ADB ชี้ภาษีสหรัฐฯ-ศก.จีนกดดันเอเชีย

ในรายงานแนวโน้มการพัฒนาเอเชีย ADB คาดการณ์ว่าการเติบโตในประเทศกำลังพัฒนาในเอเชียจะลดลงเล็กน้อยเป็น 4.9% ในปี 2568 ซึ่งเป็นอัตราที่ช้าที่สุดนับตั้งแต่ปี 2565 และชะลอตัวต่อไปเป็น 4.7% ในปี 2569 จาก 5.0% ในปี 2567
การคาดการณ์ดังกล่าวได้รับการสรุปก่อนที่สหรัฐฯ จะเปิดเผยอัตราภาษีนำเข้าใหม่ที่ครอบคลุมเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ADB กล่าวในงานแถลงข่าวสำหรับการเผยแพร่รายงาน
อัลเบิร์ต พาร์ค หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ ADB กล่าวว่าประเด็นก็คือภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ จะถูกบังคับใช้อย่างเต็มที่หรือไม่ ซึ่งจะส่งผลให้การเติบโตที่ลดลงในการคาดการณ์พื้นฐานของเรา”
ทั้งนี้ ประเทศกำลังพัฒนาในเอเชีย ตามคำจำกัดความของ ADB ประกอบด้วย 46 ประเทศในเอเชียแปซิฟิกที่ทอดยาวตั้งแต่จอร์เจียไปจนถึงซามัว และไม่รวมประเทศต่างๆ เช่น ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์
ปาร์ค กล่าวว่าผลกระทบในท้ายที่สุดของการเก็บภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ ยังคงไม่แน่นอน เนื่องจากขอบเขตและเวลาอาจเปลี่ยนแปลงได้เนื่องจากการเจรจา ความล่าช้า หรือการยกเว้น ในทางกลับกัน การตอบโต้ที่รุนแรงขึ้นและการลุกลามที่เพิ่มมากขึ้นอาจส่งผลให้เกิดผลกระทบที่ใหญ่กว่า”
นอกจากนี้ การคาดการณ์พื้นฐานที่อ่อนแอลงสะท้อนถึงการชะลอตัวที่คาดการณ์ไว้ในประเทศจีน โดยคาดการณ์การเติบโตที่ 4.7% ในปีนี้ ลดลงจาก 5.0% ในปี 2567 และชะลอตัวลงอีกเป็น 4.3% ในปี 2569 แม้กระทั่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเคยได้รับประโยชน์จากการเบี่ยงเบนทางการค้าระหว่างสงครามการค้าสหรัฐฯ-จีนในปี 2561 คาดว่าจะสูญเสียกำลังบางส่วน โดยการเติบโตในอนุภูมิภาคจะอยู่ที่ 4.7% ในปีนี้และถัดไป ลดลงเล็กน้อยจาก 4.8% ในปี 2567
ADB กล่าวว่า ดาวเด่นคือเอเชียใต้ ซึ่งความต้องการภายในประเทศที่แข็งแกร่งคาดว่าจะผลักดันการเติบโต 6.0% ในปี 2568 และ 6.2% ในปี 2569 เพิ่มขึ้นจาก 5.8% ในปีที่แล้ว
ขณะที่อัตราเงินเฟ้อในภูมิภาคคาดว่าจะลดลงเหลือ 2.3% ในปีนี้และ 2.2% ในปีหน้า จาก 2.6% ในปี 2567 เนื่องจากราคาน้ำมันทั่วโลกและสินค้าโภคภัณฑ์อื่น ๆ ที่ลดลง สิ่งนี้น่าจะช่วยให้ธนาคารกลางสามารถผ่อนคลายทางการเงินต่อไปได้ ADB กล่าว แม้ว่าจะในอัตราที่ช้าลงเมื่อพิจารณาจากความคาดหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้นานขึ้น