ค่อนไปทางสีเหลืองเข้มจึงจะเกี่ยวข้าว ผู้เขียนได้สังเกตเห็นว่า การทำนาจริงๆ แล้ว ชาวนาแต่ละคนยึดเอาประสบการณ์ของตัวเองมาใช้เป็นหลักมากกว่าการมาเปิดอ่านข้อมูลในทฤษฎี จึงไม่แปลกที่แต่ละคนก็จะมีแนวทางของตัวเองในการเกี่ยวข้าวด้วย ซึ่งสถานการณ์นี้ทำให้ผู้เขียนได้เรียนรู้ว่าจะดีมากถ้าวันหนึ่งผู้เขียนได้ทำนาของตัวเอง แล้วไปรวบรวมเอาสิ่งที่ชาวนาแต่ละคนทำได้ดีมาประยุกต์ใช้ในนาของผู้เขียนเองน่าจะเข้าท่าดีกว่ามาลองผิดลองถูกด้วยตัวเอง!ผู้เขียนมีนาเป็นของตัวเองเหมือนกันค่ะเป็นมรดกที่พ่อกับแม่แบ่งให้แต่ยังไม่ได้เริ่มการทำนาด้วนตัวเอง สมมติผู้เขียนปลูกข้าวทั้งนาปีและนาปรัง จำนวน 2 ไร่ และเมื่อถึงฤดูกาลเกี่ยวข้าว ผู้เขียนจะต้องเตรียมเงินสดเอาไว้ไม่น้อยกว่า 1,500 บาทต่อครั้งเพื่อจ่ายค่าเกี่ยวข้าว โดยภาพรวมของค่าเกี่ยวข้าวด้วยรถเกี่ยวข้าวจะตกอยู่ที่ 750-800 บาท ต่อไร่ ตัวเลขนี้มีเปลี่ยนแปลงตลอดค่ะ คนกำหนดราคาคือเจ้าของรถเกี่ยวข้าว ซึ่งแต่ละปีก็จะแตกต่างกันออกไปค่ะ บอกตัวเลขแน่นอนไม่ได้ แต่ก็มีจุดที่ชาวนารับได้และยอมจ่ายเหมือนกันค่ะ ค่าเกี่ยวข้าวด้วยรถเกี่ยวข้าวที่มีราคาขึ้นลงนั้นมีปัจจัยหลายอย่างเป็นตัวกำหนดค่ะ จากที่ผู้เขียนได้เก็บข้อมูลมานั้น พบว่า สภาพของต้นข้าว ข้าวที่ล้มจะต้องจ่ายค่าเกี่ยวข้าวแพงกว่า ราคาน้ำมันที่สูงขึ้นมีผลโดยตรงที่ทำให้ต้องจ่ายค่าเกี่ยวข้าวเพิ่มขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทั้งนี้ยังรวมไปถึงว่าถ้าปีไหนมีจำนวนของรถเกี่ยวข้าวที่มารับจ้างเกี่ยวข้าวในโนนดินแดงน้อย แล้วความต้องการเกี่ยวข้าวมีมากสถานการณ์นี้ก็ยังทำให้ค่าเกี่ยวข้าวแพงขึ้นตามไปด้วย ซึ่งก็เป็นกลไกตามหลักทางเศรษฐศาสตร์ที่เกี่ยวกับอุปสงค์และอุปทานถามว่าแพงไหม? โดยส่วนตัวของผู้เขียนมองว่าการเกี่ยวข้าวด้วยรถเกี่ยวข้าวยังไงก็ถูกค่ะ การจ่ายค่าเกี่ยวข้าวด้วยรถเกี่ยวเป็นการซื้อเวลาที่สั้นลงในการเกี่ยวข้าว อีกทั้งลดปัจจัยเสี่ยงต่อปัญหาด้านสุขภาพลง ถ้าใครเคยเกี่ยวข้าวด้วยเคียวเกี่ยวข้าวเขาแทบจะกราบงามๆ ที่มีรถเกี่ยวข้าวในเลือกใช้ เพราะมันไม่ง่ายสำหรับการเกี่ยวข้าวด้วยสองมือยิ่งถ้ามีจำนวนหลายไร่คนรับจ้างที่ใช้เคียวเกี่ยวข้าวเป็นนั้นมีแต่คนรุ่นเก่า แถมการเกี่ยวข้าวด้วยเคียวต้องการคนที่ทำได้รวดเร็วและชำนาญ ซึ่งหลายคนก็ได้ล้มหายตายจากไปหมดแล้ว ผู้เขียนมองว่าการเกี่ยวข้าวด้วยเคียวเกี่ยวข้าวพบเห็นได้ยากในคนรุ่นใหม่ ถึงแม้ว่าจะเป็นคนที่อาศัยอยู่ในชนบทที่มีบ้านทำนาก็ตาม ถึงแม้ว่าการเกี่ยวข้าวด้วยรถเกี่ยวข้าวจะยังมีข้อเสียอยู่บ้าง แต่ผู้เขียนก็ยังคิดว่าการเกี่ยวข้าวทั้งนาปีและนาปีปรังควรเลือกใช้รถเกี่ยวข้าวหากสามารถทำได้ เพราะเป็นวิธีการที่ดีที่สุดแล้วในปัจจุบันต่อให้ราคาค่าเกี่ยวข้าวจะผันผวนบ้างก็ตาม!เครดิตภาพปกจากผู้เขียน ออกแบบใน Canvaเครดิตภาพประกอบเนื้อหาจากผู้เขียนบทความอื่นที่น่าสนใจรีวิวสินเชื่อฟินนิกซ์ SCB สินเชื่อออนไลน์ ดีไหมวิธีก่อไฟเตาถ่าน ด้วยไม่และขี้ไต้ ไฟติดได้ง่ายๆวิธีเปลี่ยนตัวเองให้ดีขึ้น สรุปความรู้จาก ท๊อป จิรายุส ผู้ก่อตั้งบิทคับ7-11 Community ห้องลับเมาท์มอยของกินของใช้ในเซเว่น อะไรดีอะไรใหม่ ต้องรู้ ต้องคุย ต้องแชร์